“สุริยะ” สั่งลดแบบทางด่วน กะทู้-ป่าตอง
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการทางพิเศษกะทู้ – ป่าตอง จ.ภูเก็ต หรือโครงการอุโมงค์ป่าตอง ระยะทาง 3.98 กม.ว่า จากที่การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ได้เสนอเรื่องมาที่กระทรวงคมนาคม
โดยเห็นว่า โครงการออกแบบก่อสร้างเป็นอุโมงค์ขนาดใหญ่ ซึ่งพิจารณาแล้วเห็นว่า อาจทำให้มีค่าก่อสร้างสูง ประกอบกับ ยังไม่มั่นใจในเรื่องสภาพดินและหินในช่วงที่จะก่อสร้างอุโมงค์ว่ามีความแข็งแรงเพียงพอหรือไม่ เพราะการสำรวจของที่ปรึกษาที่ทำมาก่อนหน้านี้ อาจจะสำรวจขุดเจาะสภาพชั้นหินและดินน้อยไป ซึ่งในหลักการทางด่วน กะทู้ – ป่าตอง จะก่อสร้างเป็นอุโมงค์คู่แยกจราจร 2 ทิศทาง เนื่องจากจะมีค่าก่อสร้างที่ต่ำกว่าอุโมงค์เดี่ยวที่ต้องมีขนาดใหญ่มาก
ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมจะเร่งส่งเรื่องกลับไปที่กทพ.เพื่อให้พิจารณาปรับปรุงแบบและขนาดอุโมงค์ให้เล็กลง ซึ่งจะส่งผลให้ค่าก่อสร้างถูกลงและพิจารณาข้อมูลเรื่องความปลอดภัยเพิ่มเติมด้วย ซึ่งโครงการทางด่วน กะทู้ ? ป่าตอง เป็นโครงการเร่งด่วนที่มีความสำคัญ คาดว่าจะใช้เวลาทบทวนไม่นานให้เร่งเสนอกลับกระทรวงโดยเร็ว เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.) พิจารณาต่อไป
นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กล่าวว่า กทพ.รับทราบนโยบายของรมว.คมนาคมแล้ว ในการปรับแบบและ ลดขนาดอุโมงค์ เพื่อลดค่าก่อสร้างและเพิ่มความปลอดภัยโดยจะเพิ่มอุโมงค์รถจักรยานยนต์ เพื่อแยกการจราจรออกต่างหาก โดยจะปรับแบบจาก 2 อุโมงค์เป็น 3 อุโมงค์ เป็นอุโมงค์สำหรับรถยนต์ 2 อุโมงค์ มีการปรับลดจากเส้นผ่าศูนย์กลาง 17 เมตร เป็น 9 เมตร และอุโมงค์สำหรับรถจักรยานยนต์ 1 อุโมงค์เบื้องต้นประเมินเส้นผ่าศูนย์กลางที่ประมาณ 5 เมตร
อย่างไรก็ตาม หากกระทรวงฯ ส่งเรื่องกลับมาให้กทพ. จะเร่งดำเนินการศึกษาปรับแบบและรวมถึงศึกษาเปลี่ยนแปลงรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมใหม่( EIA) โดยคาดว่าจะใช้เวลาศึกษาปรับแบบ ประมาณ 1 ปี
สำหรับโครงการโครงการทางพิเศษกะทู้ – ป่าตอง จ.ภูเก็ต ระยะทางประมาณ 3.98 กม. แนวเส้นทางเริ่มต้นที่ ต.ป่าตอง บริเวณจุดตัด ถนนพระเมตตาก่อสร้างเป็นทางยกระดับและอุโมงค์ขนาด 4 ช่องจราจรต่อทิศทาง (สำหรับรถยนต์ 2 ช่องจราจรต่อทิศทาง และรถจักรยานยนต์ 2 ช่องจราจรต่อทิศทาง) โดยเป็นทางยกระดับข้าม ถนนพิศิษฐ์กรณีย์ จนถึงเขานาคเกิด ระยะทาง 0.9 กม.จากนั้นจึงเป็นอุโมงค์คู่ระยะทาง1.85 กม. ลอดเทือกเขานาคเกิด หลังจากนั้นเป็นทางยกระดับอีก 1.23 กม. จนสิ้นสุดโครงการที่ ต.กะทู้ บริเวณจุดตัดกับ ทล. 4029 (ถนนพระบารมี)
บอร์ด กทพ.มีมติเห็นชอบ เมื่อวันที่ 22 พ.ย. 2566 ที่ผ่านมาในการปรับรูปแบบการลงทุนโครงการฯ จากเดิมที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเมื่อวันที่ 18 ม.ค. 2565 เห็นชอบให้ดำเนินโครงการในรูปแบบการลงทุนแบบ PPP- Net Cost (ภาครัฐรับผิดชอบการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน ภาคเอกชนรับผิดชอบงานส่วนที่เหลือทั้งหมด ได้แก่ การออกแบบรายละเอียดและการก่อสร้าง และการดำเนินงานและบำรุงรักษา (Operation and Maintenance: O&M) เปลี่ยนเป็น กทพ.จะรับผิดชอบงานก่อสร้างโยธาของโครงการเอง ส่วนงานบำรุงรักษา (Operation and Maintenance: O&M) จะศึกษารวมในโครงการระยะที่ 2 ช่วงเมืองใหม่-เกาะแก้ว-กะทู้ ซึ่งจะใช้รูปแบบ PPP ร่วมลงทุนงานโยธาโครงการระยะที่ 2 ช่วงเมืองใหม่-เกาะแก้ว-กะทู้ ระยะทาง 30 กม. และการบริหารจัดการและบำรุงรักษา(O&M) โครงการทั้ง 2 ระยะ เนื่องจากไม่มีเอกชนเข้ายื่นประมูล