ญี่ปุ่นลงทุนไทยเพิ่ม มูลค่ากว่า 70,000 ลบ.
กระทรวงอุตสาหกรรม ฉลอง Japan Desk เชื่อมโยงเครือข่ายผู้ประกอบการ สร้างโอกาสทางการตลาด ดึงญี่ปุ่นลงทุนอีก 500 บริษัท มูลค่ากว่า 70,000 ล้านบาท ผุดมาตรการดึงดูดนักลงทุนเพิ่ม
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ในไตรมาสแรกของปี พ.ศ. 2562 ประเทศญี่ปุ่นยังคงเป็นประเทศที่ยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนเป็นอันดับ 1 ของจำนวนโครงการ สำหรับการลงทุนต่างชาติทั้งหมด และประเทศญี่ปุ่นยังเป็นคู่ค้าอันดับที่ 2 ของไทย ซึ่งมีมูลค่าการค้ากว่า 1.94 ล้านล้านบาท ปัจจุบันมีนักลงทุนญี่ปุ่นเข้ามาลงทุนในไทย จำนวนกว่า 6,000 กิจการ
ที่ผ่านมากรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) ได้ริเริ่มพัฒนาความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมระหว่างไทยกับญี่ปุ่นอย่างเป็นรูปธรรม โดยได้ร่วมกับองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (The Japan External Trade Organization : JETRO) จัดตั้งโต๊ะญี่ปุ่น (Japan Desk) ขึ้น และมีการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2552 จากนั้นก็ได้พัฒนาและขยายความร่วมมือกับหน่วยงานทั้งรัฐบาลกลาง รัฐบาลท้องถิ่น และหน่วยงานเอกชน รวมจำนวน 29 แห่ง รวมลงนาม 32 ฉบับ ซึ่งได้ดำเนินงานมาครบ 10 ปีแล้ว
สำหรับ โต๊ะญี่ปุ่น ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางการสร้างสัมพันธ์ ประสานงานการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ สร้างความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมไทย-ญี่ปุ่น เกิดเป็นโครงการความร่วมมือเพื่อการพัฒนาอุตสาหกรรม ดังนี้ 1) ด้านการยกระดับอุตสาหกรรมสู่ 4.0 ภายใต้โครงการ Connected Industries โครงการสาธิตการผลิตแบบลีนออโตเมชั่น (Lean Automation System Integrators: LASI Project) การยกระดับศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม 4.0 การจัดตั้งศูนย์นวัตกรรมจังหวัดมิเอะ – ประเทศไทย หรือ MIE-Thailand innovation Center เป็นต้น
2) ด้านการพัฒนาบุคลากร การแลกเปลี่ยนบุคลากรและผู้เชี่ยวชาญ เพื่อการเรียนรู้วัฒนธรรมการทำงานในองค์กรของประเทศญี่ปุ่น การจัดทำโครงการ Re-Skill เพิ่มพูนทักษะการทำงานในด้านการพัฒนา SMEs ทุกมิติ 3) ด้านการเชื่อมโยงเครือข่ายผู้ประกอบการ โดยการการจัดงาน Business Networking การเชื่อมโยงเครือข่ายธุรกิจ การจัดสัมมนาแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ การประชุมเครือข่ายความร่วมมือด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมในลักษณะ “การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน” หรือ OTAGAI Forum ร่วมกับรัฐบาลท้องถิ่นที่มีความร่วมมือจำนวน 21 แห่ง
และ 4) การสร้างโอกาสทางการตลาด การจัดงาน Business Matching การพาผู้ประกอบการไปออกงานแสดงสินค้าที่ได้รับการสนับสนุนพื้นที่โดยไม่มีค่าใช้จ่าย อาทิ งานแสดงสินค้านวัตกรรมขององค์การสนับสนุน SMEs แห่งประเทศญี่ปุ่น (SMRJ) รวมถึงงานแสดงสินค้าของรัฐบาลจังหวัดต่าง ๆ อาทิ จังหวัดไซตามะ จังหวัดนากาโนะ และกรุงโตเกียว เป็นต้น
ทั้งนี้ กสอ. ได้รวบรวมตัวเลขการลงทุนจากจังหวัดที่ได้มีการลงนามความร่วมมือกับกระทรวงอุตสาหกรรม จำนวน 21 จังหวัด จากทั้งหมด 47 จังหวัดทั่วประเทศญี่ปุ่น พบว่ามีจำนวนบริษัทเข้ามาลงทุนในประเทศไทย ทั้งการลงทุนแบบ FDI แบบ Joint Venture และการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาสร้างความเข้มแข็งให้แก่อุตสาหกรรมไทยเพิ่มขึ้น จากเดิมมีผู้ประกอบการญี่ปุ่นมาลงทุน 2,100 บริษัท เพิ่มขึ้นอีก 500 บริษัท รวมเป็น 2,600 บริษัท คิดเป็นมูลค่าการลงทุนกว่า 70,000 ล้านบาท และในเดือนกันยายนนี้ จะเดินทางไปหารือกับบริษัทของญี่ปุ่น นำข้อเสนอแนะ มาปรับแนวทางการส่งเสริมการลงทุน เพื่อดึงดูดให้ญี่ปุ่นเข้ามาลงทุนในไทย
ด้าน นายชิโร ซะโดะชิมะ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า ทางญี่ปุ่นเองนั้น พร้อมที่จะให้การส่งเสริมและสนับสนุนทั้งด้านวัสดุ สิ่งทอ รวมถึงนวัตกรรมใหม่ ๆ และเทคโนโลยีขั้นสูง โดยเฉพาะในโครงการ Eastern Economic Corridor หรือ โครงการ EEC ที่ผู้ประกอบการญี่ปุ่นได้ให้ความสนใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก