สรุปข่าวประจำ วันที่ 19 ตุลาคม 2564
หุ้น ตปท.-ไทย : ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาด (18 ต.ค.) ลดลง 36.15 จุด (0.10%) ปิดที่ 35,258.61 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 153.97 จุด (1.02%) ปิดที่ 15,300.89 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 15.11 จุด (0.34%) ปิดที่ 4,486.48 จุด ส่วนดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย ปิดตลาด(18 ต.ค.) ที่ระดับ 1,643.92 จุด เพิ่มขึ้น 5.58 จุด (0.34%) มูลค่าการซื้อขาย 80,254.45 ล้านบาท
น้ำมันโลก – ไทย :
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน เพิ่มขึ้น 16 เซนต์ ปิดที่ 82.44 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 53 เซนต์ ปิดที่ 84.33 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ปตท.-บางจาก ปรับราคาขายปลีกน้ำมันทุกชนิดขึ้น 0.60 บาทต่อลิตร เว้น E85 ปรับขึ้น 0.40 บาทต่อลิตร มีผล 19 ต.ค.64 เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป โดยราคาขายปลีกจะเป็นดังนี้ ULG = 39.16, GSH95 = 31.75, E20 = 30.24, GSH91 = 31.48, E85 = 23.84, HSD- B7= 29.49, HSD-B10 = 29.49, HSD-B20=29.24,ดีเซลพรีเมี่ยม B7 = 34.26 บาทต่อลิตร โดยราคาขายปลีกข้างต้นยังไม่รวมภาษีบำรุงกรุงเทพมหานคร
ทองคำลง 100 บาท :
ราคาทองคำเมื่อวันที่ 18 ต.ค. ตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ราคาทองคำแท่ง รับซื้อบาทละ 27,850 ขายออกบาทละ 27,950 ทองรูปพรรณรับซื้อบาทละ 27,358.64 ขายออกบาทละ 28,450 บาท ราคาทองคำลง 100 บาท เมื่อเทียบกับวันที่ 16 ต.ค.
เงินบาทยังอ่อนค่า :
สำหรับค่าเงินบาทเทียบเงินสกุลโลก วานนี้ (18 ต.ค.) ยังอ่อนค่าลง เมื่อเทียบกับวันที่ 15 ต.ค.โดยธนาคารแห่งประเทศไทย กำหนดอัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารพาณิชย์ โดยให้เงินบาทมีค่า 33.457 บาท ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่แบงก์พาณิชย์ กำหนดอัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยที่ใช้ซื้อขายกับลูกค้า โดยกำหนดค่าเงินบาทไว้ที่ 33.6167 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ, 46.3972 บาทต่อ 1 ปอนด์, 39.1277 บาทต่อ 1 ยูโร, 30.2766 บาท ต่อ 100 เยน, 4.3487 บาทต่อ 1 ดอลลาร์ฮ่องกง ,กำหนดค่าเงินบาทที่ 25.0878บาทต่อ 1 ดอลลาร์สิงคโปร์ และ 8.1484 บาท ต่อ 1 ริงกิตมาเลเซีย
อาลัย “คุณชายดิศ” :
ม.จ.จุลเจิม ยุคล โพสต์เฟซบุ๊กเปิดเผยการเสียชีวิตของ ม.ร.ว. ดิศนัดดา ดิศกุล ว่า 18 ต.ค. 2564 มาพร้อมกับข่าวร้ายกับการจากไปของพี่ชายที่ รักและเคารพนับถือ ม.ร.ว. ดิศนัดดา ดิศกุล ผู้ซึ่งชีวิตมีแต่งาน ไม่ว่าจะเป็นมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง มูลนิธิปิดทองหลังพระ ฯลฯ และก่อนหน้านั้นคือ คุณชาย ดิสนัดดา เป็นราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี รู้สึกเศร้าจนไม่อยากเขียนอะไร
ร้องสอบคลิปทักษิณ :
นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ให้สัมภาษณ์ว่า อยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานและข้อเท็จจริงเพื่อร้องต่อ กกต.) ในประเด็นที่นายทักษิณ ชินวัตร หรือ โทนี่ วู้ดซัม อดีตนายกรัฐมนตรี มีพฤติกรรมเข้าข่ายขัดพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยพรรคการเมือง ที่ควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำกิจกรรมของพรรคเพื่อไทย เนื่องจากนายทักษิณ ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย เพราะไม่มีคุณสมบัติเป็นผู้ต้องโทษหนีคดี จากกรณีที่มีคลิปภาพนายทักษิณปรากฎและภายในงานยังมีกรรมการบริหารพรรค
เพชรชมพู ลาออก รปช. :
น.ส.เพชรชมพู กิจบูรณะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมพลังประชาชาติไทย(รปช.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เปิดเผยได้ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคแล้ว โดยระบุว่า “เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับใช้ทุกท่าน วันนี้ เพชรได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรครวมพลังประชาชาติไทยกับท่านหัวหน้าพรรคและนายทะเบียนสมาชิกพรรค รวมถึงได้ส่งสำเนาให้กับ กกต. เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทำให้สมาชิกภาพ ส.ส. ของเพชร สิ้นสุดลงตามมาตรา 101ของรัฐธรรมนูญ เนื่องจากเพชรเป็น ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ผู้ที่มีชื่ออยู่ในลำดับถัดไปในบัญชีรายชื่อของพรรคจะเลื่อนขึ้นมาเป็น ส.ส. แทน”
อาคม แจง สูญรายได้ 2 ล้านล้าน :
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง กล่าวปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “นโยบายเศรษฐกิจจาก Pandemic สู่ Endemic” ในงานครบรอบวันสถาปนาสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ปีที่ 60 ว่า โควิดกระทบประเทศไทย โดยส่งผลให้การท่องเที่ยวหยุดชะงัก ซึ่งคิดเป็น 12% ต่อจีดีพี ที่มีรายได้มาจากการท่องเที่ยว ทำให้รายได้ในประเทศหายไปประมาณ 2 ล้านล้านบาท ซึ่งส่วนนี้กระทบความเป็นอยู่ภาคท่องเที่ยว โรงแรม รวมทั้งธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องด้วย โดยประเทศไทยก็ออก พ.ร.ก.กู้เงินทั้ง 2 ฉบับ รวมกว่า 1.5 ล้านล้านบาท ถือว่ามากกว่าระดับปกติ ทำให้หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้น จึงได้มีการขยับกรอบเพดานหนี้