สิงคโปร์ลงโทษนายจ้างไม่ให้พนักงาน Work from Home
สิงคโปร์ : นายจ้างในสิงคโปร์ที่ไม่อำนวยความสะดวกให้พนักงานทำงานจากที่บ้านในขณะที่สามารถทำได้อาจถูกลงโทษจำคุก หรือถูกปรับ ภายใต้การเปลี่ยนแปลงกฎหมายโรคติดเชื้อ
มีการปรับแก้กฎหมายในราชกิจจานุเบกษาลงวันที่ 1 เม.ย. เพื่อลงโทษนายจ้างที่ไม่ยอมให้พนักงานทำงานจากที่บ้านในกรณีที่สามารถทำได้ หรือไม่ยอมปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่างของตัวเองจากคนอื่น
ทั้งนี้ การจัดการการทำงานที่ยืดหยุ่นเหมาะสมตั้งเป้าเพื่อควบคุมการระบาดของโควิด-19 ในสิงคโปร์
เมื่อวันที่ 31 มี.ค. Josephine Teo รมว.กระทรวงแรงงานสิงคโปร์ระบุว่า บริษัทที่ไม่ยอมให้มีการประชุมทางไกลในขณะที่ทำได้อาจถูกคำสั่งให้หยุดการทำงาน หรือโดนโทษอื่นๆ โดยเธอเสริมว่า ทางกระทรวงมีแผนที่จะใช้เจ้าหน้าที่กว่า 100 คนในการตรวจสอบบริษัท
โดยทุกบริษัทต้องจัดการอำนวยความสะดวกให้พนักงานทุกคนสามารถทำงานจากที่บ้านได้ในช่วงเวลานี้ จากกฎหมายที่ปรับแก้เพิ่มเติม นายจ้างต้องสั่งการโดยตรงให้พนักงานทำงานจากที่บ้าน นอกเสียจากว่าเป็นลักษณะของงานที่ไม่สามารถทำได้เช่นนั้นจริงๆ
โดยผู้กระทำความผิด ไม่ยอมปฏิบัติตามจะถูกปรับเป็นจำนวนกว่า 10,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ ( ราว 233,500 บาท ) ถูกจำคุกสูงสุดถึง 6 เดือน หรือทั้งจำทั้งปรับ
สำหรับผู้ที่ต้องไปทำงาน พนักงานต้องถูกจัดกลุ่ม และมาถึงสถานที่ทำงานในเวลาที่แตกต่างกัน ต้องไม่มาถึงที่ทำงาน หรือออกจากที่ทำงานในเวลาเดียวกัน เพื่อเป็นการลดการติดต่อทางร่างกายของพนักงานจากกลุ่มที่ต่างกันให้มากที่สุด
นายจ้างควรมีมาตรการเพื่อให้แน่ใจว่า พนักงานในที่ทำงานเว้นระยะห่างระหว่างกันอย่างน้อย 1 เมตร โดยมาตรการนี้ต้องปรับใช้ในพื้นที่ซึ่งมีคนใช้งานเยอะในออฟฟิศ เช่น แพนทรี ที่นั่งคอย หรือห้องพัก
ต้องมีการวัดอุณหภูมิร่างกายทุกคนที่เข้าออฟฟิศ หากไม่ผ่านเกณฑ์ต้องไม่ให้เข้า หากป่วยในระหว่างทำงาน ต้องสวมหน้ากากอนามัยและขอให้ออกจากสถานที่ทำงานทันที โดยผู้ที่มีอาการป่วยต้องไม่ไปทำงาน หากฝ่าฝืนจะได้รับโทษเช่นกัน
“ หากบริษัทไม่ปฏิบัติตามอย่างจริงจัง เราไม่มีทางเลือกและไม่ลังเลที่จะออกคำสั่งให้หยุดการดำเนินกิจการ” เธอกล่าว โดยเสริมว่า ช่วงเวลาของคำสั่งขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ความร้ายแรงในแต่ละกรณี
ทางกระทรวงแรงงานประเมินว่าสำหรับบริษัทในเขตศูนย์กลางธุรกิจ มีเพียง 40%เท่านั้นที่สามารถทำงานที่บ้านโดยใช้เทคโนโลยีสื่อสารโทรคมนาคมได้