อสังหาฯศรีราชาบูม “ญี่ปุ่น-จีน”ทะลักย้ายฐานผลิต
“แคปปิตอล วัน” หวังรัฐบาลใหม่ สานต่อโครงการเมกะโปรเจกต์ การลงทุนอีอีซี ต่อเนื่อง เผยคอนโดศรีราชา รับผลบุญญี่ปุ่น จีน ย้ายฐานการผลิตรับอีอีซี ดันราคาที่ดินโซนศรีราชาปรับสูงขึ้น 30% เผยซัพพลายกว่า 3,000 หน่วย ไม่น่าห่วง
นายวิทย์ กุลธนวิภาส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) บริษัท แคปปิตอล วัน เรียลเอสเตท จำกัด (CAPITAL ONE Real Estate) กล่าวถึงแนวทางกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ว่า เรื่องโครงการรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน) และนโยบายการลงทุนในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) ควรมีความต่อเนื่องในโยบาย ดำเนินการออกกฎหมายที่เป็นรูปธรรมที่ชัดเจนโดยเร็ว เพื่อให้ภาคธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ มีความเชื่อมั่นในการลงทุน ซึ่งจะส่งผลดีต่อภาคอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่อีอีซี
ทั้งนี้ โครงการไฮสปีดเทรนที่เชื่อมการเดินระหว่าง 3 สนามบิน เป็นโครงการที่สร้างความเจริญเติบโตและส่งเสริมการท่องเที่ยว ขณะที่ภาคอสังหาฯพื้นที่อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี จะได้รับอานิสงส์มากยิ่งขึ้น และจากนโยบายของภาครัฐในการผลักดันโครงการอีอีซี ราคาที่ดินปรับขึ้นไป 30% โดยเฉพาะที่ดินในเมืองซื้อขายประมาณ 350,000 บาทต่อตารางวา จากช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ราคาซื้อขาย 200,000 บาทต่อตารางวา
นอกจากนี้ การเพิ่มขึ้นของนักลงทุนจากประเทศญี่ปุ่นและจีน ที่ได้เข้ามาตั้งฐานการผลิตในพื้นที่ศรีราชาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ยอดการขอรับส่งเสริมการลงทุน ช่วงเดือนม.ค.-พ.ค.62 มียอดรวมการลงทุน 63,651.92 ล้านบาท ปรับตัวสูงขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 61 ถึง 326% โดยประมาณ 70% ตั้งโรงงานในจังหวัดชลบุรี ส่งผลให้ภาคอสังหาฯในกลุ่มคอนโดมิเนียมมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง อัตราผลตอบแทนจากการปล่อยเช่า (Rental Yield ) ประมาณ 8% โดยมีชาวญี่ปุ่นที่อยู่ในศรีราชา 30,000 คน และแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของโรงงานหรือการย้ายฐานธุรกิจจากประเทศจีนมาไทยมากขึ้น จะส่งผลให้ชาวต่างชาติและชาวญี่ปุ่นเข้ามาพื้นที่ศรีราชารวม 40,000 คน ในขณะที่กำลังซื้อที่เพิ่มขึ้น จะส่งผลถึงความต้องการในห้องชุด ปัจจุบัน ซัพพลายในศรีราชา(สต๊อกคงเหลือ) ประมาณ 3,000 ยูนิต ระดับราคา 80,000-120,000 บาทต่อตารางเมตร(ตร.ม.) ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของ Expat และ กลุ่มลูกค้าบีบวกถึงเอ ส่วนใหญ่จะสร้างเสร็จมาแล้ว 1-2 ปีซึ่งไม่น่าเป็นห่วง
นายวิทย์ กล่าวต่อว่า รัฐบาลที่เตรียมเข้ามาบริหารประเทศ ควรเร่งกระตุ้นภาคเศรษฐกิจในระยะสั้นโดยเร็ว เพื่อให้อารมณ์ของคนซื้อดีขึ้น เช่น ภาพรวมการออกมาตรการลดภาษีระยะสั้น ผ่านการใช้นโยบายการเงินและการคลังควบคู่กันไป เช่น มาตรการลดหย่อนค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนอง ที่จะส่งผลให้เกิดการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัย อย่างไรก็ดี รัฐบาล ควรมาทบทวนเรื่องมาตรการกำกับสินเชื่อภาคอสังหาริมทรัพย์ (LTV) เนื่องจากส่งผลกระทบต่อภาคอสังหาฯ สถาบันการเงินเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อมากยิ่งขึ้น.