“ศุภโชติ” ชี้ ลดค่าไฟ ใช้วิธียืดหนี้ ต้นทุนแฝงในบิลถัดไป
“ศุภโชติ” ชี้ลดค่าไฟให้ราคาเป็นธรรม เป็นหน้าที่ รมว.พลังงาน เตือนใช้วิธียืดหนี้ กลายเป็นต้นทุนแฝงในบิลค่าไฟประชาชนรอบถัดไป
วันที่ 28 พฤศจิกายน 2567 นายศุภโชติ ไชยสัจ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวถึงกรณี รมว.พลังงาน ประกาศว่ากระทรวงพลังงานจะประกาศลดค่าไฟฟ้างวดเดือน ม.ค.-เม.ย. 2568 ลง 3 สตางค์/หน่วย จากโดยเฉลี่ยงวดปัจจุบัน (ก.ย.-ธ.ค. 2567) อยู่ที่ 4.18 บาท/หน่วย ค่าไฟฟ้าจะลดลงเหลือ 4.15 บาท/หน่วย เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่แก่ประชาชน
โดยนายศุภโชติ กล่าวว่า เห็นด้วยกับ รมว.พลังงาน ที่ประกาศลดค่าไฟเพื่อแบ่งเบาภาระประชาชน แต่ไม่สามารถเห็นด้วยกับสิ่งที่รัฐมนตรีบอกว่าลดให้เป็นของขวัญกับประชาชน เพราะการทำให้ราคาพลังงานเป็นธรรม เข้าถึงได้ เป็นหน้าที่ของ รมว.พลังงาน อยู่แล้ว ไม่ใช่สิ่งที่จะมาอ้างบุญคุณกัน
อีกทั้งการลดค่าไฟในรอบนี้ เป็นการลดด้วยวิธีเดิมๆ อย่างการยืดหนี้จำนวนเกือบแสนล้านบาท โดยให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และ ปตท. แบกรับต้นทุนค่าไฟที่สูงในช่วงนี้ผ่านมาต่อไปก่อน ซึ่งหมายความว่าของขวัญ 3 สตางค์ที่รัฐมนตรีบอกว่าหายไปในรอบนี้ แท้จริงแล้วไม่ได้หายไปไหน แต่จะไปแฝงอยู่ในค่าไฟรอบถัดๆ ไปนั่นเอง
นายศุภโชติ กล่าวว่า ตนและพรรคประชาชนได้เสนอแนวทางการแก้ปัญหาค่าไฟแพงที่โครงสร้างเพื่อความยั่งยืนไปหลายต่อหลายครั้ง แต่ต้องพูดอีกครั้งจนกว่า รมว.พลังงาน จะนำไปปรับใช้เพื่อประชาชนได้ใช้พลังงานราคาถูก สะอาด และเป็นธรรม
ข้อเสนอของตนคือ (1) ริเริ่มการเจรจาแก้ไขสัญญาสัมปทานระหว่างรัฐกับเอกชนเจ้าของโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่ไม่ค่อยได้เดินเครื่อง เพื่อลดค่าความพร้อมจ่ายมาอยู่ในระดับที่เหมาะสม และ (2) สนับสนุนให้ประชาชนสามารถติดตั้งโซลาร์เซลล์บนหลังคาบ้าน แล้วขายไฟที่ผลิตเกินใช้ให้แก่รัฐในราคาตลาด จะเป็นการลดรายจ่าย เพิ่มรายได้แก่ประชาชน โดยควรพิจารณาเพิ่มโควตาการรับซื้อโซลาร์เซลล์จากบ้านประชาชน แทนที่จะขยายการรับซื้อจากนายทุน