สปท.การเมืองเปิดข้อเสนอดันคสช.คุมเลือกตั้งปี 2560
ไอเดียให้ “คสช.” เข้ามาควบคุมและดำเนินการจัดการเลือกตั้งในปี 2560 ให้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม
และ “กระทรวงมหาดไทย” จัดการเลือกตั้งแทน “กกต.” คณะกรรมการการเลือกตั้งที่ถูกริบอำนาจ
เป็นไอเดียใหม่ที่มาจาก “เสรี สุวรรณภานนท์” ประธานคณะกรรมาธิการปฏิรูปการเมือง สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ควงคู่ “วันชัย สอนศิริ” กมธ.ฯ
เสรี สุวรรณภานนท์ บอกว่า “ข้อเสนอนี้มาจากการตกผลึกที่เห็นร่วมกันใน กมธ. ด้านการเมือง อยากให้การเลือกตั้งในปี 2560 เป็นตัวอย่างให้การเลือกตั้งในอนาคต ซึ่งวิธีแบบที่คิดขึ้นมาให้ คสช.กับ กกต.ร่วมกันดำเนินการให้ดูเป็นตัวอย่าง เพราะ คสช.เป็นคนประกาศเองว่า อยากเห็นการเลือกตั้งโปร่งใส แต่หากคสช.ไม่กำกับ ไม่ดูแล ไม่ทำให้ดู ถึงเวลาจริงแล้วทำไม่ได้ จะเท่ากับสักแต่ว่าพูด สักแต่ว่าประกาศ เท่านั้น จึงเป็นภารกิจของ คสช. ต้องร่วมมือกับ กกต.ให้เป็นไปตามที่ประกาศไว้ให้ได้”
ไอเดียนี้เป็นการ เปิดลิ้นชักปัดฝุ่นข้อเสนอร่างรัฐธรรมนูญชุด “บวรศักดิ์ อุวรรณโณ” อดีตประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ มาฉายใหม่
แต่ที่น่าสนใจ คือข้อเสนอ 12 ข้อ ของกมธ.ปฏิรูปการเมือง สปท.ในการจัดทำร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.บ.)ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. ที่ระบุในบทเฉพาะกาล ว่า
“ ให้ก่อนมีการจัดการเลือกตั้ง ส.ส.ต้องมีการทดลองหรือซักซ้อมการจัดการเลือกตั้งล่วงหน้า 6 เดือน โดยใช้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ครบวาระ แต่ยังไม่มีการเลือกตั้งเป็นพื้นที่ในการทดลองตามภูมิภาคต่างๆ เพื่อที่ศึกษาข้อดี ข้อบกพร่อง และบทเรียน ที่เกิดขึ้นจากการเลือกตั้งดังกล่าว เพื่อนำข้อสรุปมาจัดทำแนวทางอันจะนำไปสู่การเลือกตั้งเป็นที่สุจริตและเที่ยงธรรม ”
ปฏิเสธไม่ได้ว่าการให้ออฟชั่นเสริมคสช.ร่วมแจมรับผิดชอบคุมการเลือกตั้ง มองเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ว่านี่คืออีกกลยุทธ์หนึ่งที่อาจจะใช้ในการสืบทอดอำนาจของคสช. โดยไม่ต้องเสียเวลาไปตั้งพรรคการเมืองใหม่ให้เอิกเกริก ให้ฝ่ายตรงข้ามโจมตี
ทว่าการ “โยนหินถามทาง” ของแม่น้ำสายที่ 4 ครั้งนี้ ถือเป็นการชิงจังหวะช่วงขาขึ้นของรัฐบาล เพื่อเรียกคะแนนปั่นแต้มต่อจากประชาชน
แน่นอนว่าปฏิกิริยาฝ่ายเห็นต่างที่ออกมายอมรับไม่ได้กับ ประเด็นร้อนที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ (นปช.) โดยเฉพาะ “2 คู่หู” ตู่-จตุพร พรหมพันธุ์ และ เต้น-ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ เดือดควันออกหูรุมตำหนิไอเดียบรรเจิดครั้งนี้
“ เป็นทฤษฎีแผลงๆ ให้หาเสียงแบบรถขายกับข้าว ถ้า คสช.ตั้งพรรคหรือแอบสนับสนุนใคร กลไกนี้จะเป็นปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น ผมว่ามั่วหนัก รวมทั้งการให้ทหาร ตำรวจ ลงพื้นที่จะทำให้การเลือกตั้งไม่แตกต่างจากให้ คสช.คุมการเลือกตั้ง เมื่อเป็นเช่นนี้ไม่ต้องเลือกตั้งเลยก็อยู่กันไป เพราะเห็นชัดเจนแล้วว่า ถูกต้องข้อสงสัยการสืบทอดอำนาจ เข้าข่ายผลประโยชน์ทับ และแสดงถึงความต้องการได้ชัดเจน กลไกนี้จะเป็นปัญหา รวมทั้งการให้ทหาร ตำรวจ ลงพื้นที่จะทำให้การเลือกตั้งไม่แตกต่างจากให้ คสช.คุมการเลือกตั้ง ”
ขณะที่ท่าที “มีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรธ.” เห็นพ้องไปในทิศทางเดียวกันว่า “คสช.ไม่มีอำนาจที่จะดำเนินการเรื่องดังกล่าว แต่ต้องดูข้อเสนอที่เสนอมา และฟังหลายๆ ฝ่ายจากผู้ที่มีประสบการณ์ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะนักการเมืองที่รู้ดีว่าจุดอ่อนอยู่ตรงไหน”
ล่าสุด “วันชัย สอนศิริ” สปท. ออกโรงเคลียร์สยบปมร้อนชัดๆว่า “ผมและนายเสรี โดนหางเลขไปด้วยว่าเป็นข้อเสนอที่สอพลอขอตำแหน่งกับเผด็จการ ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ปัญญาอ่อนและตกยุคสมัย รวมทั้งกล่าวหาว่าเป็นไอ้ห้อยไอ้โหน ผมยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของ สปท.โดยตรง แต่เป็นเรื่องในการพิจารณาของ สปท. ด้านการเมือง”
หากคสช.ยอมหักหัวเลี้ยวเล่นตามหมากที่วางไว้ พรรคการเมืองใหญ่ทั้งพรรคเพื่อไทย และพรรคประชาธิปัตย์คงได้ร้อนๆ หนาวๆ แน่นอน.