เงินหยวนอ่อน แต่จีนยังไปฮ่องกง/มาเก๊า

ผู้บริโภคชาวจีนไม่สนใจค่าเงินหยวนที่อ่อนค่าลง เและพวกเขายังคงเดินทางไปเยือนฮ่องกงและมาเก๊า
ค่าเงินหยวนที่อ่อนค่าลงประมาณ 10% ต่อดอลลาร์สหรัฐฯจากสงครามการค้าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ เดินหน้ากดดันโดยใช้มาตรการภาษีกับสินค้านำเข้าจากจีน ส่งผลกระทบทำให้ค่าเงินหยวนอ่อนลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ฮ่องกง และมีการคาดการณ์กันว่าจะกระทบอุตสาหกรรมค้าปลีกในฮ่องกงเพราะลูกค้าชาวจีนเป็นผู้บริโภคในสัดส่วนที่สูงที่สุดของฮ่องกง อย่างไรก็ตาม ผลกระทบนี้ยังเห็นไม่ชัดเจน
โดยการค้าปลีกฮ่องกงขยายตัวเพิ่มขึ้น 9.5% ในเดือนส.ค.เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน และสูงกว่า 7.8% ในเดือนก.ค. อ้างอิงจากตัวเลขในรายงานเมื่อสัปดาห์ที่แล้วของ Jessica Fei Ye นักวิเคราะห์หุ้นที่ Jefferies โดยจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่มาเยือนฮ่องกงเติบโต สูงขึ้นถึง 22% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบกับ 8% ในเดือนก.ค. อ้างอิงจากรายงาน
“ ตรงข้ามกับการคาดการณ์ของตลาด ตัวเลขการบริโภคของชาวจีนแผ่นดินใหญ่กลับมีความยืดหยุ่นกว่าการบริโภคในฮ่องกง หลังการอ่อนค่าลงของสกุลเงินเหรินหมินปี้ (หยวน) ” Tiffany Feng นักวิเคราะห์ส่วนผู้บริโภคของ Citi ระบุในรายงานที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 4 ต.ค.
นอกจากนี้ เธอชี้ให้เห็นอีกปัจจัยบวกสำคัญคือ กระบวนการออกวีซ่าที่ง่ายขึ้นของทางการจีนสำหรับผู้ที่จะมาท่องเที่ยวในฮ่องกง และนักท่องเที่ยวจีนเหล่านี้มีดีมานด์ที่แข็งแกร่งในส่วนการบริโภคเครื่องสำอางและเครื่องประดับในฮ่องกง
ฮ่องกง ซึ่งเป็นอดีตเกาะอาณานิคมของอังกฤษ และมาเก๊า ซึ่งเคยถูกปกครองโดยโปรตุเกส ยังคงมีการใช้สกุลเงินของตัวเอง หลังอังกฤษส่งมอบฮ่องกงคืนให้จีนในปี 2540 และโปรตุเกสส่งมอบเกาะมาเก๊าคืนให้จีนในปี 2542
โดยแรงดึงดูดสำคัญสำหรับชาวจีนให้มาเยือนฮ่องกงคือการช้อปปิ้ง ขณะที่มาเก๊าคือบ่อนการพนัน รายงานของนักวิเคราะห์จาก Citi อีกฉบับที่เพิ่งเผยแพร่ระบุตัวเลขจากการท่องเที่ยวมาเก๊าว่า ตัวเลขของนักท่องเที่ยวจีนที่มาเยือนมาเก๊าในช่วง 4 วันแรกของวันหยุดยาวประจำปีช่วงโกลเดนวีคของจีนในปีนี้เติบโตถึง 21.4% เมื่อเทียบกับปีก่อน Anil Daswani หัวหน้านักวิจัยการเล่นพนันทั่วโลกประจำ Citi ระบุในรายงาน
ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์มองในแง่บวกจากเมกะโปรเจคท์โครงสร้างพื้นฐานของจีนที่ตั้งเป้าจะบูรณาการทั้งสองภูมิภาคสำคัญรวมเข้ากับพื้นที่ทางตอนใต้ของจีนที่เรียกว่า Greater Bay Area โดยโครงการนี้มีจุดประสงค์เพื่อบูรณาการเศรษฐกิจระหว่างฮ่องกง มาเก๊า และ 9 เมืองในมณฑลกวางตุ้งของจีนเข้าด้วยกัน ซึ่งรวมถึงฮับพาณิชย์และคมนาคมอย่างเซินเจิ้นและกวางโจว
ทั้งนี้ รถไฟความเร็วสูงที่เริ่มเปิดให้บริการในเดือนก.ย.ที่ผ่านมา รวมทั้งสะพานและระบบอุโมงค์ที่มีกำหนดเปิดใช้ในเดือนต.ค.นี้ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญของโครงการ
มีประชาชนเกือบ 70 ล้านคนที่อาศัยอยู่ใน Greater Bay Area และประเมินว่าตัวเลขจีดีพีรวมกันอยู่ที่ 1.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เกือบเท่ากับเกาหลีใต้ หรือรัสเซีย.