ทรัมป์หมดความอดทนกับเกาหลีเหนือ
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศว่าสหรัฐฯ หมดความอดทนกับเกาหลีเหนือในเรื่องอาวุธนิวเคลียร์เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ขณะที่เขาต้อนรับประธานาธิบดีเกาหลีใต้มุนแจอินเพื่อพูดคุยกันในทำเนียบขาว
ขณะที่ประธานาธิบดีมุนมีความเห็นว่าหนทางที่ดีที่สุดคือการกระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นขึ้นกับเกาหลีเหนือเพื่อให้ทางเกาหลีเหนือหยุดการสะสมและทดสอบขีปนาวุธนิวเคลียร์ แต่ผู้นำสหรัฐฯ พูดชัดว่า เขาไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะใช้วิธีทางการทูตกับประเทศที่เขากล่าวหาว่าไม่มีความเคารพกับชีวิตมนุษย์
และขณะที่ผู้นำเกาหลีใต้ประกาศว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ยอมรับคำเชิญที่จะมาเยือนเกาหลีใต้ในปีนี้ ทั้งสองกลับไม่สามารถกำหนดยุทธศาสตร์ร่วมกันได้ว่าจะมีการทำข้อตกลงที่ดีที่สุดกับผู้นำเกาหลีเหนือได้อย่างไร
“ เรากำลังเผชิญกับภัยคุกคามจากระบบการปกครองที่ไม่รับผิดชอบและโหดร้ายในเกาหลีเหนือ โครงการทดสอบขีปนาวุธนิวเคลียร์ต้องมีการตอบโต้อย่างจริงจัง การเป็นเผด็จการของผู้นำเกาหลีเหนือไม่ได้คำนึงถึงความปลอดภัยและความมั่นคงของทั้งประชาชนในประเทศ และประเทศเพื่อนบ้าน และไม่มีความเคารพในชีวิตมนุษย์ ” ผู้นำสหรัฐฯ กล่าว
สหรัฐฯ มีความไม่พอใจเกาหลีเหนือมากขึ้นหลังจากนายออตโต วอมเบียร์ นักศึกษาอเมริกันซึ่งถูกกักตัวในเกาหลีเหนือจากความผิดที่เขาก่อขึ้นในช่วงท่องเที่ยวประมาณ 18 เดือนก่อนและถูกส่งตัวกลับสหรัฐฯ ด้วยอาการโคม่าเมื่อต้นเดือนมิ.ย. โดยเขาเสียชีวิตในเวลาไม่กี่วันต่อจากนั้น
โดยประธานาธิบดีทรัมป์ฝากความหวังไว้กับจีน ซึ่งเป็นพันธมิตรทางการทูตหลักของเกาหลีเหนือ ให้ช่วยกดดันเปียงยาง แต่เขาประกาศในสัปดาห์ที่แล้วว่าความพยายามของจีนล้มเหลว
“ เวลาของความอดทนที่มีต่อเกาหลีเหนือมันล้มเหลว หลายปีที่ผ่านมาไม่มีประโยชน์ พูดกันตรงๆว่าความอดทนมันหมดลงแล้ว ” เขากล่าวในการแถลงข่าวในสวนกุหลาบของทำเนียบ
“ สหรัฐฯ เรียกหาพลังอื่นๆ ในภูมิภาค และชาติอื่นที่ขานรับให้มีมาตรการคว่ำบาตรและต้องการให้เกาหลีเหนือเลือกหนทางที่ดีกว่านี้ และทำอย่างรวดเร็ว และอนาคตที่แตกต่างสำหรับประชาชนที่ทนทุกข์มานาน ” เขากล่าว
ประธานาธิบดีมุนใช้การไปเยือนต่างประเทศเพื่อล็อบบี้รัฐบาลและผู้นำในสภาคองเกรสของสหรัฐฯ เพื่อให้สนับสนุนนโยบายของเขาที่จะให้กระชับความสัมพันธ์กับเกาหลีเหนือ
ทั้งนี้ ผู้นำทั้งสองยังได้พูดคุยกันเกี่ยวกับการค้าทวิภาคี โดยประธานาธิบดีทรัมป์พูดว่าการขาดดุลการค้ากับเกาหลีใต้ถึง 17,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ โดยเขาได้เน้นถึงจำนวนของรถยนต์แบรนด์เกาหลีใต้บนถนนสหรัฐฯ
“ ประธานาธิบดีมุนทำให้ผมเชื่อว่า เขาจะทำงานเพื่อสร้างพื้นที่ให้แรงงานและธุรกิจอเมริกัน และโดยเฉพาะผู้ผลิตรถยนต์สามารถจะมีการตกลงในสัดส่วนที่ยุติธรรมกับเกาหลีใต้ ”.
หมายเหตุ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ = 34.19 บาท / 1 ก.ค. 2560