สิงคโปร์ชี้ โควิด-19 ไม่หายไปถาวร
สิงคโปร์ – วิเวียน บาลัคริชแนน รมว.ต่างประเทศของสิงคโปร์ระบุในการให้สัมภาษณ์สื่อว่า โควิด-19 จะไม่หายไปอย่างถาวร และการติดเชื้อเป็นระลอกจะกลายเป็นเรื่องปกติในอีกไม่กี่ปีหน้านี้
“ โควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่นของมนุษย์ ซึ่งหมายความว่าจะเป็นโรคที่ไม่มีทางหายไปอย่างสิ้นเชิง” บาลัคริชแนนกล่าวกับสื่อโทรทัศน์ในวันที่ 10 พ.ค.
“และเหตุผลที่โควิด-19 จะไม่หายไปอย่างถาวรเพราะเป็นโรคที่แพร่ระบาดไปทั่วโลก ส่งผลกระทบเป็นบริเวณกว้าง มีการกลายพันธุ์และมีสายพันธุ์ใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และระดับภูมิคุ้มกันของมนุษย์จะเพิ่มขึ้นและเสื่อมถอยลงด้วยเช่นกัน ” เขากล่าว
โดยรมว.ท่านนี้ ซึ่งเป็นแพทย์มาก่อนที่จะเข้าสู่แวดวงการเมือง ยังได้เตือนว่า ตอนนี้อาจเป็น “ช่วงเวลาที่อันตรายขึ้น” สำหรับผู้ที่รับวัคซีนแล้วชะล่าใจ รวมถึงผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนและขาดภูมิคุ้มกันวัคซีน
บาลัคริชแนนระบุว่า การฉีดวัคซีนเป็นเรื่องสำคัญ และผู้ที่ได้รับวัคซีนแล้ว หากติดเชื้อจะมีอาการของโรคน้อยลงและไม่รุนแรง แต่การฉีดวัคซีนเพียงอย่างเดียวไม่ใช่ ‘ยาครอบจักรวาล’ สำหรับควบคุมโควิด-19
หมายความว่ายังต้องมีหลายมาตรการเพื่อช่วยควบคุมโควิด-19 ต่อไป อาจต้องมีการกลับมาใช้มาตรการรักษาระยะห่างทางสังคมและการปิดพรมแดนเป็นระยะเพื่อรับมือกับสถานการณ์โควิด-19 ในอีก 2 ปีหน้า
ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา สิงคโปร์ประกาศคุมเข้มมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม หลังจากพบการติดเชื้อในชุมชนเพิ่มขึ้น จนถึงวันที่ 9 พ.ค. สิงคโปร์มียอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมอยู่ที่ 61,300 ราย และมีผู้เสียชีวิต 31 ราย จากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุข
บาลัคริชแนนระบุว่า ประชากรสิงคโปร์ฉีดวัคซีนแล้ว 20% แต่รัฐบาลไม่มีกำหนดเวลาที่เจาะจงว่า ประเทศจะมีภูมิคุ้มกันหมู่เมื่อไร เขาอธิบายว่า เนื่องจากมีไวรัสสายพันธุ์ใหม่อุบัติขึ้น จำเป็นต้องเพิ่มระดับความเข้มงวดในการป้องกันโรคในประเทศ เพื่อสกัดไม่ให้มีการติดเชื้ออย่างรวดเร็ว
“เนื่องจากมีการกลายพันธุ์ของไวรัสและไวรัสสายพันธุ์ใหม่เหล่านี้ทำให้มีการติดเชื้อมากกว่าสายพันธุ์เดิม ระดับของภูมิคุ้มกันหมู่ก็เปลี่ยนแปลงไปด้วย” เขากล่าว
“มีแนวโน้มว่าภูมิคุ้มกันหมู่จากการฉีดวัคซีนก็จะลดลงไปตามเวลา ประเด็นสำคัญคือ คุณไม่อาจคาดการณ์ว่าจะถึงเวลาที่สุดพิเศษของการมีภูมิคุ้มกันหมู่ได้ เวลาที่คุณจะมีภูมิคุ้มกันแบบฉับพลันทันที และไม่จำเป็นต้องมีมาตรการคุมเข้มอีก”