SCB จูเลียส แบร์ มองตลาดโลกโค้งสุดท้าย ยังคงฟื้นตัวต่อเนื่อง
ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ มองตลาดโลกโค้งสุดท้ายของปี ยังคงฟื้นตัวต่อเนื่องจากนโยบายทางด้านการเงินและการคลังของธนาคารกลาง แนะลงทุนต่อเนื่องโดยเน้นลงทุนแบบ Selective
6 พฤศจิกายน 2563 – “บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ จำกัด” (SCB Julius Baer) บริษัทร่วมทุนระหว่าง“ธนาคารไทยพาณิชย์” ธนาคารพาณิชย์ไทยแห่งแรกของประเทศ และ “จูเลียส แบร์” (Julius Baer) ผู้นำธุรกิจบริหารความมั่งคั่งชั้นนำระดับโลกจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มองตลาดโลกไตรมาสสุดท้ายของปี 2563 เชื่อว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกยังคงดำเนินต่อไปจากแรงสนับสนุนของนโยบายทางด้านการเงินและการคลัง ซึ่งส่งผลให้ยังคงมีมุมมองที่ดีต่อการลงทุน โดยแนะนำให้นักลงทุนยังคงการลงทุนอย่างต่อเนื่องโดยเน้นการลงทุนแบบ Selective และเน้นกระจายการลงทุนเป็นหลัก
มร. โจเซฟ คาเซราส กรรมการผู้จัดการ ผู้บริหารฝ่ายแนะนำการลงทุนและผลิตภัณฑ์ บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ จำกัด กล่าวว่า “จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลกับเศรษฐกิจทั่วโลกในปีนี้มีการปรับตัวอย่างผันผวนในช่วงต้นปี รวมทั้งเกิดการเปลี่ยนแปลงในเชิงโครงสร้างและพฤติกรรมของผู้คนที่เปลี่ยนแปลงไป ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ เชื่อว่าต่อจากนี้ไปตั้งแต่ช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2563 เศรษฐกิจทั่วโลกจะฟื้นตัวดีขึ้นจากการใช้นโยบายทางด้านการเงินและการคลัง ส่งผลให้เรายังคงมีมุมมองที่ดีต่อตลาดหุ้น โดยแนะนำให้นักลงทุนยังคงลงทุนอย่างต่อเนื่องแต่ให้เน้นการลงทุนแบบ Selective และเน้นกระจายการลงทุนเป็นหลัก โดยในระยะสั้นนี้แม้จะมีความผันผวนเกิดขึ้นในช่วงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ แต่ไม่ว่าใครจะได้เป็นผู้ชนะก็ตาม เราคาดว่ากลุ่มที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) และกลุ่มอุตสาหกรรม (Industrial) จะเป็นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากนโยบายในการกระตุ้นเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม เมื่อมองในระยะยาว ด้วยพฤติกรรมของผู้คนที่ใช้ชีวิตและการทำงานที่เปลี่ยนไป กลุ่มการลงทุนที่น่าสนใจ จึงเป็นกลุ่มเทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โครงสร้างพื้นฐานดิจิตอล (Digital Infrastructure) และ เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับด้านสุขภาพ (Health Tech) โดยเน้นการลงทุนในสหรัฐฯและจีน”
ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ มีความเชี่ยวชาญด้านการบริหารความมั่งคั่งในระดับสากลแบบครบวงจร (One Stop Wealth Management Service) ด้วยบริการที่หลากหลายครอบคลุมทั้งงานวิจัยด้านเศรษฐกิจและการลงทุนทั่วโลก, การให้คำแนะนำกลยุทธ์การลงทุน, การบริหารพอร์ตการลงทุนโดยผู้จัดการกองทุน (Discretionary Portfolio Mandates), บริการซื้อขายหลักทรัพย์ โดยมีผลิตภัณฑ์การลงทุนที่หลากหลาย รวมทั้งการวางแผนการส่งต่อความมั่งคั่ง (Wealth Planning) ตลอดจน การทำมูลนิธิ หรือองค์กรในรูปแบบต่างๆในการตอบแทนสังคม (Philanthropy)
“สำหรับลูกค้าที่สามารถรับความผันผวนจากการลงทุนในหุ้นได้ เราแนะนำการลงทุนในรูปแบบของ Mandate ที่ชื่อว่า Global Excellence ซึ่งเป็น Core Investment ที่มีทีมผู้จัดการลงทุนของ จูเลียส แบร์ เป็นผู้บริหาร โดยจะเน้นลงทุนในหุ้นคุณภาพดีชั้นนำทั่วโลกที่มีการเติบโตของกำไรที่แข็งแกร่ง มีกระแสเงินสม่ำเสมอ และมีหนี้สินน้อย ซึ่งในระยะเวลากว่า 10 ปีที่ผ่านมา Global Excellence มีผลการดำเนินงานที่ดีทั้งในช่วงตลาดขาขึ้น และช่วยลดความผันผวนในช่วงตลาดขาลง สามารถทำผลตอบแทนได้มากกว่าดัชนีชี้วัดและมีผลการดำเนินงานอยู่ในระดับต้น ๆ เมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมที่มีนโยบายการลงทุนในแบบเดียวกัน นอกจากนี้เราก็ยังมี Mandate อื่น ๆ ตามระดับความเสี่ยงที่ลูกค้ารับได้ ทั้งแบบลงทุนผสมที่เป็น Multi-Asset หรือ Mandate ประเภทตราสารหนี้ ซึ่งผลิตภัณฑ์ และโซลูชันที่หลากหลายนี้สามารถออกแบบให้ตรงตามความต้องการของลูกค้าแต่ละราย ทั้งในด้านสินค้าและสกุลเงิน เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าอีกด้วย” มร. โจเซฟ กล่าวเสริม
ภาพข่าวหลังงาน
ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ เดินหน้ามอบประสบการณ์ใหม่แบบไร้ขีดจำกัดด้านการให้ความรู้เรื่องการลงทุนเพื่อบริหารความมั่งคั่งอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดจัดงานสัมมนาเอ็กซ์คลูซีฟSCB Julius Baer Market Outlook Q4/2020 ภายใต้หัวข้อ Knowing the Market. Winning the Crisis. ให้ความรู้เรื่องทิศทาง และแนวโน้มการลงทุนในตลาดต่างประเทศ พร้อมต่อยอดความมั่งคั่งสำหรับลูกค้าที่มีความมั่งคั่งระดับสูง (Ultra High Net Worth Individuals – UHNWIs) โดยมี นางสาวลลิตภัทร ธรณวิกรัย (กลาง) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารพร้อมด้วย มร.โจเซฟ คาเซราส (ขวา) กรรมการผู้จัดการ ผู้บริหารฝ่ายแนะนำการลงทุนและผลิตภัณฑ์ และมร. เอเดรียน มาเซอนาวเออร์ (ซ้าย) กรรมการผู้จัดการ ผู้บริหารฝ่ายการบริหารความมั่งคั่ง บริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ จำกัด ร่วมเปิดงานสัมมนา เมื่อเร็วๆ นี้