สรุปข่าว 21-11-63
แดงเถือก : ตลาดหุ้นสำคัญของโลก ปิดตลาดเมื่อ 20 พ.ย.63 (ตรงกับเช้า 21 พ.ย.ในไทย) ดัชนีดาวโจนส์ ลดลง 219.75 จุด (-0.75%) ปิดที่ 29,263.48 จุด, เอสแอนด์พี ลดลง 24.33 จุด (-0.68%) ปิดที่ 3,557.54 จุด ขณะที่ แนสแดคลดลง 49.74 จุด (-0.42%) ปิดที่ 11,854.97 จุด เช่นเดียวกับ นิเคอิ ที่ปรับตัวลดลง 106.97 จุด (-0.42%) ปิดที่ 25,527.37 จุด ขณะที่ ดัชนีตลาดหุ้นไทย ปิดทำการซื้อขายเพราะเป็นวันหยุดยาวต่อเนื่อง.
น้ำมันโลกขึ้น : ราคาน้ำมันโลก ปิดตลาดเมื่อเวลา 03.59 น.ของวันที่ 14 พ.ย.. ตามเวลาประเทศไทย โดยสัญญาซื้อข่ายล่วงหน้า น้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส เดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้น 0.54 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล (1.29%) ปิดที่ 42.44 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ เดือน ม.ค.ปีหน้า เพิ่มขึ้นเช่นกันที่ 0.91 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล (2.06%) โดยราคาปิดอยู่ที่ 45.11 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล.
ทองไทยคงที่ : ราคาทองคำ Spot ดอลลาร์สหรัฐ เมื่อ 20 พ.ย. ตรงกับเวลา 05.00 น. 21 พ.ย.ในไทย ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.77 ดอลลาร์ (0.26%) ปิดที่ 1,871.07 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนราคาทองคำในไทย สมาคมค้าทองคำประกาศเปลี่ยนแปลงราคาทองคำตลอดวัน 5 ครั้ง โดยมีราคาเปิด (09.31 น.) เป็นราคาเดียวกับราคาปิดวัน จากนั้น ราคาปรับขึ้น ก่อนจะลดลงตลอดวัน จนราคาปิดสุดท้าย (15.05 น.) อยู่ในระดับเดียวกับราคาวานนี้ (19 พ.ย.) โดยราคาซื้อทองคำแท่ง บาทละ 26,700 บาท ขาย 26,800 บาท ขณะที่ราคาซื้อทองคำรูปพรรณ 26,226บาท ขาย 27,300 บาท.
บาทแข็งเล็กๆ : ธนาคารแห่งประเทศไทย กำหนดอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทเมื่อ 20 พ.ย. ไว้ที่ 30.326 บาท ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย เมื่อเทียบกับวันก่อนที่ 30.368 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่แบงก์พาณิชย์ กำหนดอัตราแลกเปลี่ยนถั่วเฉลี่ยที่ใช้ซื้อขายกับลูกค้า โดยกำหนดค่าเงินบาทไว้ที่ 30.4959 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ, 40.6628 บาทต่อ 1 ปอนด์สเตอริง, 36.3888 บาทต่อ 1 ยูโรดอลลาร์, 29.6114 บาท ต่อ 100 เยน, 3.9584 บาทต่อ 1 ดอลลาร์ฮ่องกง, 22.8703 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สิงคโปร์ และ 7.5243 บาทต่อ 1 ริงกิตมาเลเซีย.
ไม่ลาออก : พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กล่าวปฏิเสธการลาออก หลังจาก นายอานนท์ นำภา แกนนำกลุ่มคณะราษฎร 2563 พสต์ข้อความระบุ “นายกฯ อาจจะลาออกก่อนวันที่ 25 พ.ย.” ย้ำว่า ลองไปถามคนพูดดูว่าเอาข้อมูลจากไหมตนไม่เคยติดต่อกับเขา และทราบว่าจะมีการชุมนุม 25 พ.ย.นี้ คิดว่าคงพูดเพื่อหวังระดมมวลชนและประชาชนให้มากขึ้น คนที่พูดเรื่องแบบนี้ พูดไม่ตรง พูดโดยไม่มีข้อมูลแบบนี้ เราจะเชื่อถือได้อีกต่อไปหรือไม่.
เปิดทาง : พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กล่าวถึงแถลงการณ์นายกรัฐมนตรี ว่าเป็นการเตือนประชาชนให้รับทราบว่ารัฐบาลจำเป็นใช้กฎหมายทุกฉบับ รวมถึงมาตรา 112 ที่ผ่านอาจมีการอลุ่มอล่วยกันบ้าง แต่ขณะนี้เกินเลยไปมากแล้ว และประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ เขายอมรับไม่ได้กับสิ่งนี้ ใครที่ไม่ทำความผิดก็ไม่น่าจะเดือดร้อน แต่คนที่ดูอยู่เขาก็จะไปร้องทุกข์กล่าวโทษ ซึ่งก็มีการร้องทุกข์กล่าวโทษในกฎหมายฉบับนี้มาจำนวนมาก.
ฟ้องเอง : นายนิติพงษ์ ห่อนาค หรือ ดี้ นักแต่งเพลงชื่อดัง พร้อมด้วยทีมงาน ศชอ. ยื่นหลักฐานการกระทำผิดทางคอมพิวเตอร์ ต่อ ผบก.ปอท. ให้ดำเนินคดีมาตรา 112 กับ “รุ้ง-ปนัสยา” ขณะที่ นายสราวุทธิ์ กุลมธุรพจน์ นักเคลื่อนไหวทางการเมืองใน จ.เชียงราย แกนนำม็อบกลุ่มราษฎร โพสต์ข้อความระบุว่า การติดคุกคดี 112 ถือว่าเป็นเกียรติมาก และเชื่อว่าใครที่โดนมาตรานี้ ไม่มีวันยอมแพ้ทุกคน มันคือราคาที่ต้องจ่าย เพื่อแลกกับชัยชนะอันสมบูรณ์ อันมีราษฎรเป็นใหญ่ที่สุดในแผ่นดิน.
ฝึกอาชีพคนคุก : นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมช.แรงงาน ระบุถึงความร่วมมือกับ ก.ยุติธรรม จัดฝึกอบรมให้ความรู้ด้านอาชีพแก่ผู้ต้องขังที่ใกล้พ้นโทษ มีเป้าหมายพัฒนาทักษะฝีมือแก่ผู้ต้องขังและเยาวชนในสถานพินิจ 1,880 คน นำไปประกอบอาชีพอิสระได้หลังพ้นโทษแล้ว เป็นหลักสูตรระยะสั้น 3-5 วัน และตลาดแรงงานต้องการ เช่น ช่างปูกระเบื้อง ช่างประกอบโครงอะลูมิเนียม ช่างปูนไม้เทียม ช่างก่ออิฐ-ฉาบปูน ช่างไฟฟ้าภายในอาคาร ช่างเครื่องปรับอากาศ ผู้ประกอบอาหารไทย การทำขนมไทย การทำเบเกอรี่และขนมอบ ศิลปะประดิษฐ์ เป็นต้น.
กองทุนสู้คดี : นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ระบุ กระทรวงยุติธรรมมีการจัดตั้งกองทุนยุติธรรมเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากกระบวนการยุติธรรม ซึ่งการช่วยเหลือต่างๆ เหล่านี้ ประชาชนจำนวนมากยังไม่รู้ จะต้องเร่งประชาสัมพันธ์ให้ทั่วถึง เพื่อให้ประชาชนทุกคนเข้าถึงสิทธิที่ตนเองมี ก่อนหน้านี้ ตนได้รับจดหมายขอความเป็นธรรมจากชาวบ้าน และสั่งการให้ตรวจสอบ ช่วยเหลือผ่านทางกองทุนยุติธรรม ซึ่งได้อนุมัติเงินประกันตัว และศาลให้ประกันตัวกลับบ้านได้ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว.