ธอส.ขยายมาตรการพักหนี้เงินต้น-ดอกเบี้ย6เดือน
ธอส.ขยายมาตรการพักหนี้เงินต้น-ดอกเบี้ย6เดือน
ธอส.มั่นใจเศรษฐกิจเริ่มฟื้น หลังจากรัฐบาลประกาศเปิดประเทศเมื่อวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา พร้อมขยายตัวมาตรการช่วย เหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิดต่อไปอีก 6 เดือน
นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่รัฐบาลเปิดประเทศในวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา ทำให้เกิดบรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยและการบริโภคที่มากขึ้น รวมถึงความต้องการอยากมีบ้านของประชาชน เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจไทยในขณะนี้ เอื้ออำนวยกับคนชั้นกลางที่มีฐานะการเงินมั่นคง หรือคนมีรายได้สม่ำเสมอ เริ่มมีความต้องการบ้านแนวราบ หรือบ้านเดี่ยวมากขึ้น เพื่อต้องการใช้ประโยชน์จากบ้านในการทำงานมากขึ้น ทดแทนการออกไปทำงานนอกบ้าน หลังจากเกิดการแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19
“ตอนนี้ บ้านถูกไม่แพง อัตราดอกเบี้ยที่กู้เงินจากธนาคารก็ไม่แพง เพียงแค่ 2% ต่อปีเท่านั้น และปีหน้า ยังเชื่อมั่นว่า บ้านจะยังราคาไม่แพงโดยเฉพาะบ้านมือสอง ซึ่งมีความไปเปรียบในเรื่องของราคาที่ถูกกว่าบ้านใหม่ และในเรื่องของทำเลที่ตั้ง โดยในรอบปีนี้ ธอส.สามารถจำหน่ายทรัพย์รอการขาย หรือเอ็นพีเอ จำนวนมาก”
ในปีนี้ ธอส.ปล่อยเชื่อได้สูงกว่าเป้าหมาย เพราะส่วนหนึ่ง ธอส.เข้าไปปล่อยกู้แทนธนาคารเอกชนมากขึ้น เนื่องจากเอกชนปล่อยกู้น้อย ส่งผลให้มาร์เก็ตแชร์ หรือส่วนแบ่งการตลาดของ ธอส.เพิ่มขึ้นจากเดิม 30% มาอยู่ที่ 31% ของมูลค่าตลาด 1.4 ล้านล้านบาท สำหรับในปีนี้ ธอส.คาดว่า ปล่อยสินเชื่อได้สูงกว่าเป้าหมาย โดยมีเป้าหมาย 215,000 ล้านบาท ขณะปล่อยสินเชื่อได้จริง 240,000 ล้านบาท และปีหน้า ตั้งเป้าหมายปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้นอีก 3% จากเป้าหมายสินเชื่อปีนี้ 215,000 ล้านบาท
ส่วนมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ ที่ได้รับผลกระทบจากโควิดของ ธอส. 110,000 ล้านบาท ที่จะสิ้นสุดในปีนี้ ล่าสุด ได้หารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) อย่างใกล้ชิด และ ธปท.พร้อมขยายมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ให้แก่ ธอส.ต่อไปอีก 6 เดือน และยังขยายระยะเวลาในการชำระหนี้ และปรับโครงสร้างหนี้เพื่อให้ลูกหนี้สามารถผ่อนชำระหนี้ ได้ดีขึ้น ซึ่งขณะนี้ ธอส.มีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) 4.26% หรือประมาณ 61,000 ล้านบาท มีการสำรองหนี้สงสัยจะสูญถึง 170% สามารถรองรับเอ็นพีแอลได้เพิ่มขึ้นอีก 30,000 ล้านบาท เพื่อรับมือความไม่แน่นอนที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
สำหรับโครงการใหม่ๆ ในอนาคต ในปี2565 ธอส.จะเน้นขายบ้านมือสอง หรือบ้านเก่าที่เป็นเอ็นพีเอ โดยได้สั่งการฝ่ายขายไปคัดแยกหนี้และจัดหมวดหมู่ให้ชัดเจนว่า บ้านและที่ดินในการจำหน่ายนั้น มีอะไรบ้าง และให้รวมมาอยู่ในกลุ่มเดียวหรือเหมือนกัน เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ซื้อมากที่สุด นอกจากนี้ ยังมีแนวคิดที่จะทุบบ้านเก่า เพื่อปรับปรุงที่ดินให้เกิดความสวยงานเพื่อนำเสนอขายต่อไป เพราะจากประสบการณ์พบว่า คนที่ซื้อบ้านเก่าจะชอบในเรื่องทำเลที่ตั้งมากกว่าตัวบ้าน ซึ่งในที่สุด หากซื้อทรัพย์มาแล้วทุบบ้านทิ้งก็เกิดความยุ่งยากขึ้นมาอีก ธอส.ก็เข้ามาดำเนินการแทน