“KIENGMOOL” นวัตกรรมจากวัตถุดิบธรรมชาติ
ไอเดียความคิดในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์เป็นสิ่งที่สำคัญต่อการดำเนินธุรกิจ เพราะโลกของการทำธุรกิจมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ดังนั้น ผู้ประกอบการจึงต้องพยายามหาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด
แบรนด์ “เคียงมูล” (KIENGMOOL) คือหนึ่งแบรนด์ที่มีการเปลี่ยนแปลง และปรับตัวตามสถานการณ์ และองค์ความรู้ที่ได้มีการศึกษาเพิ่มเติม จนสามารถสร้างสรรค์ให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ และใช้งานได้จริงเป็นที่ยอมรับจากผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ
จุดเริ่มต้นธุรกิจ
ฉัตรชัย ชลิตตานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เคียงมูล พลังงานยั่งยืน (ประเทศไทย) จำกัด บอกถึงที่มาที่ไปของจุดเริ่มต้นที่กว่าจะมาเป็นแบรนด์ “เคียงมูล” ในปัจจุบัน ว่า มาจากคุณพ่อและคุณแม่ ทำธุรกิจเกี่ยวกับซุบเปอร์มาร์เก็ตที่จังหวัดอุบลราชธานี หลังจากนั้นเมื่อมีโมเดิร์นเทรดเข้ามาเปิดให้บริการจึงมีการปรับเปลี่ยนมาทำการเกษตร ด้วยการปลูกต้อนไม้ ปลูกไม้ไผ่ร่วมกับชาวบ้าน โดยดำเนินการในรูปแบบของวิสาหกิจชุมชน เพื่อส่งไม้ที่ปลูกได้ให้กับโรงงานทำกระดาษ
อย่างไรก็ตาม ในการส่งไม้ให้กับโรงงานทำกระดาษนั้น จะคัดเลือกใช้เฉพาะไม้ขนาดใหญ่ ทำให้เหลือเศษไม้ขนาดเล็กอยู่เป็นจำนวนมาก ประกอบกับที่ได้รู้จักกับเตาอิวาเตะของประเทศญี่ปุ่น จึงได้ทำการศึกษาต่อจนสามารถทำเตาอิวาเตะขึ้นมาเองได้ เพื่อนำไม้ขนาดเล็กมาเผาทำเป็นผลิตภัณฑ์ถ่านดูดกลิ่น โดยในระยะแรกที่ผลิตออกมาลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มของผู้ประกอบการเกี่ยวกับร้านปิ้งย่าง หรือบาร์บีคิวที่กำลังได้รับความนิยม แต่ในระยะหลังบริษัทไม่ได้จำหน่ายให้ โดยนำมาทำเป็นถ่านดูดกลิ่นเท่านั้น เพื่อจำหน่ายภายใต้แบรนด์ “เคียงมูล”
“กระบวนการทำงานของเตาอิวาเตะจะแตกต่างจากการเผาถ่านโดยทั่วไปซึ่งจะใช้อุณหภูมิความร้อนอยู่ที่ประมาณ 300-400 องศาเซลเซียส แต่เตาอิวาเตะจะใช้ความร้อนสูงถึง 1,400 องศาเซลเซียส โดยกระบวนการจะเรียกว่าเป็นการอบไม้ให้กลายเป็นถ่าน ซึ่งจะต้องใช้ระยะเวลาในการอบเป็นเดือน โดยเป็นการควบแน่นข้างใน ซึ่งทำให้เกิดเป็นหยดน้ำ ที่เรียกว่าน้ำส้มควันไม้ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ เคียงมูล โดยจะต้องใช้ระยะเวลาในการบ่มอีก 6 เดือนถึงจะสามารถนำมาใช้งานได้”
ขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ
ฉัตรชัย บอกต่อไปว่า ถ่านและน้ำส้มควันไม้ของแบรนด์ “เคียงมูล” สามารถใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับวิธีการนำเสนอของบริษัท ทั้งการใช้งานเพื่อดูดกลิ่น หรือเพื่อสุขภาพ ส่วนน้ำส้มควันไม้ก็สามารถใช้งานได้ในรูปแบบของการไล่มด และแมลง รวมถึงใช้งานเป็นสเปรย์ดับกลิ่นภายในบ้าน เป็นต้น โดยปัจจุบันมีวางจำหน่ายห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ ,โรบินสัน บิ๊กซี ฯลฯ และการจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์อย่าง ช้อปปี้ (Shopee) และลาซาด้า (Lazada) เป็นต้น
ส่วนกลยุทธ์การทำตลาดของบริษัทในปีนี้จะดำเนินการทั้งในส่วนที่เป็นตลาดในประเทศ และตลาดต่างประเทศ โดยในส่วนของในประเทศ บริษัทจะเพิ่มช่องทางการจำหน่ายผ่านศูนย์จำหน่ายสินค้าที่เกี่ยวกับการตกแต่งบ้าน ซึ่งจะจำหน่ายอุปกรณ์ที่ผู้ใช้สามารถนำไปดูแล หรือตกแต่งบ้านได้ด้วยตนเอง (D.I.Y.) โดยช่องทางที่บริษัทมองไว้คือการวางจำหน่ายที่ร้านไทวัสดุ และโกบอล เฮ้าส์ (Global House) จากเดิมที่มีจำหน่ายอยู่แล้วที่โฮมโปร (HomePro) และเมกา โฮม (MEGA HOME) เนื่องจากมองว่าผลิตภัณฑ์ของบริษัทค่อนข้างเจาะจงเฉพาะกลุ่ม และยังไม่มีคู่แข่งในการจำหน่ายผ่านช่องทางดังกล่าว นอกจากนี้ ยังจะขยายช่องทางไปสู่การจำหน่ายผ่านร้านซีเจ เอ็กซ์เพรส (CJ Express) ซึ่งมีกว่า 300 สาขาทั่วประเทศ และท็อปส์ มาร์เก็ต (Tops Market)
ขณะที่การทำตลาดในต่างประเทศนั้น เร็วๆนี้แบรนด์จะได้ไปออกงานแสดงสินค้าที่ประเทศฮ่องกง ซึ่งจะทำให้แบรนด์มีโอกาสได้พบกับลูกค้ากลุ่มใหม่ ซึ่งปัจจุบันก็ให้ความสนใจผลิตภัณฑ์ของบริษัทอยู่ เหลือเพียงขั้นตอนการเจรจาทางธุรกิจเท่านั้น เช่น ประเทศอินเดีย ,อุซเบกิสถาน ,สหรัฐอเมริกา และประเทศในแถบยุโรป จากเดิมที่บริษัทมีลูกค้าอยู่แล้วที่ประเทศเดนมาร์ก ,นอร์เวย์ ,สวีเดน ,ฮ่องกง ,แอฟริกาใต้ และมาเลเซีย
ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ
ฉัตรชัย บอกต่อไปอีกว่า จุดเด่นของผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์เคียงมูลนั้น หากเป็นถ่านดูดกลิ่นจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่มาจากธรรมชาติ เป็นก้อนถ่าน 100% รวมถึงมีรูปทรงแบบ 6 เหลี่ยมที่โดดเด่น และมีการนำภูมิปัญญาชาวบ้านเข้ามาผสมผสานด้วยการใช้ตาข่ายดักไก่มาห่อหุ้นถ่านทำให้ไม่เลอะมือ ไม่สกปรก และไม่มีการแตกหัก ที่สำคัญยังผ่านกระบวนการเผาด้วยเตาอิวาเตะแบบญี่ปุ่น ซึ่งจะใช้ความร้อนที่อุณหภูมิประมาณ 1,400 องศาเซลเซียส ทำให้มีประสิทธิภาพในการดูดกลิ่นได้ดีกว่าถ่านทั่วไปถึง 5 เท่า
ส่วนผลิตภัณฑ์น้ำส้มควันไม้ก็คือน้ำที่เป็นธรรมชาติ ซึ่งมาจากกระบวนการเผาไม้ โดยที่น้ำสามารถรับประทานได้โดยที่ไม่มีผลต่อร่างกาย เรียกว่าเป็นน้ำส้มควันไม้แท้ที่มีประสิทธิภาพในการไล่มด แมลง อีกทั้งยังสามารถนำมาทำเป็นผลิตภัณฑ์สเปรย์ปรับกลิ่นได้อีกด้วย อย่างไรก็ดี ล่าสุดบริษัทได้ปรับเปลี่ยนเตาจากเตา อิวาเตะ ไปสู่การใช้เตา อิวาเตะบราซิล ซึ่งจะช่วยเพิ่มปริมาณในการเผาไม้แต่ละครั้ง และลดระยะเวลาในการเผา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต
“ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank มีส่วนช่วยสนับสนุนธุรกิจของบริษัทตั้งแต่รุ่นคุณพ่อ และคุณแม่ในเรื่องของการช่วยสนับสนุนสภาพคล่องให้กับบริษัท โดยปัจจุบันบริษัทได้รับเงินทุนหมุนเวียนจากการกู้สินเชื่อตามโครงการปกติของ ธพว. และผ่านทางโครงการสินเชื่อประชารัฐเพื่อประชาชน”
หลักคิดในการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จนั้น มองว่าอยู่ที่เรื่องของคุณภาพของผลิตภัณฑ์เป็นหลัก โดยไม่มีการโกหกลูกค้า ซึ่งถ่านดูดกลิ่นก็จะต้องดูดกลิ่นได้จริงตามสรรพคุณ ขณะที่น้ำส้มควันไม้ก็ต้องไล่มด แมลงได้จริง โดยผลิตภัณฑ์ของบริษัทจะเป็นของแท้ทั้งหมดที่ผลิตเองทุกชิ้น
เบอร์ติดต่อ : 061-4415669 คุณฉัตรชัย ชลิตตานนท์