เปิด“แกร็บคิทเช่น”ในไทย จ่อรุก 5 ชาติอาเซียน
แกร็บ ประกาศขึ้นชั้น “ผู้นำซูเปอร์แอป” แห่งอาเซียน หลังประกาศเปิดตัว “แกร็บคิทเช่น” แห่งแรกในไทย ตั้งเป้าเป็น “คลาวด์ คิทเช่น” ที่รวบรวมร้านอาหารและเครื่องดื่มอันหลากหลายมาไว้ในที่เดียว ขจัดช่องว่างและข้อจำกัดด้านสถานที่ตั้งของร้านอาหารในพื้นที่ต่างๆ พร้อมทั้งเพิ่มตัวเลือกด้านอาหารที่หลากหลายยิ่งขึ้นผ่านการใช้ฐานข้อมูลของ “แกร็บฟู้ด” ดันเปิดอีกกว่า 50 สาขาใน 5 ประเทศอาเซียนภายในสิ้นปีนี้
“แกร็บคิทเช่น” (GrabKitchen) เปิดตัวครั้งแรกที่อินโดนีเซีย เมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา และประสบความสำเร็จอย่างมาก เช่นกัน การเปิดตัว “แกร็บคิทเช่น” ในไทยครั้งนี้ ทำให้ “แกร็บฟู้ด” กลายเป็นผู้ดำเนินธุรกิจ “คลาวด์ คิทเช่น” (ครัวกลาง) ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยครัว “อาหารปรุงสด” จำนวน 20 แห่ง รวมถึงในเวียดนาม นอกจากนี้ ยังเป็นครั้งแรกที่ “แกร็บฟู้ด” ขยายการดำเนินการ “แกร็บคิทเช่น” นอกประเทศอินโดนีเซีย โดยภายในปลายปี 62 คาดว่า “แกร็บฟู้ด” จะเป็นผู้ดำเนินเครือข่ายธุรกิจ “คลาวด์ คิทเช่น” ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค โดยตั้งเป้าเปิด “แกร็บคิทเช่น” กว่า 50 สาขาใน 5 ประเทศทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมขึ้นเป็นแพลตฟอร์มให้บริการส่งอาหารระดับภูมิภาคหนึ่งเดียว ที่ให้การบริการครอบคลุมมากที่สุด โดยปัจจุบัน “แกร็บฟู้ด” ให้บริการอยู่ใน 221 เมือง ใน 6 ประเทศ
นายธรินทร์ ธนียวัน กก.ผจก.ใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย กล่าวว่า “ในฐานะผู้นำตลาดบริการส่งอาหาร เราได้พัฒนากลยุทธ์ร่วมกับพาร์ทเนอร์ร้านค้าอย่างต่อเนื่องเพื่อเติมเต็มระบบอีโคซิสเต็มของแกร็บให้สมบูรณ์ ด้วยเหตุนี้เราจึงพบว่าพาร์ทเนอร์ร้านค้าต้องจัดการกับความท้าทายมากมาย ไม่ว่าจะเป็น การลงทุน ลูกค้าไม่สามารถเข้าถึงเมนูโปรดได้เท่าที่ต้องการ หรือเวลาส่งอาหารที่ยาวนาน “แกร็บคิทเช่น” จะเป็นสิ่งที่แก้ปัญหาให้ผู้ประกอบธุรกิจอาหารต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของธุรกิจร้านอาหารขนาดย่อมและขนาดกลางหรือผู้ประกอบการอิสระต่างๆ ให้พวกเขาได้มีโอกาสขยับขยายธุรกิจ โดยที่ไม่ต้องคอยกังวลถึงค่าใช้จ่ายด้านการดำเนินการที่สูงลิ่วหรือต้องใช้เม็ดเงินลงทุนมาก และสนับสนุนให้พวกเขาได้สร้างสรรค์เมนูอาหารสุดอร่อยเปี่ยมด้วยคุณภาพกันอย่างเต็มที่ ในส่วนของพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่นั้น โปรเจ็กต์นำร่องในครั้งนี้จะช่วยสร้างออเดอร์อาหารที่มากขึ้น ส่งผลต่อโอกาสด้านรายได้ที่มากขึ้นกว่าเคย”
ทั้งนี้ แกร็บใช้ข้อมูลในการระบุสถานที่ตั้งเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคและการให้บริการของพาร์ทเนอร์ร้านอาหาร โดยครัวกลางของแกร็บนี้ตั้งอยู่บนชั้น 2 ของตลาดสามย่าน ซึ่งเชื่อมบริเวณใจกลางของกรุงเทพฯ เข้ากับเขตสำคัญอื่นๆ รวมถึงย่านศูนย์กลางทางธุรกิจอย่างสยาม สีลมและสาทร ครัวกลางแห่งนี้แบ่งเป็นครัวย่อยทั้งหมด 12 ครัวของร้านอาหารชื่อดังทั่วกรุงเทพฯ โดยทุกขั้นตอนการประกอบอาหารในแกร็บคิทเช่นเป็นไปตามมาตรฐานการผลิตอาหารพร้อมการรับรองด้านสุขอนามัย รวมถึงอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยและป้องกันเพลิงไหม้ เพื่อจะมั่นใจได้ว่าอาหารจะไม่เพียงแต่รสชาติดี แต่ยังสะอาดและปลอดภัย แกร็บคิทเช่นเปิดบริการให้ลูกค้าสามารถกดสั่งออเดอร์จากแอปพลิเคชันแกร็บได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.00 – 22.00 น. ภายในรัศมีส่ง 8 กิโลเมตร
แกร็บคิทเช่น สามย่าน พร้อมเสิร์ฟความอร่อยให้กับลูกค้าด้วยเมนูอาหารมากมายตั้งแต่เช้าตรู่จนถึงช่วงค่ำ โดยได้รวมร้านอาหารโด่งดัง 12 แห่งไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น บราวน์คาเฟ่ เอลวิสสุกี้ ป.เจริญชัย ไก่ตอน ตำป๊อกป๊อก อองตอง ข้าวซอย ปูไข่ดองของกู เคเคบับ และยังมีร้านอาหารเจ้าดัง 5 ร้านจากเครือเซ็นทรัล เช่น เจ๊เกียง โจ๊กกองปราบ หมูทอดถนนประมวญ ก๋วยเตี๋ยวต้มยำแปดริ้ว โตเกียวโบวล์และตามสั่งสิ้นคิด การรวมร้านอาหารชื่อดังมากมายถึง 12 ที่มาไว้ในที่เดียวจะช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเลือกสั่งอาหารจากร้านอาหารต่างๆ ในแกร็บคิทเชนภายในออเดอร์เดียวได้อีกด้วย
นอกจากนี้ “แกร็บคิทเช่น” ยังได้นำเสนอวิธีใหม่ที่ช่วยเร่งสร้างความเติบโตของธุรกิจได้ด้วยการขจัดความยุ่งยากในการจัดการหน้าร้านอย่างสิ้นเชิง ครัวกลางแห่งนี้ใช้ประกอบอาหารสำหรับส่งโดยเฉพาะ ผู้ประกอบการสามารถเริ่มธุรกิจด้านอาหารได้แทบจะในทันทีโดยไม่ต้องมีสัญญาเช่า โดย “แกร็บคิทเช่น” ได้ติดตั้งระบบแก๊สและระบบน้ำต่างๆ ไว้ให้พร้อมสรรพ ผู้ประกอบธุรกิจอาหารเพียงแค่นำเครื่องครัวและอุปกรณ์ประกอบอาหารต่างๆ เข้ามาและดำเนินธุรกิจของพวกเขาต่อได้อย่างราบรื่นและง่ายดาย ด้วยความกังวลด้านค่าใช้จ่ายและการบริหารจัดการหน้าร้านต่างๆ ที่ลดลง ผู้ประกอบจึงสามารถทุ่มเทความสนใจไปกับการประกอบอาหารและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจอาหารของตนให้เติบโตต่อไป
รวมถึงการนำข้อมูลบนแพลตฟอร์มมาใช้เพื่อเสาะหาร้านอาหารยอดนิยมต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ มารวมในที่เดียวจะช่วยบรรเทาปัญหาให้กับร้านค้าที่เคยประสบข้อจำกัดด้านการให้บริการเนื่องจากระยะทาง อีกทั้งยังช่วยให้ร้านค้าต่างๆ สามารถขยายฐานลูกค้าสู่กลุ่มคนใหม่ๆ และเจาะกลุ่มลูกค้าในยุคดิจิทัลได้มากขึ้น
ด้านนายดุลยวิทย์ ขุ่ยอาภัย เจ้าของร้านอองตอง ข้าวซอย พาร์ทเนอร์ร้านอาหารที่นำข้าวซอยซึ่งเป็นอาหารเหนือขนานแท้สู่กรุงเทพฯ ได้กล่าวว่า “เราตื่นเต้นมากเมื่อทราบถึงแนวคิดแกร็บคิทเช่นและตัดสินใจเข้าร่วมด้วยเกือบจะในทันที เรามองว่าโอกาสทางธุรกิจในครั้งนี้จะสร้างประโยชน์ให้กับทั้งสองฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการเองหรือแกร็บ การลงทุนกับแกร็บคิทเช่นถือว่าใช้เงินลงทุนที่ต่ำเมื่อเทียบกับการเปิดร้านใหม่ซึ่งอาศัยค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการจัดเตรียมร้านและการดำเนินการ ยิ่งไปกว่านั้น การที่แกร็บเป็นผู้นำในตลาดการส่งอาหาร ประกอบกับความรู้ความเชี่ยวชาญและฐานลูกค้าที่ใหญ่และแข็งแกร่ง ทำให้เราเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าแกร็บคิทเช่นจะช่วยให้เราได้เรียนรู้ พัฒนาต่อยอดและเพิ่มศักยภาพให้กับธุรกิจของเราให้เติบโตขึ้นได้อีกระดับ พร้อมขยับขยายธุรกิจได้ในอนาคต”
ขณะนี้ กก.ผจก.ใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย ยังได้กล่าวทิ้งท้ายอีกว่า “แกร็บรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่พาร์ทเนอร์ของเราได้ให้ความเชื่อใจและไว้วางใจ เราเชื่อว่าการร่วมมือกันในครั้งนี้จะนำมาซึ่งความสำเร็จและสร้างการเติบโตทางธุรกิจให้กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ พาร์ทเนอร์ร้านอาหาร ผู้บริโภค และพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ เมื่อธุรกิจเติบโต แกร็บเองก็เติบโตตามไปด้วย ในขณะที่พาร์ทเนอร์ของเราจะช่วยเติมเต็มอีโคซิสเต็มโดยรวมของแกร็บ ผ่านความชำนาญด้านร้านค้าร้านอาหาร การเสริมกำลังด้านบุคลากร และความทุ่มเท แกร็บเองก็พร้อมที่จะมอบโอกาสดีๆ ให้เป็นการตอบแทน “แกร็บคิทเช่น” ยังเสริมกลยุทธ์ของแกร็บโดยการตอกย้ำวิสัยทัศน์หลักที่มุ่งขับเคลื่อนภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ผ่านการสนันสนุนผู้ประกอบการรายย่อยกว่าล้านราย คลาวด์ คิทเช่น แห่งนี้จะช่วยปูทางให้กับธุรกิจใหม่ พร้อมทั้งสร้างโอกาสทางรายได้ให้แก่พาร์ทเนอร์คนสำคัญของเรา”.