กรมสรรพสามิตมุ่งมั่นเป็นผู้นำในการจัดเก็บภาษีเพื่อสังคม สิ่งแวดล้อมและพลังงาน
มุ่งมั่นเป็นผู้นำในการจัดเก็บภาษีเพื่อสังคม สิ่งแวดล้อมและพลังงาน
นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพสามิต เป็นประธานการจัดงานวันสถาปนากรมสรรพสามิต ครบรอบปีที่ 90 วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2565 ณ อาคารสโมสรข้าราชการกรมสรรพสามิต (ชั่วคราว) โดยมี คณะผู้บริหาร ข้าราชการ เจ้าหน้าที่กรมสรรพสามิต และแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมในงานดังกล่าว
อธิบดีกรมสรรพสามิตกล่าวว่า กรมสรรพสามิตได้รับการสถาปนาเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2474 ซึ่งตลอดระยะเวลา 90 ปีที่ผ่านมา กรมสรรพสามิตได้มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โดยมุ่งเน้นพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศให้มีเสถียรภาพ ทันสมัย รองรับการปฏิบัติงานในด้านต่าง ๆ ตามนโยบายรัฐบาลดิจิทัล นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บรายได้ สำหรับผลการจัดเก็บรายได้ในช่วง 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 (ต.ค. 2564 – ม.ค. 2565) กรมสรรพสามิตสามารถจัดเก็บรายได้ จำนวนทั้งสิ้น 186,553.40 ล้านบาท ซึ่งรายได้ภาษีสรรพสามิตทุกประเภท โดยเฉพาะภาษีน้ำมัน รถยนต์ และเบียร์ มีแนวโน้มสูงขึ้นกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน
อธิบดีกรมสรรพสามิตกล่าวต่อว่า ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ส่งผลกระทบอย่างต่อเนื่อง กรมสรรพสามิตได้ชะลอการปรับปรุงโครงสร้างภาษีใหม่ แต่มุ่งเน้นออกมาตรการภาษีเพื่อเป็นการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนและผู้ประกอบอุตสาหกรรมมากยิ่งขึ้น ได้แก่
1. มาตรการขยายระยะเวลาสำหรับสินค้าสุราสามทับที่นำไปทำการแปลงสภาพเพื่อเพิ่มปริมาณเจลแอลกอฮอล์ เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดมือในราคาที่เหมาะสมและมีปริมาณเพียงพอ
2. มาตรการขยายระยะเวลาการลดอัตราภาษีสินค้าน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องบินไอพ่น เพื่อช่วยเหลือสายการบินภายในประเทศให้มีสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจเพิ่มขึ้น ลดการเลิกจ้างในอุตสาหกรรม การบินและสนับสนุนการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวในประเทศ
3. มาตรการขยายระยะเวลาการขึ้นอัตราภาษีเครื่องดื่มตามปริมาณน้ำตาลระยะที่ 3 เพื่อเป็น การเยียวยา ฟื้นฟูเศรษฐกิจในภาคอุตสาหกรรมเครื่องดื่มและชะลอการปรับราคาสินค้าต่อผู้บริโภคและผู้ประกอบการรายย่อย
4. มาตรการอนุมัติฉลากสินค้าสุราผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ ผู้ประสงค์จะนำสุราเข้ามาในราชอาณาจักรในการยื่นคำขอใช้ฉลากปิดภาชนะบรรจุสุราที่นำเข้ามาในราชอาณาจักร และเพื่อให้การอนุมัติฉลากเป็นไปด้วยความรวดเร็วสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการให้บริการด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์
5. มาตรการภาษีสนับสนุนการใช้พลังงานทดแทน ประเภทน้ำมันชีวภาพสังเคราะห์ (Renewable Diesel : RD) เพื่อช่วยเหลือรายได้เกษตรกร นำผลผลิตทางการเกษตรมาผลิตเป็นพลังงานทดแทนมากขึ้น
6. มาตรการปรับโครงสร้างภาษียาสูบ เพื่อบรรเทาผลกระทบต่ออุตสาหกรรมยาสูบและเกษตรกร ผู้เพาะปลูกยาสูบโดยให้มีระยะเวลาในการปรับตัวเพื่อรองรับกับโครงสร้างภาษีบุหรี่ซิกาแรตตามมูลค่าแบบอัตราเดียวในอนาคต
7. มาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียมการขอใบอนุญาตขายสุรา ยาสูบ และไพ่สำหรับผู้ประกอบการรายเดิม ระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2565 ถึง วัน 31 ธันวาคม 2565 ซึ่งได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่ไม่อาจประกอบกิจการได้ตามปกติอันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
อธิบดีกรมสรรพสามิตกล่าวทิ้งท้ายว่า กรมสรรพสามิตยังคงมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในการจัดเก็บภาษีเพื่อสังคม สิ่งแวดล้อมและพลังงาน โดยจะนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ การบริหารการจัดเก็บรายได้ภาษีสรรพสามิต เพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพทางการคลังอย่างยั่งยืน อาทิ การพัฒนาระบบ Direct Coding และ E-stamp ในการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษีสินค้าสุรา เบียร์ และยาสูบ รวมถึงการนำระบบ e – Lock เพื่อควบคุมและตรวจสอบการส่งออกน้ำมัน มาตรการส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า
เพื่อส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดและส่งเสริมการลงทุนผลิตยานยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วนภายในประเทศ เป็นต้น ควบคู่ไปกับการฟื้นฟูเยียวยาภาคประชาชนและภาคอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) นอกจากนี้ จะดำเนินการยกระดับการให้บริการที่ทันสมัย สะดวก และรวดเร็ว มุ่งพัฒนาองค์กรให้เป็นองค์กรต้นแบบโดยยึดหลักธรรมาภิบาล สร้างความน่าเชื่อถือให้กับประชาชน ผู้ประกอบการและผู้ที่เกี่ยวข้องในทุกภาคส่วน