คลังจ่อต่อยอด “ชิมช้อปใช้” เฟส 2
คลังเตรียมต่อยอด “ชิมช้อปใช้” เฟส 2 หลังจ่อเสนอเข้าสู่ ครม. 22 ต.ค.นี้ เผยรัฐเตรียมอัดสิ่งจูงใจเพียบ ตั้งเป้าขยายถึงสิ้นปีนี้ ด้าน “ผช.รมต.คลัง” เดินสายลงพื้นที่โคราชสำรวจยอดการจับจ่ายใช้สอยผ่านร้านค้ารายย่อย พ่วงกระตุ้นนักท่องเที่ยวใช้จ่ายผ่านกระเป๋า 2 พร้อมรับเงินคืน 15%
นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผช.รมต.ประจำนายกรัฐมนตรี (ปฏิบัติงานกระทรวงการคลัง) กล่าวถึงการลงพื้นที่ ตลาดนัดเซฟวัน จ.นครราชสีมาในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์นี้ว่า เพื่อสำรวจยอดการจับจ่ายใช้สอยของผู้ได้รับสิทธิ์ ตามมาตรการ “ชิมช้อปใช้” ผ่านร้านค้ารายย่อย พร้อมรณรงค์ให้ผู้ที่ได้รับสิทธิ์ออกมาจับจ่ายใช้สอย โดยเฉพาะกระเป๋า 2 ที่จะได้รับเงินคืนสูงถึง 15%
พร้อมกันนี้ ยังได้กำชับให้ผู้ประกอบการทุกรายห้ามละเมิดกฎอย่างเด็ดขาด มิฉะนั้นจะถูกปิดแอ๊พ “ถุงเงิน” ทันที และจะถูกขึ้นบัญชีดำ ห้ามเข้าร่วมโครงการต่างๆ ของรัฐบาลในอนาคต หลังจากมีประชาชนร้องเรียนเข้ามาว่า ยังมีผู้ประกอบการบางรายที่กล้าฝ่าฝืนคำสั่งของกระทรวงการคลัง ด้วยการเปิดรับแลกสิทธิ์ 1,000 บาท เป็นเงินสดหรือแลกสิทธิ์ข้ามจังหวัด เป็นต้น
สำหรับความคืบหน้าของเฟส 2 นั้น กระทรวงการคลังเตรียมนำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ (22 ต.ค.) หวังดึงประชาชนร่วมมาตรการเพิ่มอีก 2-5 ล้านคน โดยในส่วนของร้านค้า จะเน้นเพิ่มการดึงเครือข่ายลูกค้าของธนาคารออมสินและธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ที่มีศักยภาพเข้ามาร่วมอีกราว 1 แสนร้านค้า หลังจากเฟสแรก มีร้านค้าใหม่มาร่วมโครงการเกือนแสนราย รวมทั้งต้องปรับเวลาการลงทะเบียนเป็นกลางวัน และหวังขยายระยะเวลาสิ้นสุดโครงการออกไปเป็นวันที่ 31 ธ.ค.62 เพราะเป็นช่วงไฮซีซั่นของการท่องเที่ยว ทั้งนี้ เมื่อ ครม.พิจารณาเห็นชอบแล้ว จะเปิดให้ประชาชนลงทะเบียน โดยสิ่งจูงใจในการร่วมลงทะเบียน “ชิมช้อปใช้” เฟส 2 นั้น น่าสนใจไม่แพ้เฟสแรกอย่างแน่นอน
สรุปยอดการใช้จ่ายจนถึงวันที่ 18 ต.ค. 62 มียอดการใช้จ่ายทั้งสิ้น 8,676.8 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดจากกระเป๋า 1 จำนวน 8,537.2 ล้านบาท จากกระเป๋า 2 จำนวน 139.6 ล้านบาท แบ่งเป็นร้านชิม จำนวน 1,241.0 ล้านบาท ร้านช้อป จำนวน 4,847.1 ล้านบาท ร้านใช้ จำนวน 116.4 ล้านบาท และร้านค้าทั่วไป 2,472.3 ล้านบาท.