PDP ฉบับใหม่ “ค่าไฟ” ถูกกว่าเดิม
กุลิศ เผย แผน PDP ฉบับใหม่ ค่าไฟฟ้าถูกกว่าแผนเดิมประมาณ 2 บาทต่อหน่วย ตลอดแผน 20 ปี พร้อมระบุตั้งแต่ปี 61-68 ยัง ไม่จำเป็นต้องสร้างโรงไฟฟ้าใหม่
นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยถึง ร่างแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า (Power Development Plan : PDP) ของประเทศไทย ฉบับใหม่ (2561-2580) ว่า มีแตกต่างจากแผนฉบับเดิม โดยจะพิจารณาถึงความต้องการใช้ไฟฟ้าเป็นรายภูมิภาค จากเดิมเป็นการพยากรณ์ความต้องการรวมทั้งประเทศ แล้วจึงจัดสรรโรงไฟฟ้าให้เหมาะสมกับความต้องการใช้ไฟฟ้าในแต่ละภูมิภาค และยังคำนึงถึงความมั่นคงของระบบไฟฟ้าทั้งประเทศ รวมทั้งเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป ทำให้การผลิตไฟฟ้าใช้เองเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว มีการผลิตไฟฟ้าใช้เองจากโซลาร์เซลล์เข้ามาในระบบอาคาร โรงงานมากขึ้น
ทั้งนี้ตั้งแต่ปี 2561-2568 พบว่ามีกำลังผลิตไฟฟ้าเพียงพอต่อความต้องการใช้ไฟฟ้า จึงยังไม่จำเป็นต้องสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ แต่หลังจากปี 2568 กำลังการผลิตที่เชื่อถือได้จะเริ่มต่ำกว่าความต้องการใช้ไฟฟ้า และคาดว่าช่วงปลายแผนปี 2580 กำลังการผลิตที่เชื่อถือได้จะต่ำกว่าความต้องการใช้ 27,000 เมกะวัตต์ จะต้องเริ่มมีการจัดสรรโรงไฟฟ้าเพิ่มเข้ามาเติมในระบบ
นายกุลิศ ร่างแผน PDP ฉบับใหม่นี้ คาดว่าค่าไฟฟ้าจะอยู่ที่ 3.576 บาทต่อหน่วย ตลอดแผน ซึ่งต่ำกว่าแผน PDP ฉบับเดิมที่อยู่ราว 5.55 บาท/หน่วย เนื่องจากได้ปรับสัดส่วนการใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงมากขึ้นจากแผนเดิม 37 เปอร์เซ็นต์เป็น 53 เปอร์เซ็นต์ เป็นผลมาจากปริมาณก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG)ในตลาดเพิ่มขึ้นและราคาถูกลง
สำหรับการจัดสรรกำลังผลิตที่เชื่อถือได้เพื่อให้เพียงพอกับความต้องการใช้ไฟฟ้าไปถึงปี 2580 ได้วางการจัดสรรโรงไฟฟ้าโดยพิจารณาจาก 4 แนวทาง คือ 1. โรงไฟฟ้าจากนโยบายส่งเสริมภาครัฐ ได้แก่ โรงไฟฟ้าขยะชุมชน โรงไฟฟ้าชีวมวลประชารัฐ 3 จังหวัดชายแดนใต้
2. โรงไฟฟ้าหลักจากเชื้อเพลิงฟอสซิล แต่ละภาคต้องมีโรงไฟฟ้าหลักเพื่อรักษาความมั่นคงของระบบไฟฟ้า ซึ่งโรงไฟฟ้าดังกล่าวมาจากโรงไฟฟ้าที่มีสัญญาอยู่แล้วทั้งจากโรงไฟฟ้าของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) โรงไฟฟ้าของผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนขนาดใหญ่ (IPP) โรงไฟฟ้าผู้ผลิตขนาดเล็ก (SPP) และจากการนำเข้าจาก สปป.ลาว
3.โรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนตามแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก (AEDP) ได้แก่ โรงไฟฟ้าชีวมวล ก๊าซชีวภาพ โซลาร์ภาคประชาชน โซลาร์ลอยน้ำ และพลังงานหมุนเวียนอื่นๆ ซึ่งจะมีกำลังผลิตไฟฟ้ารวมประมาณ 18,000 เมกะวัตต์ โดยต้องรักษาระดับราคาขายปลีกไม่ให้สูงขึ้น
และ 4. แผนอนุรักษ์พลังงาน (EEP) ที่สามารถพิสูจน์ความเชื่อมั่นด้วยคุณภาพและแข่งด้วยราคาได้ คือแผนใหม่จะพิจารณาต้นทุนของการลดใช้พลังงานจะต้องเป็นราคาที่แข่งขันได้เมื่อเปรียบเทียบกับต้นทุนการสร้างโรงไฟฟ้า ซึ่งแผนอนุรักษ์พลังงานด้านไฟฟ้าตลอดแผน PDP ฉบับใหม่ มีประมาณ 4,000 เมกะวัตต์
อย่างไรก็ดี การเปิดรับฟังความคิดเห็นต่อร่างแผนพีดีพี ฉบับใหม่ ในภูมิภาคต่างๆ กระทรวงพลังงาน จะรวบรวมเพื่อใช้ในการปรับปรุงร่างแผน PDP ฉบับใหม่ และจะนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.)
ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ในเดือน ธ.ค.นี้ เพื่อขอความเห็นชอบ ก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.) อนุมัติและประกาศใช้ต่อไป