เฟซบุ๊กชี้ 10 ล้านคนในสหรัฐฯ เห็นโฆษณารัสเซีย
ชาวอเมริกันประมาณ 10 ล้านคนในสหรัฐฯ เห็นโฆษณาทางการเมืองที่สร้างความแตกแยกบนเฟซบุ๊กซึ่งบริษัทระบุว่า รัสเซียเป็นผู้ซื้อในช่วงก่อนและหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปีที่แล้ว เฟซบุ๊กรายงานเมื่อวันที่ 2 ต.ค.
โดยเฟซบุ๊กซึ่งไม่เคยให้ตัวเลขประเมินเช่นนี้มาก่อน ระบุในแถลงการณ์ว่า บริษัทใช้ระบบประเมินว่า มีกี่คนที่เห็นชิ้นงานโฆษณาทางการเมืองอย่างน้อย 1 ใน 3,000 ชิ้น โดยเสริมว่า 44% ของผู้ใช้งานเห็นโฆษณาก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในเดือนพ.ย. ปี 2559 และ 56% เห็นหลังการเลือกตั้ง
โฆษณาเจ้าปัญหาก่อให้เกิดความไม่พอใจต่อเฟซบุ๊กในสหรัฐฯ และต่อรัสเซียเองเมื่อยักษ์ใหญ่โซเชียลเน็ตเวิร์ก
อย่างเฟซบุ๊กเปิดเผยเรื่องโฆษณาเมื่อเดือนก.ย.ที่ผ่านมา โดยทางรัสเซียปฏิเสธว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกับโฆษณาเหล่านั้น
เมื่อวันที่ 2 ต.ค. เฟซบุ๊กกล่าวในแถลงการณ์แยกอีกฉบับว่า บริษัทมีแผนจะจ้างงานเพิ่มอีก 1,000 คนเพื่อตรวจสอบโฆษณาและเพื่อให้แน่ใจว่า ปฏิบัติถูกต้องตามเงื่อนไข ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะป้องกันรัสเซียและประเทศอื่นๆ ไม่ให้ใช้แพลตฟอร์มเพื่อแทรกแซงการเลือกตั้งได้อีก
โดยในแถลงการณ์ล่าสุดกล่าวว่า มีชิ้นงานโฆษณาประมาณ 25% ที่ไม่ถูกเผยแพร่ให้ใครได้ดูเลย
“ นั่นเป็นเพราะโฆษณาถูกออกแบบให้เข้าถึงผู้ใช้งานจากความเกี่ยวข้อง และทำให้โฆษณาบางชิ้นไม่เข้าถึงใครเลย ” อีเลียต เชรจ รองประธานเฟซบุ๊กฝ่ายการเมืองและการสื่อสารกล่าวในแถลงการณ์
99% ของงานโฆษณาเหล่านี้บนเฟซบุ๊กใช้เงินน้อยกว่า 1,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (33,000 บาท) ทำให้ยอดรวมในการใช้จ่ายเพื่อซื้อโฆษณาทั้งหมดอยู่ที่ 100,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (3,300,000 บาท) อ้างอิงจากบริษัท
เขากล่าวว่า เป็นไปได้ที่ทางเฟซบุ๊กจะเจอโฆษณาในสหรัฐฯ ที่เชื่อมโยงกับรัสเซียมากขึ้นอีก เนื่องจากบริษัทยังมีการสืบสวนอย่างต่อเนื่อง
ขณะนี้ เฟซบุ๊กทำงานร่วมกับบริษัทเทคโนโลยีรายอื่นๆทั้งทวิตเตอร์ และกูเกิล เพื่อสืบสวนหาหลักฐานว่ามีการแทรกแซงการเลือกตั้งของสหรัฐฯ จากฝ่ายรัสเซีย
การจ้างงานเพิ่มอีก 1,000 ตำแหน่งนับเป็นครั้งที่ 2 ในปีนี้ที่เฟซบุ๊กขานรับกับวิกฤตด้วยการประกาศจ้างงานเพิ่ม ในเดือนพ.ค. บริษัทประกาศว่าจะมีการจ้างงานอีก 3,000 คนเพื่อเร่งกำจัดวีดีโอที่เป็นภาพฆาตกรรม การฆ่าตัวตายและความรุนแรงอื่นๆ ที่ทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกช็อกเหมือนกับบริษัทอื่นๆ ที่ขายพื้นที่โฆษณา เฟซบุ๊กมีนโยบายอย่างเคร่งครัดคือ ห้ามลงโฆษณาที่มีความรุนแรง การแบ่งแยกทางเชื้อชาติ หรือส่งเสริมการขายยาเสพติดผิดกฎหมาย
ด้วยจำนวนโฆษณาที่จ่ายเงินเพื่อให้ได้ลงมากกว่า 5 ล้านราย ทำให้เฟซบุ๊กมีความยุ่งยากที่จะปฏิบัติได้ตามนโยบายอย่างถูกต้อง.