‘กมธ.ตำรวจ’ พบ ‘ผบ.ตร.’ ถก สวัสดิการ ตร. ชั้นผู้น้อย – แก้ปัญหาการครอบครองปืน
‘กมธ.ตำรวจ’ พบ ‘ผบ.ตร.’ ถก 4 ประเด็น ‘สวัสดิการ ตร. ชั้นผู้น้อย – ปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ – แก้ปัญหาการครอบครองอาวุธปืน – ปราบปรามยาเสพติด’
วันที่ 25 ต.ค.66 นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการนำสมาชิกในคณะกรรมาธิการฯ เข้าหารือและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นในการทำงาน ณ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่า ตนและทางสมาชิกในคณะกรรมาธิการฯ ได้เข้าหารือและเยี่ยมชมกิจการตำรวจ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เขตปทุมวัน โดยทางคณะกรรมาธิการฯ ได้สักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ซึ่งพระองค์ทรงเป็นผู้วางรากฐานกิจการตำรวจยุคใหม่ของประเทศไทย จากนั้น ทางคณะกรรมาธิการฯ ได้เข้าร่วมหารือกับผู้บังคับบัญชาระดับสูง โดยได้รับเกียรติจาก พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และคณะ
ทั้งนี้ในการหารือระหว่างคณะกรรมาธิการฯ กับทางตำรวจ บรรยากาศก็เป็นไปด้วยดี โดยมี 4 ประเด็นหลักที่มีการหารือกัน โดยในประเด็นแรก เป็นเรื่องเกี่ยวกับการสร้างขวัญกำลังใจของเจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นผู้น้อย โดยมีการระบุถึงปัญหาที่ตำรวจชั้นผู้น้อย ขาดทั้งสวัสดิการที่ไม่สามารถดำรงชีพได้ในยุคปัจจุบัน จนมีเจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นผู้น้อยรายหลายต้องกลายมาเป็นคนที่มีหนี้สิน ขาดสวัสดิการในการพักอยู่อาศัย ขาดทักษะในการฝึกในสถานการณ์หลากหลายรูปแบบ เป็นต้น โดยปัญหาส่วนหนึ่งมาจากงบประมาณที่มีไม่เพียงพอ โดยในปีงบประมาณ 2566 ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้งบประมาณเพียง 1 แสนกว่าล้านบาท ซึ่งไม่สอดคล้องกับภารกิจและเจ้าหน้าที่ที่มีมากขึ้น รวมทั้ง สภาพการทำงานที่เสี่ยงอันตรายตลอดเวลา แต่ยังขาดอุปกรณ์ที่จำเป็นในการปฏิบัติภารกิจที่ทันสมัยและเหมาะสม ประเด็นต่อมา ได้เน้นย้ำเรื่องการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ ซึ่งขณะนี้ถือเป็นปัญหาสำคัญที่สร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจและสังคมเป็นอย่างมาก และในบางกรณีก็เกิดการสูญเสียชีวิต รวมทั้ง ขณะนี้ผู้ก่อเหตุก็ได้พัฒนารูปแบบการหลอกลวงและสร้างแอพลิเคชั่นใหม่ๆ เพื่อก่อเหตุได้อย่างแนบเนียนและเอาทรัพย์สินของผู้เสียหายได้เป็นจำนวนมาก ๆ ดังนั้น ทางคณะกรรมาธิการฯ จึงได้นำข้อร้องเรียนของประชาชนที่ประสบปัญหา มาเพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าว
นายชัยชนะ กล่าวต่อว่า ส่วนปัญหาการครอบครองอาวุธปืนนั้น ตนเคยให้ความเห็นไปว่า จะต้องมีการแก้ไข พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนวัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 ให้ทันสมัย โดยจำเป็นจะต้องยกร่างกฎหมายใหม่ เพราะในปัจจุบัน วิทยาการและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับอาวุธปืน มีความก้าวหน้าไปไกลมาก รวมทั้ง สิ่งเทียมอาวุธปืนที่มีอานุภาพทำลายล้างเหมือนกับอาวุธปืนจริง รวมทั้ง จากเหตุการณ์สะเทือนขวัญประชาชนในหลายกรณี ที่เกิดจากการใช้อาวุธปืนกราดยิงผู้บริสุทธิ์นั้น ทำให้ประชาชนต้องการที่จะอยากเห็นการแก้ไขปัญหาในเรื่องการครอบครองอาวุธปืนที่เป็นรูปธรรม เพราะฉะนั้น ตนและคณะกรรมาธิการฯ จึงได้หยิบยกมาหารือกับผู้บังคับบัญชาในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งมีแนวโน้มที่จะสนับสนุนแนวทางที่จะยกร่างกฎหมายใหม่ โดยจะนำไปรวบรวมข้อมูลพร้อมกับข้อสังเกตต่างๆ เพื่อที่จะประกอบเข้าเป็นร่างกฎหมายในโอกาสต่อไป และประเด็นเรื่องยาเสพติด ซึ่งถือว่าเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ได้มาหารือกับทางตำรวจ โดยนอกจากการปราบปรามยาเสพติดตามแนวชายแดนแล้ว การกวาดล้างขบวนการภายในประเทศและขบวนการที่เชื่อมโยงในต่างประเทศ ก็ถือว่ามีส่วนสำคัญในการแก้ไขปัญหา และสามารถเชื่อมโยงในการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมอื่น ๆ ได้อีกด้วย
“ทางคณะกรรมาธิการการตำรวจ ต้องขอขอบคุณทาง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และบรรดาผู้บังคับบัญชาระดับสูง ที่ได้ต้อนรับและได้มาบอกกล่าวถึงปัญหาอุปสรรคในการทำงาน ซึ่งผมและคณะฯ จะได้นำข้อมูลทั้งหมดที่ได้ในการหารือ ไปเป็นแนวทางในการพัฒนาองค์กรตำรวจให้ทันสมัย มีประสิทธิภาพ มีความรวดเร็วในการป้องกันปราบปรามผู้กระทำผิด และเป็นองค์กรที่เป็นต้นธารแห่งกระบวนการยุติธรรม ที่ประชาชนเชื่อมั่นและมีความศรัทธา ทั้งนี้ ประเด็นสำคัญที่ได้มีการหารือกัน นอกจากจะเป็นปัญหาที่คนไทยส่วนใหญ่มีความเข้าใจกันอยู่แล้ว ก็ยังมีประเด็นที่จะต้องสร้างขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ การบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาชนในการแก้ไขปัญหาอาชญากรรม การประสานความร่วมมือกับต่างประเทศในการปราบปรามแก็งค์คอลเซ็นเตอร์และเว็บพนันออนไลน์ รวมทั้ง ยังได้ฝากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดูแลนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ให้ปลอดภัยจากเหตุไม่พึงประสงค์ต่างๆ เพื่อเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อการท่องเที่ยวของประเทศไทย” นายชัยชนะกล่าว