มาคร็อง ชนะเลือกตั้งฝรั่งเศสรอบแรก
เอ็มมานูเอล มาคร็อง นักการเมืองสายเสรีนิยมจะต้องไปชิงชัยกันอีกครั้งกับมารีน เลอเเปน นักการเมืองฝ่ายขวาจัดในรอบสุดท้ายของการเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯในวันที่ 7 พ.ค.นี้
มีจำนวนผู้มาใช้สิทธิในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 23 เม.ย.ที่ผ่านมาถึง 96% โดยนายมาคร็องได้คะแนนไป 23.9% และนางลาเเปน มีคะแนน 21.4%
โดยจากโพลล์สำรวจความคิดเห็นทำนายว่า นายมาคร็องจะได้รับชัยชนะในรอบสุดท้ายที่ผ่านมา
นางเลอเเปนโดดเด่นและเป็นที่จับตามานานว่าจะมีโอกาสคว้าชัยและทะลุไปในรอบสุดท้ายได้อย่างแน่นอน ขณะที่นายเอ็มมานูเอล มาคร็องก้าวขึ้นมาเป็นที่จดจำของชาวฝรั่งเศสได้อย่างรวดเร็ว
โดยผู้สื่อข่าวบีบีซีรายงานว่า นี่เป็นชัยชนะชั่วข้ามคืนของนายมาคร็องเขากล่าวกับผู้สนับสนุนว่า “ เราได้เปลี่ยนแปลงโฉมหน้าของการเมืองฝรั่งเศสได้ภายในหนึ่งปี”
โดยเขาได้เรียกร้องให้ประชาชนร่วมกันต่อต้านความคิดแบบชาตินิยม นายมาคร็องเคยเป็นอดีตนายธนาคารและเคยเป็นรัฐมนตรีเศรษฐกิจอยู่ในคณะรัฐมนตรีของประธานาธิบดีฟร็องซัวส์ ออลลองด์ในปัจจุบัน และลาออกมาตั้งพรรคการเมืองใหม่
เขาไม่เคยลงสมัครรับเลือกตั้งมาก่อน และหากเขาชนะในครั้งนี้ เขาจะกลายเป็นประธานาธิบดีฝรั่งเศสที่มีอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์
โดยนายมาคร็องสนับสนุนการคงอยู่ต่อไปในสหภาพยุโรป เขายังได้เรียกร้องให้มีการยกเลิกกฎระเบียบของเศรษฐกิจฝรั่งเศสและผลักดันแผนการลงทุนของภาครัฐ ที่มีมูลค่าหลายพันล้านยูโร หลังรับทราบผลการเลืกตั้ง นางเลอเเปนเรียกตัวเธอเองว่า ตัวเลือกของประชาชน และกล่าวต่อว่า
“ ก้าวแรก เราคว้ามาได้แล้ว และผลลัพธ์จะเป็นการสร้างประวัติศาสตร์ ” เธอเป็นประธานพรรคแนวร่วมแห่งชาติ ที่มีนโยบายกีดกันผู้อพยพ
เธอพยายามที่จะลดโทนของพรรคให้ดูอ่อนโยนลงและนำชัยชนะมาสู่พรรคได้ในการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นเมื่อปี 2558
นอกจากนี้ เธอยังมีแนวคิดที่อยากให้ฝรั่งเศสแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปและให้มีการเจรจาหลังการลงประชามติ เธอยังต้องการให้มีการผลักดันผู้อพยพกลับสู่ประเทศบ้านเกิดอีกด้วยและเธอมีแนวคิดชาตินิยมแบบสุดโต่ง มีคนเรียกเธอว่า ‘ ทรัมป์แห่งฝรั่งเศส’
เนื่องจากเธอมีแนวคิดที่สอดคล้องกับนโยบายของผู้นำสหรัฐฯ มาโดยตลอดในหลายเรื่องทั้งเยอรมนี และสหภาพยุโรปต่างยินดีกับชัยชนะของนายมาคร็อง.