SKE ขายไฟแม่กระทิง ราคาสูงกว่าSPP Hybrid
SKE มั่นใจผลงานครึ่งปีหลัง เติบโตแรง หลังจากเริ่มจำหน่ายไฟฟ้าโรงไฟฟ้าชีวมวลแม่กระทิง ให้กับ กฟภ.ในอัตราเฉลี่ยที่ 4.62 บาท ต่อหน่วยตลอดอายุสัญญา 20 ปี ซึ่งสูงกว่าอัตราการขายไฟฟ้าในโครงการ SPP Hybrid
นายชัชชัย สุเมธโชติเมธา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (กรรมการผู้จัดการใหญ่) บริษัท สากล เอนเนอยี (จำกัด) มหาชน หรือ SKE กล่าวว่า SKE ได้เปิดการจำหน่ายไฟฟ้าโรงไฟฟ้าชีวมวลแม่กระทิง จังหวัดแพร่ กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ซึ่งโรงไฟฟ้าแม่กระทิงมีกำลังการผลิตไฟฟ้า 9.9 เมกะวัตต์ และมีสัญญาขายไฟ 8 เมกะวัตต์ กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ในอัตราเฉลี่ยที่ 4.62 บาท ต่อหน่วยตลอดอายุสัญญา 20 ปี แล้ว ซึ่งนับเป็นอัตราการขายไฟสำหรับโรงไฟฟ้าชีวมวลที่สูงที่สุดในปัจจุบัน (สูงกว่าอัตราการขายไฟฟ้าในโครงการ SPP Hybrid ซึ่งคาดว่าอัตราการจำหน่ายไฟฟ้าที่ 1.80-2.00 บาท ต่อหน่วย)
และที่สำคัญ บริษัทฯ ได้ปิดความเสี่ยงด้านวัตถุดิบ โดยการทำข้อตกลงการซื้อขายวัตถุดิบสำหรับผลิตไฟล่วงหน้ากับ บริษัท บีพี 15 จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเชื้อเพลิง Wood Pellet (เชื้อเพลิงชีวมวลอัดเม็ด) รายใหญ่ในภาคเหนือ และ บริษัท แพร่กรีนพาวเวอร์ จำกัด (PGP) เป็นสัญญาระยะยาว 20 ปี เท่ากับอายุสัญญาของเวลาขายไฟฟ้าที่มีกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จึงเป็นการปิดความเสี่ยงด้านวัตถุดิบได้อย่างครบถ้วน ซึ่งจังหวัดแพร่เป็นจังหวัดที่มีพื้นที่เกษตรกรรมกว่า 1 ล้านไร่จึงมีของเสียจากการเกษตร มาใช้เป็นเชื้อเพลิงชีวมวลได้จำนวนมาก และโรงไฟฟ้าแม่กระทิงเป็นโรงไฟฟ้าแบบ Multi-fuel จึงสามารถใช้วัตถุดิบได้หลากหลายประเภท
บริษัทฯตั้งเป้าหมายที่จะต่อยอดความสำเร็จจากโครงการโรงไฟฟ้าแม่กระทิง ด้วยการเป็นเจ้าของโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนให้ได้กว่า 30 เมกะวัตต์ ภายในปี 2022 เพื่อสร้างฐานธุรกิจพลังงานที่เติบโตและมั่นคง สร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่ผู้ถือหุ้นทุกคน และเป็นการกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจ”
ทั้งนี้บริษัทคาดว่าครึ่งปีหลัง 2562 แนวโน้มธุรกิจจะปรับตัวดีขึ้นอย่างชัดเจน เนื่องจากธุรกิจโรงไฟฟ้า จะเข้ามาหนุนรายได้จากธุรกิจเดิม คือ บริการสถานีอัดก๊าซธรรมชาติให้กับกลุ่มปตท. ภายใต้สัญญาสัมปทาน 20 ปี ซึ่งเมื่อรวมรายได้จาก 2 ธุรกิจนี้ ทำให้ SKE มีฐานธุรกิจที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น มีรายได้ที่มั่นคง ต่อเนื่องในระยะยาว