เวียดนามนำเข้าไฟฟ้าจากลาว
นายเหงียน ไฮ ฮา หัวหน้าฝ่ายวิศวกรรมการผลิตของกลุ่มการไฟฟ้าเวียดนาม (EVN) ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวไซ่ง่อนไทม์ว่า เวียดนามมีปริมาณการผลิตและการนำเข้ากระแสไฟฟ้าอยู่ที่ 184,000 ล้านกิโลวัตต์ต่อชั่วโมงในปีนี้ เพิ่มขึ้นจากเดิมคือ 164,000 ล้านกิโลวัตต์ต่อชั่วโมงในปี 2558
จากการคาดการณ์ตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจว่าจะสูงประมาณ 6.5-7% ทำให้ดีมานด์การใช้พลังงานไฟฟ้าในประเทศจะมีการเติบโตสูงถึง 13% ต่อปีภายใน 4 ปีหน้า อ้างอิงจาก VnExpress ดังนั้น รัฐบาลจึงมีแผนจะลงทุนด้วยมูลค่าถึง 40,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในโครงการผลิตไฟฟ้าภายในปี 2563
อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการขานรับดีมานด์ในระยะสั้น เวียดนามสนใจจะพึ่งพาเพื่อนบ้านอย่างลาว ซึ่งกำหนดสถานะตัวเองให้เป็นแหล่งกำเนิดพลังงานของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในอนาคต โดยลาวจะมีโรงไฟฟ้าพลังน้ำเพิ่มขึ้นอีก 4 แห่งภายในปี 2560 สำหรับระยะยาว เวียดนามมีแผนจะผลิตไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานทดแทนอื่นๆ เพื่อให้มีการใช้แหล่งพลังงานที่หลากหลายในการรองรับดีมานด์ในประเทศ
นายวีระพน วีระวง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพลังงานและเมืองแร่เพิ่งประกาศว่าลาวและเวียดนามได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าเวียดนามสดงความสนใจที่จะนำเข้าพลังงานไฟฟ้าจากลาวถึง 5,000 เมกะวัตต์เพื่อรับมือกับดีมานด์การใช้ไฟฟ้าของอุตสาหกรรมในประเทศที่เพิ่มขึ้น อ้างอิงจากรายงานของเวียงจันทน์ไทม์
ทั้งนี้ ลาวใช้พลังงานไฟฟ้าที่ผลิตได้ในประเทศเพียง 20.4% เท่านั้น ขณะที่ส่งออกพลังงานไฟฟ้าถึง 79.6% ไปที่ประเทศไทย กัมพูชาและเวียดนาม อ้างอิงจากรายงานของสำนักข่าวเนชั่น
โดยในบทความอื่นของ VnExpress แสดงให้เห็นว่า ถึงแม้การตัดสินใจของเวียดนามที่จะนำเข้าพลังงานจากลาวจะช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนในประเทศในระยะสั้นได้ แต่ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ก็ก่อให้เกิดเสียงวิจารณ์ตามมา เนื่องจากหลายคนมองว่า จะยิ่งทำให้ลาวทำการก่อสร้างเขื่อนริมแม่น้ำโขงอย่างต่อเนื่อง
“ นโยบายการนำเข้าพลังงานจากลาวของเวียดนามจะขัดแย้งและส่งผลลบกับนโยบายการเมืองของเวียดนามที่มีต่อการพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังน้ำลุ่มแม่น้ำโขงของลาว ”
นายเลอ อันห์ ตวน นักวิทยาศาสตร์ผู้เขียนบทความใน VnExpress ให้ความเห็นว่า “ ยิ่งจะทำให้ลาวเร่งสร้างเขื่อนในลุ่มแม่น้ำโขงและทำให้เวียดนามต้องพยักหน้ายอมรับการทำลายสภาพแวดล้อมของชีวิตผู้คนริมแม่น้ำโขงในเวียดนามไปโดยปริยาย ”
อย่างไรก็ตาม หากเวียดนามไม่สามารถผลิตพลังงานเพื่อให้ครอบคลุมการบริโภคได้ก็ไม่สามารถพึ่งพาโรงไฟฟ้าถ่านหินเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจได้ เนื่องจากรัฐบาลเริ่มขับเคลื่อนนโยบายที่จะพัฒนาพลังงานสะอาด โดยในปี 2558 เวียดนามประกาศที่จะสร้างโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์แห่งแรกที่จังหวัดกว๋างหงาย
อย่างไรก็ตาม โครงการนี้กลายเป็นเรื่องเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปริมาณความต้องการพลังงานโดยรวมของเวียดนาม
ทั้งนี้ หลังจากตัดสินใจล้มเลิกโครงการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในจังหวัดนิงถ่วน รัฐบาลกำลังพิจารณาและลดความกังวลด้านผลกระทบสิ่งแวดล้อม โดยทางธนาคารโลก ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย ธนาคารญี่ปุ่นเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศและนักลงทุนภาคเอกชนอื่นๆ ต่างเสนอการลงทุนเพิ่มเติม ในโครงการพลังงานทดแทนกับเวียดนาม เพื่อช่วยให้สามารถพัฒนาพลังงานสะอาดได้ในอนาคต.
หมายเหตุ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ = 35.75 บาท / 8 ธ.ค. 2559