สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 7 ต.ค. 68

1. สรุปสถานการณ์น้ำ และปริมาณฝนสะสม 24 ชม. สูงสุด ได้แก่ ภาคเหนือ : จ.แพร่ (59 มม.) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จ.นครราชสีมา (46 มม.) ภาคกลาง : กรุงเทพมหานคร (34 มม.) ภาคตะวันออก : จ.นครนายก (76 มม.) ภาคตะวันตก : จ.กาญจนบุรี (12 มม.) ภาคใต้ : จ.นราธิวาส (74 มม.)
สภาพอากาศวันนี้ : มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดหนองคาย บึงกาฬ และสกลนครสำหรับพายุดีเปรสชัน “แมตโม” (MATMO) ได้อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณประเทศเวียดนามตอนบนแล้ว เมื่อเวลา 01.00 น. ของวันนี้ (7 ต.ค. 68)
คาดการณ์ : ช่วงวันที่ 9 – 12 ต.ค. 68 ร่องมรสุมจะพาดผ่านภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน ประกอบกับลมตะวันออกพัดปกคลุมภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย จะทำให้ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนลดลง ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น โดยมีฝนตกหนักบางแห่ง
2. สถานการณ์น้ำอ่างเก็บน้ำในภาพรวม : ปริมาณน้ำรวม 84% ของความจุเก็บกัก (67,886 ล้าน ลบ.ม.) ปริมาณน้ำใช้การ 75% (43,750 ล้าน ลบ.ม.)
3. พื้นที่ประสบอุทกภัย : วันที่ 6 ต.ค. 68 เกิดสถานการณ์อุทกภัย ในพื้นที่ 17 จ. 73 อ. ได้แก่ จ.พิษณุโลก (อ.วังทอง และบางระกำ) จ.เพชรบูรณ์ (อ.เมืองฯ หล่มสัก หล่มเก่า วิเชียรบุรี เขาค้อ และหนองไผ่) จ.อุตรดิตถ์ (อ.ตรอน ทองแสนขัน น้ำปาด เมืองฯ พิชัย และท่าปลา) จ.สุโขทัย (อ.เมืองฯ ศรีสำโรง และสรรคโลก) จ.พิจิตร (อ.เมืองฯ สามง่าม โพทะเล โพธิ์ประทับช้าง บึงนาราง บางมูลนาก ทับคล้อ ดงเจริญ และสากเหล็ก) จ.นครสวรรค์ (อ.เมืองฯ ชุมแสง โกรกพระ พยุหะคีรี และไพศาล) จ.ชัยภูมิ (อ.บ้านเขว้า) จ.อุบลราชธานี (อ.เมืองฯ วารินชำราบ พิบูลมังสาหาร สว่างวีระวงศ์ และตระการพืชผล) จ.อุทัยธานี (อ.เมืองฯ) จ.ชัยนาท (อ.สรรพยา) จ.สิงห์บุรี (อ.เมืองฯ อินทร์บุรี และพรหมบุรี) จ.อ่างทอง (อ.เมืองฯ ป่าโมก ไชโย และวิเศษชัยชาญ) จ.สุพรรณบุรี (อ.เมืองฯ บางปลาม้า สองพี่น้อง ดอนเจดีย์ เดิมบางนางบวช อู่ทอง หนองหญ้าไซ สามชุก และด่านช้าง) จ.พระนครศรีอยุธยา (อ.เสนา ผักไห่ บางบาล บางไทร บางปะอิน ท่าเรือ พระนครศรีอยุธยา มหาราช บางปะหัน บ้านแพรก และนครหลวง) จ.ปทุมธานี (อ.เมืองฯ และสามโคก) จ.นครปฐม (อ.เมืองฯ บางเลน สามพราน และนครชัยศรี) และ จ.ฉะเชิงเทรา (อ.บางน้ำเปรี้ยว)
4.ข่าวประชาสัมพันธ์ : วานนี้ (6 ต.ค. 68) นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์น้ำ โดยกรมอุตุนิยมวิทยาและสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) คาดการณ์ว่า พายุ “แมตโม” ส่งผลกระทบทางอ้อมให้ช่วงวันที่ 6 – 8 ต.ค. 68 ประเทศไทยจะมีฝนตกปานกลางถึงหนักในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก ที่ประชุมจึงมีมติเห็นชอบให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยประสานกรมชลประทานปรับแผนการระบายน้ำเพื่อรักษาความมั่นคงของเขื่อน โดยทยอยปรับเพิ่มการระบายน้ำเขื่อนสิริกิติ์ เป็นอัตรา 35 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ต่อวัน ในขณะที่เขื่อนภูมิพล ยังคงการระบายน้ำในอัตรา 5 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน เพื่อให้สามารถบริหารจัดการน้ำได้อย่างยืดหยุ่นต่อสถานการณ์ในช่วงระยะนี้ โดยระบายน้ำรวมอยู่ในอัตรา 40 – 50 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน และให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเตรียมความพร้อมในพื้นที่เสี่ยงได้รับผลกระทบ หากต้องระบายน้ำเพิ่มขึ้น และเนื่องจากปริมาณน้ำจากพื้นที่ตอนบนมีแนวโน้มลดลง กรมชลประทาน (ชป.) จึงเตรียมปรับลดการระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยาจาก 2,500 ลบ.ม. ต่อวินาที เป็น 2,400 ลบ.ม. ต่อวินาที ซึ่งจะช่วยให้ระดับน้ำในพื้นที่ท้ายเขื่อนลดลงประมาณ 0.20 – 0.25 ม. สำหรับการเตรียมการบริหารจัดการน้ำในช่วงฝนตกหนัก ชป. จะดำเนินการควบคุมการระบายน้ำของเขื่อนในอัตราไม่เกิน 2,500 ลบ.ม. ต่อวินาที และมีระดับน้ำเหนือเขื่อนไม่เกิน +17.000 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง (ม.รทก.) พร้อมทั้งระบายน้ำไปทางฝั่งตะวันออกและตะวันตกของเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มมากขึ้นในอัตราที่เหมาะสมอย่างเต็มศักยภาพ พร้อมเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานประเมินผลกระทบจากพายุ “แมตโม” อย่างต่อเนื่อง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 6 ต.ค. 68