อังกฤษฉีดวัคซีนต้านโควิดถึงครึ่งแล้ว
ลอนดอน – เมื่อวันที่ 20 มี.ค. แมตต์ ฮันค็อก รมว.สาธารณสุขระบุว่า สหราชอาณาจักรมาถึงหลักชัยสำคัญในการควบคุมโควิด-19 จากการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 อย่างน้อยโดสแรกให้ประชากรที่เป็นผู้ใหญ่เกินครึ่ง ทำให้เป็นประเทศมหาอำนาจประเทศแรกที่ฉีดวัคซีนได้มากถึงระดับนี้
โครงการฉีดวัคซีนให้ประชาชนของสหราชอาณาจักร ซึ่งนำหน้าชาติอื่นๆในสหภาพยุโรปและสหรัฐฯ หมายความว่า ประเทศจะสามารถเดินหน้าได้อย่างเต็มที่เพื่อผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ และฟื้นฟูเศรษฐกิจได้ตามแผน
“โครงการฉีดวัคซีนเป็นหนทางสำคัญเพื่อยุติการแพร่ระบาด” ฮันค็อกกล่าวให้สัมภาษณ์สื่อเมื่อวันที่ 20 มี.ค.
ข้อมูลทางการชี้ว่า มีประชาชน 26.9 ล้านคนที่ได้รับวัคซีนโดสแรกไปแล้ว เพิ่มขึ้นจากเดิม 26.3 ล้านโดสในวันก่อนหน้านี้
นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ซึ่งเข้ารับวีคซีนของแอสตราเซเนกาในวันที่ 19 มี.ค. ทวีตข้อความว่า “มาเดินหน้ากันต่อ” หลังจากทราบประกาศว่าประชากรผู้ใหญ่ได้รับวัคซีนโดสแรกถึงครึ่งหนึ่งแล้ว
มีความกังวลเช่นกันเนื่องจากมีการแพร่ระบาดระลอกใหม่ในยุโรป โดยตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีกในเยอรมนีและฝรั่งเศส นักวิทยาศาสตร์ที่ให้คำแนะนำรัฐบาลเตือนในวันที่ 20 มี.ค.ว่า ประชาชนส่วนใหญ่ไม่มีแนวโน้มจะได้ไปเที่ยวต่างประเทศในช่วงฤดูร้อนนี้ เนื่องจากมีความเสี่ยงที่จะนำเข้าไวรัสสายพันธุ์ใหม่ของโควิด-19 มาในประเทศ
เมื่อถูกถามว่า อัตราการติดเชื้อระลอกใหม่ในยุโรปทำให้เขากังวลหรือไม่ รมว.ฮันค็อกระบุว่า สหราชอาณาจักรต้องระวังตัว แต่ยังไม่กระทบแผนการที่จะเปิดธุรกิจอย่างค่อยเป็นค่อยไป ทั้งร้านค้า ผับและร้านอาหาร โดยจะเริ่มตั้งแต่ 12 เม.ย.เป็นต้นไป “ ไม่มีสัญญาณว่า เราจะไม่สามารถเดินหน้าได้ตามโรดแม็ปที่วางไว้”
มาตรการฉีดวัคซีนในสหราชอาณาจักร ซึ่งใช้วัคซีนของแอสตราเซเนกาและไฟเซอร์ เป็นหนึ่งในโครงการที่รวดเร็วที่สุดในโลก โดยอิสราเอลเป็นอันดับ 1 ของโลกที่ฉีดวัคซีนให้ประชาชนได้มากที่สุด รองลงมาคือสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ชิลี และสหราชอาณาจักร
เมื่อเปรียบเทียบกัน สหรัฐฯมีประชากรที่ฉีดวัคซีนโดสแรกแล้วถึง 23% และประชากรของยุโรปได้ฉีดวัคซีนไม่ถึง 1 ใน 10
รัฐบาลสหราชอาณาจักรระบุว่า ตั้งเป้าให้ทุกคนในวัย 50 ปีขึ้นไปได้รับวัคซีนโดสแรกเป็นอย่างน้อยภายในกลางเดือนเม.ย. และประชากรผู้ใหญ่ทุกคนภายในสิ้นเดือนก.ค. ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ฮันค็อกระบุว่า จะทำได้แน่นอน
สถานที่มีชื่อเสียงในกรุงลอนดอนอย่างวิหารเวสต์มินสเตอร์ และพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ รวมถึงมัสยิดและสนามฟุตบอลในท้องถิ่นถูกจัดให้เป็นคลินิกฉีดวัคซีน
บริการดูแลสุขภาพของรัฐยังระบุว่า 2.1 ล้านคน หรือ 4% ของจำนวนประชากร ได้รับวัคซีนโดสที่สองแล้ว และเกือบ 95% ของผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไปได้รับวัคซีนแล้ว
ขณะเดียวกัน อียูพยายามจะกลับมาฉีดวัคซีนตามแผนเดิม หลังมีอย่างน้อย 13 ประเทศระงับการใช้งานวัคซีนแอสตราเซเนกาในสัปดาห์ที่แล้วจากความกังวลเรื่องความปลอดภัย
โดยองค์การยายุโรประบุว่า ประโยชน์ของวัคซีนในการปกป้องจากไวรัสมีมากกว่าความเสี่ยง แต่ความเสียหายที่กระทบชื่อเสียงของวัคซีนแอสตราเซเนกาอาจส่งผลทำให้โครงการฉีดวัคซีนชะลอตัวลง
ความพยายามที่จะสต็อกวัคซีนทำให้สหราชอาณาจักรและอียูมีปัญหาเรื่องการส่งออกวัคซีน โดยอียูขู่จะแบนการจัดส่งวัคซีนไปสหราชอาณาจักรเมื่อวันที่ 17 มี.ค.ที่ผ่านมา
ในเดือนเม.ย.นี้ สหราชอาณาจักรเตือนว่า การกระจายวัคซีนจะชะลอตัวจากซัพพลายที่ได้รับผลกระทบจากความล่าช้าในการจัดส่งมาจากอินเดีย และความจำเป็นที่ต้องตรวจสอบวัคซีนอีกครั้ง