สสว.“จิ๊กซอว์” ของกทบ. กับอำนาจซื้อ 3 แสนล.
แนะ “แกนนำ-สมาชิก” กองทุนหมู่บ้านฯ 7.9 หมื่นแห่ทั่วไทย เร่งปรับตัว “สร้างอัตลักษณ์ – สินค้าเรือธง” ให้กับสินค้าในชุมชน รับโอกาสใหม่ กับ “พลังอำนาจซื้อ” ระดับ “แสนล้านบาท” จากเอสเอ็มอี ภายใต้แรงหนุนของ สสว. “จิ๊กซอว์ตัวสำคัญ” ที่จะเติมเต็มความฝันให้อยู่ใกล้แค่เอื้อม!
เดินทางจนแทบจะทั่วทุกภาคของประเทศไปแล้ว? เหลือก็แต่พื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง ทว่า นายรักษ์พงษ์ เซ่งเจริญ ผอ.สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) และคณะ มีแผนจะเดินทางไปตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจแกนนำและสมาชิกกองทุนหมู่บ้านฯ ในพื้นที่ จ.พังงา ระหว่างวันที่ 14-15 ก.ค.2563 นี้ รายละเอียดของเนื้องานจะเป็นอย่างไร? ค่อยมาว่ากันใหม่อีกครั้ง
ว่ากันว่า…หลังจากที่ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะ ประธานกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (กทบ.) ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม ให้กำลังใจ พร้อมมอบนโยบาย ทั้งแก่ สทบ.และกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองทั่วประเทศ ณ ที่ทำการกองทุนหมู่บ้านท้องคุ้ง อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา แล้วทำการ “ส่งสาร” ไปถึงบรรดา…แกนนำและผู้บริหารกองทุนหมู่บ้านฯทั่วประเทศ โดยใช้พื้นที่ สำนักงานกองทุนหมู่บ้านท้องคุ้ง เป็น “จุดกระจายเสียง” ทำนอง…
ขอให้กองทุนหมู่บ้านฯ ทั้งกว่า 7.9 แห่ง ปรับเปลี่ยนตัวเองและปรับกลยุทธ์การดำเนินงานใหม่ เน้นเพิ่มเติมไปยังภารกิจใหม่ๆ ที่อยู่นอกเหนือจากการทำหน้าที่เป็น “สถาบันการเงินของชุมชน” นั่นคือ มุ่งเน้นการสร้างงาน สร้างรายได้ ลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น เพราะแค่สมาชิกกองทุนหมู่บ้านฯที่มีมากถึง 12.9 ครัวเรือน ครอบคลุมประชากรราว 40 ล้านคน ทำการซื้อขายและเปลี่ยนสินค้ากันเอง จะก่อเกิดพลังและอำนาจการซื้ออันมหาศาล
แค่ใช้จ่ายคนละ 1 บาทในแต่ละวัน จะมีเม็ดเงินไหลหมุนเวียนอยู่ในระบบเศรษฐกิจ เฉพาะภายในกลุ่มของกองทุนหมู่บ้านฯ มากถึงวันละ 40 ล้านบาท หากใช้จ่ายกันเองทุกวัน ตลอด 1 ปี จะมีเม็ดเงินหมุนเวียนฯมากถึง (40 ล้านบาท x 365 วัน) 1.46 หมื่นล้านบาท
แล้วความเป็นจริง! โอกาสที่สมาชิกกองทุนหมู่บ้านฯจะใช้จ่ายกันเองมากกว่าวันละ 1 บาท ย่อมมีสูง!
หากว่า…สินค้าและบริการนั้นๆ ได้รับการพัฒนา ทั้งรูปแบบการผลิต ตัวสินค้า แพกเกจจิ้ง และการบริการ ขณะเดียวกัน ก็สร้าง “อัตลักษณ์เฉพาะ” ให้กับสินค้าที่แต่ละกองทุนฯมี ต่อยอดนำไปสร้างเป็น “สินค้าเรือธง” ที่มีเรื่องราวและประวัติความเป็นมา (สตอรี่) ไม่ว่ามาจากพื้นที่ตั้ง วัฒนธรรมของชุมชน วิถีชีวิตของชาวบ้าน หรือแม้แต่ “สตอรี่” ที่มาจากตัวสินค้าและบริการเอง
ลำพังการส่งสินค้าไปจำหน่ายในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ ซึ่ง รัฐบาลพยายามดึงแนวร่วม ทั้งจากภาครัฐและเอกชน มา “ร่วมด้วยช่วยกัน” พัฒนาผลิตภัณฑ์ หาแหล่งเงินทุน สร้างโอกาสและช่องทางการขายให้กับสินค้ากองทุนหมู่บ้านฯ ทว่า…ต่อให้ขายสินค้าได้ดี ก็คงไม่ดีเท่ากับการดึงเอานักท่องเที่ยว ทั้งที่เป็นเพื่อนสมาชิกกองทุนหมู่บ้านฯ และคนนอก เดินทางมายังพื้นที่ของกองทุนหมู่บ้านฯ ผู้เป็นเจ้าของสินค้าและบริการนั้นๆ
เพราะสิ่งนี้…สามารถจะสร้างมูลค่าเพิ่มและความยั่งยืนต่อการสร้างงาน สร้างรายได้ ให้กับชุมชนฯและสมาชิกกองทุนหมู่บ้านฯ ได้มากกว่าหลายสิบเท่า
แล้วเป็น นายสมคิดเอง ที่ร่ำๆ อยากจะไปร่วมงานที่ จ.พังงา หากว่า…ตัวเขาไม่ติดภารกิจสำคัญใดๆ ในนาม…รัฐบาลไทย
คงต้องลุ้นกันว่า…นายสมคิด จะไปร่วมงานยังพื้นที่ภาคใต้ตอนล่างได้หรือไม่?
กลับมาที่ สทบ. “องค์กรหลัก” ของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ซึ่งได้ผู้บริหาร “ฝีมือดี” อย่าง นายรักษ์พงษ์ คนที่ นายสมคิด บอกว่าเป็น “ศิษย์ก้นกุฏิ” อีกคน…ที่มากความสามารถ ฉลาดหลักแหลม และขยัน ถึงกับประกาศให้ได้ยินไปทั่วกันว่า…
“กองทุนหมู่บ้านฯไหน อยากทำอะไร หากคิดไม่ออก…บอกรักษ์พงษ์”
ล่าสุด เมื่อวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา (4 ก.ค.2563) นายรักษ์พงษ์ มีภารกิจเดินทางไปทำหน้าที่ ประธานการประชุมคณะกรรมการเครือข่ายกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองภาคกลาง (25 จังหวัด) ครั้งที่ 1 /2563 เพื่อหาแนวทางขับเคลื่อนเครือข่ายกองทุนหมู่บ้านฯในพื้นภาคกลาง เชื่อมประสานต่อถึงกองทุนหมู่บ้านฯ ในจังหวัดและภาคอื่นๆ เน้นการดำเนินงานตามนโยบายของ นายสมคิด ทั้งในฐานะ…รองนายกรัฐมนตรี และประธาน กทบ. โดยเฉพาะการดำเนินงานตามแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจฐานราก ผ่านนโยบายเศรษฐกิจชุมชน (โลคัล อีโคโนมี) เพื่อสร้างความยั่งยืนต่อการสร้างงาน สร้างรายได้ ลดรายได้ และเพิ่มคุณภาพชีวิต ให้กับสมาชิกกองทุนหมู่บ้านฯทั่วประเทศ
“จากนี้ไป…กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง จะเน้นพัฒนาคุณภาพสมาชิก ทั้งการผลิต การสร้างรายได้และลดรายจ่าย รวมถึงจะต้องมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาอาชีพให้กับชุมชน เพื่อให้สมาชิกได้พึ่งพาตนเอง กระทั่ง พึ่งพาเศรษฐกิจในประเทศได้” นั่นคือ…สิ่งที่ นายรักษ์พงษ์ สื่อสารผ่านถึงแกนนำเครือข่ายกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองภาคกลาง 25 จังหวัด
ทว่า ภาพรวมที่ใหญ่และสำคัญมากกว่านั้น คือ ปลายทางของ “ภาพเต็ม” ที่ นายสมคิดและนายรักษ์พงษ์ รวมถึงผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน พยายามจะช่วยกันต่อ “จิ๊กซอว์” ให้แล้วเสร็จ ทำ “ภาพเต็ม” ให้เป็น “ภาพจริง” ที่จับต้องได้…ตรงตามปรัชญาแห่งความยั่งยืนในทุกมิติ แก่ทุกกองทนหมู่บ้านฯและสมาชิกฯทุกคน หรืออย่างน้อยก็ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้…
“จิ๊กซอว์ตัวสำคัญ” ที่ เว็บไซต์ข่าว AEC10NEWS เคยนำเสนอไป เมื่อหลายสัปดาห์ก่อนหน้านี้ และแทบจะเป็น “จิ๊กซอว์” ตัวแรกๆ เลยทีเดียว! นั่นคือ ความร่วมมือกับ…สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ซึ่ง “ผอ.คนใหม่” อย่าง…นายวีระพงศ์ มาลัย ถือเป็น “น้องรักคนหนึ่ง” ของนายรักษ์พงษ์ และจะเป็น “คนสำคัญ” ที่จะต่อเชื่อมภารกิจ อันจะนำไปสู่เป้าหมายปลางทางที่ชัดเจนและรวดเร็วขึ้น
การประกาศความร่วมมืออย่างเป็นทางการระหว่างกัน ด้วยการ จัดตั้งตลาดออนไลน์ ผ่านแอปพลิเคชั่น “ตลาด กทบ. สสว.” นำไปสู่การยกระดับสินค้าและผลิตภัณฑ์ของผู้ประกอบการที่เป็นสมาชิกของกองทุนหมู่บ้านฯ โดยมี ศูนย์ให้บริการเอสเอ็มอีครบวงจร (ศูนย์ OSS) ของ สสว. ที่กระจายตัวอยู่ทั่วประเทศ คอยเป็น “พี่เลี้ยงบนเวที” ให้กับกองทุนหมู่บ้านฯทั้งกว่า 7.9 หมื่นแห่ง
โดยสนับสนุนการสร้างแพลทฟอร์มการซื้อขายสำหรับสินค้าของสมาชิกกองทุนหมู่บ้านฯ เพื่อให้สามารถจำหน่ายสินค้าให้กับประชาชนโดยตรง รวมถึงสนับสนุนด้านการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อทุกสื่อที่ สสว.มีอยู่ เพื่อเชิญชวนให้ผู้สนใจเข้ามาเลือกซื้อเลือกหาสินค้าที่น่าสนใจภายใต้แนวคิด “สั่งตรงจากผู้ขาย ส่งตรงจากทุกหมู่บ้าน ทั่วประเทศ”
การบูรณาการความร่วมมือในครั้งนี้ มุ่งเน้น การพัฒนาสมาชิกกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองที่เป็นผู้ประกอบการชุมชน หรือผู้ประกอบการวิสาหกิจรายย่อย และผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม โดยคัดเลือกกลุ่มสินค้าที่โดดเด่น 10 รายการจากแต่ละจังหวัด เบื้องต้นจะมีสินค้าไม่น้อยกว่า 770 รายการจาก 77 จังหวัด เข้าสู่ “ตลาด กทบ สสว.”ภายในเดือน ก.ค.นี้ หากตลาดขับเคลื่อนและได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภค
จะสร้างรายได้แก้หมู่บ้านแห่งละ 1 ล้านบาท ช่วยสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้กว่า 7 หมื่นล้านบาท
สิ่งนี้…ได้ถูกนำร่องในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมา และจะขยายผลไปยังพื้นที่อื่นๆ ต่อไป
แม้หลายคนอาจเห็นข่าวนี้กันแล้ว แต่ลึกมากไปกว่านั้น ที่อยากให้รู้ ก็คือ…
เป้าหมายจาก “จิ๊กซอว์” ตัวนี้ (สสว.) จะมีบทบาทสำคัญในทางปฏิบัติมากกว่า “จิ๊กซอว์” ตัวอื่นๆ ตรงที่…พวกเขาได้เตรียม “ผู้ซื้อ” ซึ่งก็คือ ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ขึ้นทะเบียนเพื่อขอรับการสนับสนุนจาก สสว. ในสินค้าและบริการ ไม่ว่าจะเป็น…กลุ่มสินค้าวัตถุดิบ หรือกลุ่มสินค้าสำเร็จรูป ของสมาชิกกองทุนหมู่บ้านฯไว้แล้ว กว่า 3 แสนราย พร้อม “อำนาจการซื้อ” ไม่ต่ำกว่ารายละ 1 ล้านบาทต่อปี ภายในปี 2563 และจะเพิ่มเป็นรายละ 5 ล้านบาทต่อปี ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า
แค่ลูกค้า 3 แสนราย กับพลังการใช้จ่ายเงิน ปีละ 1 ล้านบาท นั่น…จะทำให้เกิดมูลค่าการใช้จ่ายผ่านกองทุนหมู่บ้านฯสูงถึงปีละ 3 แสนล้านบาท
ไม่เพียงแค่นั้น สสว.เอง ยังมีเป้าหมายที่จะเพิ่มจำนวนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ขึ้นทะเบียนฯให้ได้ครบ 1 ล้านราย ภายในสิ้นปีนี้ และมากกว่านั้นในปีต่อๆ ไป ซึ่งนั่น…จะยิ่งเพิ่มทั้งโอกาสในการขายสินค้า โอกาสในการสร้างรายได้ และโอกาสในการสร้างงาน ได้เพิ่มขึ้น…แก่กองทุนหมู่บ้านฯทั่วประเทศ
มากมายจนอาจกลายเป็นส่วนสำคัญของการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจ จากระดับเศรษฐกิจฐานราก ไปสู่ระดับเศรษฐกิจมหภาคในภาพรวมของประเทศ
เป้าหมายที่ นายสมคิด ฝันจะสร้างโครงการคู่ขนานกันไป ระหว่าง “เศรษฐกิจมหภาค” ด้วยการสร้างอภิมหาโปรเจ็กต์ “อีอีซี” กับ “เศรษฐกิจฐานราก” (โลคัล อีโคโนมี) ผ่านกลไกของกองทุนหมู่บ้านฯ… ใกล้เป็นจริงทุกขณะ!
หากสิ่งนี้เกิดขึ้นได้เร็ว…ไม่เพียงลดทอนปัญหาจากการที่ต้องพึ่งพิงเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ซึ่งทั้ง…ภาคการส่งออกและการท่องเที่ยว ต่างได้รับผลกระทบจากปัญหาสงครามการค้า ต่อเนื่องถึงปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ไปอย่างแสนสาหัส เท่านั้น
ทว่า ยังทำให้กลไกการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจของไทย “พัฒนาไปอีกขั้น” หากเศรษฐกิจระหว่างประเทศมีปัญหา เรายังมีเศรษฐกิจภายในประเทศ ที่พร้อมจะขับเคลื่อนไปด้วยพลังของคนในชาติ ผ่านการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้า ระหว่าง…สมาชิกกองทุนหมู่บ้านฯ ด้วยกันเอง และจากคนนอก โดยเฉพาะ “ลูกค้า” ที่ สสว. “จิ๊กซอว์ตัวสำคัญ” จัดเตรียมไว้ให้ 3 แสนรายในปีนี้ และอีก 7 แสนรายในปีต่อๆ ไป
ถ้า ฝันของ นายสมคิด “สมดั่ง(ความ)คิด” ฝันของนายรักษ์พงษ์ ก็คง “สมดั่ง(ตั้ง)ใจ” ที่สามารถจะยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของสมาชิกกองทุนหมู่บ้านฯ 12.9 ล้านครอบครัว 40 ล้านคน จากกว่า 7.9 หมื่นกองทุนฯทั่วประเทศ ได้มีงานทำ มีรายได้ และมีคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืน
วันข้างหน้า หากจะมีใครหลายคน เรียก นายสมคิด และนายรักษ์พงษ์ เป็น “พ่อ” ของลูกๆ ผู้เป็น…สมาชิกกองทุนหมู่บ้านฯ ให้ได้ยิน และดังกระหึ่มไปทั่วประเทศ ก็ไม่ต้องแปลกใจ!