สสว.จับมือ ส.อ.ท. ผลักดันธุรกิจมวยไทยสู่เวทีโลก
สสว. ร่วมกับ ส.อ.ท.จัดงานสัมมนาครั้งยิ่งใหญ่ “มวยไทย สืบสานอัตลักษณ์ไทยสู่เวทีเศรษฐกิจโลก ปี 2” พร้อมผลักดันศิลปะวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ของมวยไทย ธุรกิจมวยไทย รวมถึงผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์มวยไทยไปสู่สายตาชาวโลก
นางลักขณา ตั้งจิตนบ ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมธุรกิจ SMEs สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวว่า คลัสเตอร์มวยไทยถือเป็นเครือข่ายที่มีบทบาททั้งในเชิงเศรษฐกิจและวัฒนธรรมของประเทศไทย (Cultural Goods) โดยมูลค่าของมวยไทยที่เกิดขึ้นทั้งในด้านกีฬาอาชีพ กีฬาเพื่อสุขภาพ สินค้าและอุปกรณ์ สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 100,000 ล้านบาทต่อปี และยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในปัจจุบันที่คนหันมาสนใจดูแลสุขภาพกันมากขึ้น กีฬามวยจึงเป็นอีกทางเลือกในการออกกำลังกายของคนรุ่นใหม่ ส่งผลต่อการเติบโตของโรงเรียนและยิมมวยเพื่อสุขภาพอย่างก้าวกระโดด
ปัจจุบันมีค่ายมวยในประเทศไทยอย่างน้อย จำนวน 5,100 แห่ง และในต่างประเทศ จำนวน 3,869 แห่ง ซึ่งยิมเหล่านี้สร้างความเชื่อมโยงไปยังอุตสาหกรรมและบริการที่อยู่ในซัพพลายเชนให้เติบโตไปด้วย ไม่ว่าจะเป็น อุปกรณ์การชกมวย เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย อาหารเครื่องดื่มสำหรับคนเล่นกีฬา ยา ตลอดจนถึงอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องอื่นๆ ที่สำคัญเกิดความต้องการครูมวยเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย ส่งผลให้ครูมวย นักมวย รวมถึงค่ายมวยหรือยิมมวยมีรายได้เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน
ด้านนายปรีชา ส่งวัฒนา รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และประธานสถาบันวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมอุตสาหกรรมการผลิต (SMI) กล่าวว่า สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เห็นถึงศักยภาพของธุรกิจมวยไทย โดยเฉพาะธุรกิจยิมมวยเพื่อสุขภาพ รวมถึงเสื้อผ้าอุปกรณ์มวยไทยที่มีการเติบโตสูงมากขึ้น ดังนั้นการพัฒนายกระดับธุรกิจมวยไทยทั้งระบบโดยการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาเพิ่ม value และพัฒนาการผลิต คุณภาพมาตรฐาน ระบบการบริหารจัดการ พร้อมทั้งออกแบบผลิตภัณฑ์และบริการให้มีความสร้างสรรค์ เพื่อการพัฒนาความเข้มแข็งและความยั่งยืนของเครือข่ายมวยไทยในทุกมิติ จึงเป็นทิศทางการพัฒนาอุตสาหกรรมดังกล่าว
“ที่สำคัญเรายังคงเน้นการขยายตลาดไปยังต่างประเทศให้มากขึ้น โดยมุ่งเป้าไปที่ตลาดจีน ที่มวยไทยกำลังเป็นที่นิยม ก่อนจะนำคณะมวยไทยไปโชว์ที่เซี่ยงไฮ้ช่วงเดือนสิงหาคมที่จะถึง ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญที่หน่วยงานภาครัฐจับมือกันขับเคลื่อนธุรกิจมวยไทยในครั้งนี้ ซึ่งเราหวังว่าสินค้าทางวัฒนธรรมอันยิ่งใหญ่ของไทยจะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจกลับสู่ประเทศไทยอย่างมหาศาลในอนาคตอันใกล้นี้” นายปรีชากล่าว
ทั้งนี้ ภายในงานนอกจากมีการอบรมให้ความรู้ในเชิงธุรกิจอย่างเข้มข้น อาทิ ข้อมูลทิศทางผู้ใช้บริการยิมมวยไทย การนำนวัตกรรมและวิทยาศาสตร์การกีฬากับการเพิ่มมูลค่าให้ธุรกิจมวยไทย การสร้างแบรนด์ให้เข้าถึงหัวใจผู้บริโภค Ads Media Channel โดนใจใช่เลยในยุคดิจิทัล Success Case ธุรกิจมวยไทย
และยังมีการแสดงและโชว์เกี่ยวกับมวยไทยให้ได้ชมตลอดทั้งวัน อาทิ ภูมิปัญญาศิลป์แห่งแผ่นดิน Beautiful Fighter มวยไทย 5 สาย จากปรมาจารย์ครูมวยไทยทั้ง 5 สาย โชว์มวยไทยโบราณ พบปะนักมวย ครูมวย มากมาย และร่วมกิจกรรม workshop สินค้าและอุปกรณ์มวยไทย และสามารถเลือกซื้อสินค้ามวยไทย ที่จะมาลดราคาสูงสุดกว่า 80 % จากสมาชิกเครือข่ายตลอดทั้งวัน ซึ่งกิจกรรมเกี่ยวกับมวยไทยจะมีขึ้นในปลายเดือนกันยายนนี้