คลังย้ำ! เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวเร็วเกินคาด
คลังเล่นบท “รับลูกต่อ” จากสภาพัฒน์ ย้ำ! เศรษฐกิจไตรมาส 3 ฟื้นตัวเร็วเกินคาด เหตุเพราะ 3 ปัจจัยสำคัญ ตั้งเป้า ม.ค.ปีหน้า พร้อมประกาศและปรับจีดีพีใหม่ ทั้งของปี 63 และ 64
ข้างต้น คือ คำยืนยันจาก “รองโฆษกกระทรวงการคลัง” นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ก่อนจะย้ำต่อมาว่า….
“วันนี้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) ได้ประกาศอัตราการขยายตัวผลิตภัณฑ์มวลรวมของไทยในไตรมาส 3 ปี 2563 ว่าเศรษฐกิจไทยหดตัวที่ร้อยละ -6.4 ต่อปี ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้เดิม และปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาส 2 ปี 2563 ที่หดตัวร้อยละ -12.1 ต่อปี และหากเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อน เศรษฐกิจไทยขยายตัวระดับสูงที่ร้อยละ 6.5 ต่อไตรมาสหลังปรับผลของฤดูกาล แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจไทยได้ผ่านจุดต่ำสุดแล้ว”
ทั้งนี้ ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 3 ปี 2563 ฟื้นตัวขึ้น ได้แก่ 1) การใช้จ่ายของรัฐบาลและการลงทุนภาครัฐ ขยายตัวเร่งขึ้นที่ร้อยละ 3.4 และ 18.5 ตามลำดับ (เมื่อปรับผลของฤดูกาลขยายตัวที่ร้อยละ 2.3 และ 6.3 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ตามลำดับ) โดยเป็นผลจากการเร่งเบิกจ่ายในครึ่งหลังของปีงบประมาณและการขยายตัวทั้งการลงทุนในสิ่งก่อสร้างและเครื่องมือเครื่องจักร
2) การใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคขั้นสุดท้ายของเอกชน หดตัวชะลอลงที่ร้อยละ -0.6 ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าที่หดตัวสูงร้อยละ -6.8 สะท้อนการบริโภคภาคเอกชนที่กลับมาอยู่ในระดับใกล้เคียงภาวะปกติ
และ 3) การส่งออกสินค้าหดตัวร้อยละ -7.7 ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าที่หดตัวร้อยละ -15.9 โดยการส่งออกสินค้าไปยังตลาดสหรัฐฯ ขยายตัวได้ดี นำโดยสินค้าอุตสาหกรรมที่สำคัญ เช่น ปลากระป๋องและปลาแปรรูป ผลิตภัณฑ์ยาง อาหารสัตว์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และเฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น
และ 3) การส่งออกสินค้าหดตัวร้อยละ -7.7 ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าที่หดตัวร้อยละ -15.9 โดยการส่งออกสินค้าไปยังตลาดสหรัฐฯ ขยายตัวได้ดี นำโดยสินค้าอุตสาหกรรมที่สำคัญ เช่น ปลากระป๋องและปลาแปรรูป ผลิตภัณฑ์ยาง อาหารสัตว์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และเฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น
“กระทรวงการคลังมั่นใจว่าเศรษฐกิจไทยจะปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปี 2563 และสามารถกลับมาขยายตัวเป็นบวกได้อีกครั้งในปี 2564 โดยกระทรวงการคลังจะพิจารณาปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2563 และ 2564 อีกครั้ง ณ สิ้นเดือน ม.ค. 2564 สำหรับการดำเนินมาตรการในระยะต่อไปจะมุ่งเน้นการสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจ การรักษาระดับการจ้างงาน การเร่งรัดการใช้จ่ายของภาครัฐและรักษาเสถียรภาพการคลัง เพื่อสนับสนุนให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยมีความต่อเนื่องและยั่งยืน” รองโฆษกกระทรวงการคลัง ระบุ.