‘ไฟเซอร์’ เกทับ วัคซีนมีประสิทธิภาพ 95%
เมื่อวันที่ 18 พ.ย. บริษัทไฟเซอร์และ BioNTech ระบุว่า ผลการวิเคราะห์ข้อมูลในขั้นตอนสุดท้ายพบว่า วัคซีนโควิด-19 ของบริษัทมีประสิทธิภาพ 95% ในการป้องกันโควิด-19 และดูจะขจัดโรคร้ายแรงนี้ได้
บริษัทระบุว่า วัคซีนโควิด-19 ที่มีชื่อเรียกว่า BNT162b2 มีประสิทธิภาพสูงในการต้านไวรัส 28 วันหลังจากได้รับวัคซีนโดสแรก และมีประสิทธิภาพครอบคลุมทุกวัย ทุกเชื้อชาติและชาติพันธุ์ นอกจากนี้ สำหรับกลุ่มผู้สูงวัย ซึ่งมีความเสี่ยงสูงที่จะมีอาการรุนแรงมากกว่าจากโรคระบาดโควิด-19 พบว่าวัคซีนมีประสิทธิภาพเกิน 94%
“การวิเคราะห์สุดท้ายเน้นย้ำถึงผลของประสิทธิภาพที่มีการประกาศเมื่อวันที่ 9 พ.ย.ที่ผ่านมา” อูกูร์ ซาฮิน ซีอีโอของ BioNTech ระบุในแถลงการณ์ “ ข้อมูลชี้ว่า วัคซีนของเรา เร่งให้เกิดอัตราการป้องกันสูงกับโควิด-19 ภายใน 28 วันหลังโดสแรก นอกจากนี้ วัคซีนยังมีผลดีกับทุกวัย ขณะที่มีผลข้างเคียงเล็กน้อย”
วัคซีนดูจะป้องกันโรคร้ายแรงในกลุ่มอาสาสมัคร มีการสังเกตผู้ป่วยโควิด-19 อาการหนักในการทดลองเฟส 3 โดย 9 รายอยู่ในกลุ่มวัคซีนหลอก พบว่าไม่มีความน่ากังวลเรื่องความปลอดภัย โดยอาการไม่พึงประสงค์ส่วนใหญ่แก้ได้อย่างรวดเร็วหลังได้รับวัคซีน
ข่าวนี้ทำให้หุ้นของบริษัทปรับขึ้นทันที 3%
การวิเคราะห์ขั้นสุดท้ายประเมินจากผู้ป่วยติดเชื้อ 170 รายที่อยู่ในกลุ่มผู้เข้าร่วมการทดสอบกว่า 43,000 ราย โดยบริษัทระบุว่า มีการสังเกตผู้ติดเชื้อ 162 รายในกลุ่มที่ได้รับวัคซีนหลอก เทียบกับ 8 รายในกลุ่มที่ได้รับวัคซีน 2 โดส โดยผลที่ได้คือวัคซีนมีประสิทธิภาพ 95%
ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ชี้ว่า ยังคงไม่ชัดเจนว่าวัคซีนจะสร้างภูมิคุ้มกันได้นานแค่ไหน และต้องฉีดวัคซีนกระตุ้นบ่อยแค่ไหน
นักลงทุนและรัฐบาลหลายประเทศมองว่าวัคซีนที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพเป็นการแก้ไขปัญหาที่จะทำให้เศรษฐกิจโลกกลับมาเข้าที่เข้าทางเหมือนเดิม หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดส่งผลกระทบทำลายเศรษฐกิจเกือบทุกประเทศ โดยโควิด-19 ยังคงแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว ทำให้มียอดผู้ป่วยสะสมทั่วโลกกว่า 55.6 ล้านราย และมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1.33 ล้านรายจนถึงวันที่ 18 พ.ย. จากข้อมูลที่รวบรวมโดยมหาวิทยาลัยจอห์นส ฮอปกินส
ไฟเซอร์ระบุว่า มีแผนจะยื่นขออนุมัติฉุกเฉินจากองค์การอาหารและยา (FDA) ได้ภายในไม่กี่วันนี้ โดยอัลเบิร์ต บูร์ลา ซีอีโอของบริษัทระบุในการประชุมเมื่อวันที่ 17 พ.ย.ว่า บริษัทมีข้อมูลความปลอดภัยที่จำเป็นเพียงพอในการยื่นพิจารณาวัคซีน
ทั้งสองบริษัทย้ำว่า คาดการณ์ว่าจะผลิตวัคซีนได้ถึง 50 ล้านโดสในปีนี้ และมากถึง 1,300 ล้านโดสในปี 2564 โดยยังระบุว่า เชื่อมั่นในศักยภาพการกระจายวัคซีน ซึ่งจำเป็นต้องจัดเก็บในอุณหภูมิเย็นจัด