“สมคิด” จับมือ “แจ็คหม่า” ดังก้องโลก
เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.59 “ บิสซิเนส ไวร์ ” บริษัทสาขาย่อยของเบิร์คไชร์ แฮธะเวย์ บริษัทด้านการลงทุนของมหาเศรษฐีชื่อดังวอร์เรน บัฟเฟตต์ สำนักงานอยู่ในสหรัฐฯ ซึ่งทำหน้าที่เผยแพร่เอกสารการแถลงข่าวจากกลุ่มบริษัทและองค์กรทั่วโลกกับสื่อมวลชนทั่วไป
ได้เผยแพร่รายงานแถลงข่าวในวันเดียวกันนี้ ว่า ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีและคณะ ซึ่งอยู่ระหว่างการเดินทางเยือนประเทศจีน ได้รับเชิญไปที่สำนักงานใหญ่ของเว็บไซต์อี-คอมเมิร์ซ สัญชาติจีนชื่อดัง “ อาลีบาบา ” ในเมืองหางโจว ทั้งนี้ ตามคำเชิญของนายแจ็ค หม่า ซีอีโอและผู้ก่อตั้งอาลีบาบา
โดยดร.สมคิดและนายแจ็ค หม่า ยังได้ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามในหนังสือแสดงเจตนารมณ์ (Letter of Intent) ระหว่างเจ้าหน้าที่ไทยและอาลีบาบา เพื่อร่วมกันพัฒนาธุรกิจอี-คอมเมิร์ซในไทยผ่านการฝึกอบรมทั้งผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและบุคคลทั่วไปรวมทั้งหาแนวทางเสริมศักยภาพด้านโลจิสติกส์ของไทยเพื่อสนับสนุนการพัฒนาโมเดลเศรษฐกิจไทยแลนด์ 4.0 และยุทธศาสตร์เศรษฐกิจดิจิตอลด้วย
นายแจ็ค หม่า กล่าวในพิธีลงนามหนังสือแสดงเจตนารมณ์ดังกล่าวว่า พวกเรารู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้โอกาสร่วมทำงานกับรัฐบาลไทย ตนอยากขอขอบคุณคนไทยที่ให้ความเชื่อมั่น เพราะความเชื่อมั่นเป็นพื้นฐานของความเป็นหุ้นส่วนที่ประสบความสำเร็จทุกกรณี
“ นับแต่ก่อตั้งอาลีบาบามา 17 ปี วิสัยทัศน์ของพวกเราก็คือ การสนับสนุนธุรกิจขนาดเล็กและคนรุ่นใหม่โดยเฉพาะที่อยู่ในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา อาลีบาบา ต้องการเป็นหุ้นส่วนกับรัฐบาลและองค์กรใดก็ตามที่มีวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นอย่างเดียวกันนี้ ด้วยการทำงานร่วมกัน การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและแนวคิดที่เป็นนวัตกรรม ตนเชื่อว่าพวกเราสามารถทำให้วัสัยทัศน์ดังกล่าวข้างต้นกลายเป็นจริงขึ้นมาได้และมนตร์วิเศษจะเกิดขึ้น ” แจ็ค หม่า เสริม
สำหรับข้อตกลงของไทยกับอาลีบาบา ครอบคลุมความร่วมมือใน 4 ด้านรวมทั้งการฝึกอบรมผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย 30,000 รายเพื่อช่วยให้เข้าถึงแพลตฟอร์มธุรกิจอี-คอมเมิร์ซทั้งภายในและต่างประเทศ และเป้าหมายสุดท้าย อาลีบาบาและรัฐบาลไทยจะมองหาโอกาสความร่วมมือภายใต้โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก (Eastern Economic Corridor Development) และช่วยให้ไทยเป็นศูนย์กลางหรือฮับของเทคโนโลยีดิจิตอลและศูนย์กลางข้อมูลแห่งภูมิภาคในอาเซียน.