Skip to content
Sun. Dec 28th, 2025
  • Facebook
  • Twitter
AEC10NEWS

AEC10NEWS

Primary Menu
  • Home
  • NEWS
    • BREAKING NEWS
    • CHINA NEWS
    • ENERGY FORCE
    • EDITOR TALK
    • MONEY MOVEMENT
    • NATIONAL
    • OPEN NEWS
    • POLITICS
    • WORLD
    • ดวงประจำวัน
  • ASEAN
    • Brunei
    • Cambodia
    • Indonesia
    • Laos
    • Malaysia
    • Myanmar
    • Philippines
    • Singapore
    • Vietnam
  • EEC
  • SPECIAL REPORT
  • BUSINESS
    • BUSINESS MOVEMENT
    • HOT MARKETS
    • PHOTO STORIES
  • HOT NEWS
  • SPECIAL REPORT

“กรุงไทย” ปรับลดจีดีพีปีนี้ลงเหลือ 3% ปีหน้า 4.6%

05/10/2023 1 min read
  • LINEแชร์เลย!
ดูแล้ว: 1,325

Krungthai COMPASS ปรับประมาณการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปี 2566 ลง โดยคาดว่าจะเติบโตที่ 3.0% ต่ำกว่าตัวเลขซึ่งเคยมองไว้ที่ 3.4% เนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยอ่อนแรงลง ปัจจัยหลักจากการส่งออกที่ติดลบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ขณะที่ผู้ประกอบการไทยต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นจากสินค้าจีน และการลงทุนภาคเอกชนอาจขยายตัวได้ต่ำกว่าที่ประเมินไว้

นอกจากนี้ การใช้จ่ายภาครัฐยังมีแนวโน้มชะลอลงโดยเฉพาะในช่วงไตรมาสที่ 4/2566 จากการจัดทำ พ.ร.บ. งบประมาณปี 2567 มีความล่าช้าและการเบิกจ่ายที่ต่ำกว่าปกติ แม้กระนั้นการปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องของภาคการท่องเที่ยว รวมถึงปัจจัยบวกจากนโยบาย Free Visa ที่จะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวจีน จะเป็นแรงหนุนให้เศรษฐกิจไทยเติบโตต่อเนื่องจากปีก่อน

ส่วนในระยะข้างหน้า Krungthai COMPASS ประเมินว่าภาคการท่องเที่ยวจะยังเป็นเครื่องยนต์สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ท่ามกลางการฟื้นตัวสู่ภาวะปกติมากขึ้นจะหนุนการจ้างงานและการใช้จ่ายภาคครัวเรือนให้มีแนวโน้มขยายตัวต่อไป ประกอบกับมีแรงบวกเพิ่มเติมจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะสนับสนุนให้เศรษฐกิจไทยสามารถขยายตัวได้ประมาณ 4.6% ในปี 2567

เศรษฐกิจโลกชะลอตัวกว่าคาดกดดันการส่งออกและการผลิตไทยท่ามกลางการแข่งขันจากจีนที่รุนแรงขึ้น

เศรษฐกิจโลกในช่วงที่เหลือของปี 2566 มีแนวโน้มชะลอตัวลง โดยเฉพาะจีนที่ฟื้นตัวต่ำกว่าคาดจากกำลังซื้อในประเทศที่อ่อนแอรวมถึงความเปราะบางในภาคอสังหาริมทรัพย์ ขณะที่สหรัฐฯ มีทิศทางชะลอตัวลงแต่จะสามารถหลีกเลี่ยงภาวะถดถอยท่ามกลางตลาดแรงงานที่ยังแข็งแกร่ง ทั้งนี้ภาวะเงินตึงตัวจากอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูงต่อไปถือเป็นความเสี่ยงด้านต่ำที่ลดทอนอุปสงค์ในประเทศต่างๆและกดดันการค้าโลก ปัจจัยเหล่านี้จะกระทบต่อการส่งออกไทยในช่วงที่เหลือของปี 2566 ซึ่งจะต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนข้างต้น รวมไปถึงการแข่งขันที่รุนแรงจากจีนที่หันมาพึ่งพาการค้าในภูมิภาคเอเชียมากขึ้น ความได้เปรียบด้านราคาที่ถูกกว่าของจีนเพิ่มอุปสรรคต่อผู้ส่งออกไทย ขณะที่การเข้ามาตีตลาดของสินค้าจีนในไทย ต่างเป็นปัจจัยลบต่อการผลิตภาคอุตสาหกรรมและการลงทุนภาคเอกชนของไทย

เศรษฐกิจโลกเปราะบางโดยเฉพาะจีนและยุโรปโตต่ำกว่าคาดแม้สหรัฐฯยังแข็งแกร่งและสามารถเลี่ยงภาวะถดถอยได้

เศรษฐกิจโลกในปี 2566 มีแนวโน้มเติบโตอย่างจำกัดโดยเฉพาะจีนและยุโรปที่อาจขยายตัวต่ำกว่าที่เคยประเมินไว้ จากการคาดการณ์ล่าสุดโดยองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) เมื่อเดือน ก.ย. ประเมินว่า GDP ของโลกในปี 2566 จะเติบโตได้ประมาณ 3.0% ซึ่งหากไม่นับช่วงวิกฤตโควิดในปี 2563 แล้ว ถือว่าเป็นการเติบโตที่ต่ำที่สุดตั้งแต่วิกฤตการเงินโลกเมื่อ 15 ปีก่อน ทั้งยังมองว่าเศรษฐกิจยุโรปอ่อนแอกว่าคาดจากการหดตัวของภาคการผลิตหลังภาวะดอกเบี้ยสูงกดดันคำสั่งซื้อ ขณะที่ปรับลดตัวเลขการเติบโตของจีนลงสู่ 5.1% จากวิกฤตในภาคอสังหาริมทรัพย์และการฟื้นตัวที่เปราะบาง สำหรับเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่ง ซึ่ง Bloomberg ได้สำรวจความเห็นของนักวิเคราะห์ในเดือน ส.ค. ต่างมองว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปีนี้และสามารถหลบเลี่ยงภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้ คาดว่า GDP ปี 2566 จะเติบโตที่ 2.0% ขณะที่การชะลอตัวลงของเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปีนี้จะไม่รุนแรงถึงขั้นหดตัว

เศรษฐกิจจีนอ่อนแอจากวิกฤตภาคอสังหาริมทรัพย์ที่บั่นทอนอุปสงค์ภายใน ขณะที่การชะลอตัวของโลกกดดันให้พึ่งพาการค้าในเอเชียมากขึ้น

แม้ทางการจีนพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านเครื่องมือด้านการเงินและการคลังในช่วงที่ผ่านมา แต่เครื่องชี้เศรษฐกิจล่าสุดสะท้อนว่ามาตรการที่ออกมา ยังไม่เพียงพอต่อการฟื้นอุปสงค์ในประเทศ ปัญหาการขาดสภาพคล่องกดดันให้การลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์เดือน ส.ค. หดตัวต่อเนื่อง ขณะที่ยอดค้าปลีกชะลอตัวและการผลิตภาคอุตสาหกรรมขยายตัวได้จำกัด บ่งชี้ว่าโมเมนตัมการเติบโตของจีนยังถูกกดดันจากกำลังซื้อภายในประเทศที่อ่อนแอ ส่วนการส่งออกนั้นติดลบต่อเนื่องนับตั้งแต่เดือน พ.ค. ที่ผ่านมา ตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกรวมถึงแรงต้านจากปัญหาความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ จากข้อมูลของ Bloomberg พบว่า การส่งออกของจีนไปยังตลาดหลักทั้งสหรัฐฯ และยุโรปต่างลดลง ขณะที่ทิศทางการค้ามากลุ่มอาเซียนเพิ่มสูงขึ้นจนสามารถแซงหน้ากลุ่มชาติตะวันตก ส่วนหนึ่งเป็นผลของความร่วมมือทางการค้าระหว่างกันระหว่างชาติในเอเชีย โดยเฉพาะข้อตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ที่มีผลบังคับตั้งแต่ปี 2565 จนกลายเป็นเขตการค้าเสรีที่ใหญ่ที่สุดในโลก ปัจจัยเหล่านี้สะท้อนว่าจีนกำลังพึ่งพาการค้าระหว่างกันภายในชาติเอเชียมากยิ่งขึ้น

ภาวะเงินตึงตัวจากดอกเบี้ยสูงเพิ่มความเสี่ยงด้านต่ำต่อเศรษฐกิจโลก คาดกำลังซื้อที่อ่อนแอกดดันปริมาณการค้าโลกปี 2566 หดตัว

การเติบโตของเศรษฐกิจโลกยังเผชิญความเสี่ยงด้านต่ำเพิ่มขึ้นจากภาวะการเงินตึงตัวเนื่องจากอัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มทรงตัวในระดับสูงนานกว่าคาด แม้ในระยะข้างหน้าประเทศหลักอาจประสบภาวะชะลอตัวก็ตาม จากรายงานของ EIU เดือน ก.ย. ระบุว่าธนาคารกลางหลักอาจคงอัตราอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ในระดับสูง โดยเฉพาะเฟดและธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่คาดว่าจะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยหลังจากช่วงกลางปี ​​2567 ไปแล้ว ภาวะเศรษฐกิจของประเทศหลักที่อ่อนแรงลงกดดันกำลังซื้อในตลาดโลก ล่าสุด Oxford Economics ประเมินในเดือน ก.ย. ว่า การค้าระหว่างประเทศมีแนวโน้มหดตัวต่อเนื่องในช่วงครึ่งหลังของปี 2566 โดยคาดว่าปริมาณการค้าโลกในปีนี้จะหดตัว 1.5% ก่อนที่จะกลับมาขยายตัวได้ 2.3% ในปี 2567 ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการปรับสมดุลสินค้าคงคลังในตลาดโลก รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงในระบบห่วงโซ่อุปทานของชาติมหาอำนาจที่นำไปสู่การค้าเฉพาะในกลุ่มมิตร (Friend-shoring) รวมถึงการกระจายแหล่งสั่งซื้อเพื่อป้องกันปัญหาภาวะการชะงักงันของอุปทานจากบรรดาบรรษัทข้ามชาติ

มูลค่าการส่งออกเทียบจากปีก่อนมีแนวโน้มติดลบ

คาดการส่งออกในช่วงที่เหลือของปี 2566 ยังเผชิญความไม่แน่นอนสูง

ภาวะการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกส่งผลให้การส่งออกของไทยหดตัวต่อเนื่อง 10 เดือนติดต่อกันนับตั้งแต่เดือน ต.ค. 2565 ถ้าพิจารณาความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณการส่งออกของโลกกับไทย (ค่า Corr=0.75) ตามข้อมูลช่วง 7 เดือนแรกของปี 2566 ปริมาณการส่งออกของไทยหดตัวโดยเฉลี่ยเดือนละ 6.2% ส่วนปริมาณการส่งออกของโลกช่วงครึ่งปีแรกติดลบโดยเฉลี่ยที่ 0.2% ทั้งนี้มูลค่าการส่งออกที่ติดลบต่อเนื่องได้รับแรงกดดันจากภาวะการผลิตภาคอุตสาหกรรมของโลกที่หดตัว สะท้อนจากดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของโลกและประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ (G7) ที่อยู่ในแดนหดตัวสอดคล้องกับมูลค่าการส่งออกของไทย (ค่า Corr=0.8) Krungthai COMPASS ประเมินว่า การส่งออกของไทยในช่วงที่เหลือของปียังมีความไม่แน่นอนสูง จากปริมาณการค้าโลกที่หดตัวลงต่อเนื่อง ประกอบกับการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่อาจยังไม่ฟื้นจากภาวะหดตัว ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอ อีกทั้งต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงจากประเทศผู้ส่งออกรายอื่นโดยเฉพาะจากจีน เติบโตของมูลค่าส่งออกจีนมายังอาเซียนในช่วงที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งกดดันสินค้าไทย เนื่องจากสินค้าส่งออก
บางรายการเป็นคู่แข่งกัน

ในระยะกว่า 10 ปีที่ผ่านมา จีนมีแนวโน้มพึ่งพาตลาดอาเซียนมากขึ้น จากข้อมูลตั้งแต่ปี 2553 พบว่า มูลค่าการค้าของจีนมายังภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เติบโตโดยเฉลี่ยต่อปี (CAGR) สูงถึง 14.2% ส่งผลให้การส่งออกมายังอาเซียนในปี 2565 มีสัดส่วนคิดเป็น 15.8% จากมูลค่าส่งออกของจีนทั้งหมด ถือเป็นตลาดใหญ่ลำดับที่ 2 รองจากสหรัฐฯ ขณะที่ตลาดยุโรปอยู่ ในลำดับที่ 3 นอกจากนี้ ศักยภาพการเติบโตในตลาดอาเซียนของจีนยังเหนือกว่าไทย ซึ่งมีอัตราการขยายตัวเฉลี่ย (CAGR) 7.1% ทั้งยังเป็นที่สังเกตว่า การส่งออกของจีนในตลาดอาเซียนอาจถือเป็นแรงกดดันต่อสินค้าไทยที่เพิ่มขึ้นได้ เนื่องจากสินค้าส่งออกบางรายการซ้ำซ้อนและถือเป็นคู่แข่งขันกันโดยตรง เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องจักรกล พลาสติก น้ำมันเชื้อเพลิง และยานยนต์

สินค้าจีนที่เป็นคู่แข่งของไทยในตลาดอาเซียนบางรายการสามารถเติบโตได้จากกลยุทธ์ราคาต่ำ ส่งผลให้ผู้ส่งออกเผชิญอุปสรรคมากขึ้น

หากเจาะลึกเฉพาะกลุ่มสินค้าซึ่งทั้งจีนและไทยต่างส่งออกไปยังตลาดอาเซียน พบว่าในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2566 ที่ทั้งจีนและไทยต่างเผชิญกับภาวะการส่งออกหดตัวตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกนั้น การส่งออกสินค้าของจีนบางรายการที่เป็นคู่แข่งขันโดยตรงกับไทยในตลาดอาเซียนกลับยังสามารถขยายตัวได้ ประกอบด้วย อาหารแปรรูป พลาสติก อัญมณี และยานยนต์ ซึ่งในบรรดาสินค้าเหล่านี้มีเพียงอาหารแปรรูป และยานยนต์ที่มูลค่าการส่งออกของไทยในตลาดอาเซียนยังเติบโตได้ ปัจจัยหนึ่งจากความได้เปรียบด้านราคาที่ถูกกว่าของสินค้าจีน ซึ่งความยืดหยุ่นในการส่งออกของจีนสู่ตลาดประเทศเพื่อนบ้านของไทยกำลังเป็นปัจจัยท้าทายที่ต้องจับตา

ไทยขาดดุลการค้ากับจีนอย่างมีนัยสำคัญ สนค้านำเข้าจากจีนบางรายการเข้ามาตีตลาดสินค้าไทย

นอกเหนือจากการรุกเข้ามาในตลาดอาเซียนของสินค้าจีนซึ่งถือเป็นคู่แข่งสำคัญของไทยแล้ว สินค้าจากจีนยังเข้ามาตีตลาดในไทยอีกด้วย จากข้อมูลช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ไทยมีมูลค่าการค้าขาดดุลต่อจีนมาตลอดเฉลี่ยสูงถึงเดือนละ 7.9 หมื่นล้านบาท โดยล่าสุดในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2566 ไทยขาดดุลการค้ากับจีนถึงประมาณ 1.0 แสนล้านบาทต่อเดือน หากพิจารณาในรายการสินค้านำเข้าจากจีนเพื่ออุปโภคบริโภคภายในประเทศของไทยช่วงครึ่งแรกของปี 2566 นี้ จะพบว่ามูลค่าการนำเข้าสินค้าบางรายการเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะเฟอร์นิเจอร์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่พลิกกลับมาขยายตัวได้ 1.1% และ 4.9% ตามลำดับ ซึ่งสินค้าทั้งสองกลุ่มนี้จะใช้กลยุทธ์ด้านราคาเพื่อจูงใจผู้บริโภคในการแข่งขันกับผู้ผลิตไทย

แรงกดดันจากการส่งออกและการตีตลาดของสินค้าจีนกระทบการผลิตภาคอุตสาหกรรม และยังเป็นปัจจัยลบที่มีต่อการขยายการลงทุน

ท่ามกลางภาวะการส่งออกของไทยที่เผชิญปัจจัยลบจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวแล้ว การผลิตภาคอุตสาหกรรมของไทยยังได้รับผลกระทบจากเศรฐกิจภายในประเทศที่ฟื้นตัวได้จำกัด ส่งผลให้ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมและอัตราการใช้กำลังการผลิตในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ต่ำกว่าระดับเดิมที่เคยทำได้ในช่วงก่อนการแพร่ระบาดเมื่อปี 2562 นอกจากนี้ สินค้าอุตสาหกรรมบางส่วนยังต้องเผชิญภาวะการแข่งขันกับจีน ทั้งกลุ่มที่ส่งออกไปยังตลาดอาเซียน เช่น อาหารแปรรูป พลาสติก อัญมณี และยานยนต์ เป็นต้น รวมถึงกลุ่มที่ถูกสินค้านำเข้าจากจีนตีตลาดในไทย เช่น เฟอร์นิเจอร์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า การผลิตภาคอุตสาหกรรมและระดับการใช้กำลังการผลิตที่ยังคงต่ำกว่าปกติเหล่านี้ อาจส่งผลให้ผู้ประกอบการต้องชะลอแผนขยายการผลิตออกไปและกระทบต่อการลงทุนภาคเอกชน

การลงทุนภาคเอกชนอาจขยายตัวต่ำกว่าที่ได้ประเมินไว้ ตามการส่งออกที่หดตัวต่อเนื่อง ประกอบความเชื่อมั่นภาคธุรกิจปรับตัวลง

การลงทุนภาคเอกชนของไทยมีความผันผวนและต้องเผชิญปัจจัยลบจากการส่งออกที่หดตัวซึ่งกดดันการผลิตภาคอุตสาหกรรม ในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2566 ดัชนีการลงทุนภาคเอกชน (PII) รายเดือนโดยเฉลี่ยหดตัวจากปีก่อน 0.2% หากพิจารณาจากเครื่องชี้ด้านการลงทุนเดือน ก.ค. จะพบสัญญาณลบ ทั้งการลงทุนหมวดก่อสร้างโดยยอดจำหน่ายวัสดุก่อสร้างในช่วง 7 เดือนแรกที่หดตัวเทียบจากปีที่ผ่านมา 0.5% ขณะที่การลงทุนหมวดเครื่องจักรกล พบว่ายอดจำหน่ายเครื่องจักรติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 นอกจากนี้ การลงทุนอาจถูกกดดันจากความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการที่มีทิศทางปรับตัวลง โดยดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจเดือน ส.ค. แตะระดับ 48.9 ต่ำสุดในรอบ 7 เดือน Krungthai COMPASS มองว่า การลงทุนในช่วงที่เหลือของปี 2566 จะได้รับผลกระทบจากการส่งออกที่หดตัวต่อเนื่องรวมทั้งความเชื่อมั่นที่ลดลง ส่งผลให้การลงทุนภาคเอกชนในปี 2566 มีแนวโน้มขยายตัวได้ต่ำกว่าที่ประเมินไว้เดิม

จับตานโยบาย Quick Win ของภาครัฐ ที่จะช่วยประคองเศรษฐกิจไทยในปีนี้

เศรษฐกิจไทยในครึ่งปีแรกขยายตัวได้เพียง 2.2% จากผลกระทบของเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอเป็นสำคัญ และมีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่อเนื่องไปยังช่วงที่เหลือของปีนี้ ทำให้นโยบายของภาครัฐต้องกลายมาเป็นเครื่องยนต์ในการพยุงเศรษฐกิจให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้เร่งขึ้น โดย Krungthai COMPASS คาดว่าการจัดตั้งรัฐบาลและนโยบายของภาครัฐจะช่วยสนับสนุนให้เศรษฐกิจในปีนี้ขยายตัวได้ 3.0% โดยคาดว่าจะเร่งตัวขึ้นชัดเจนในไตรมาสที่ 4 ซึ่งเป็น high season ของภาคการท่องเที่ยว อีกทั้งยังมีนโยบาย Free Visa ที่จะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวจีนให้เดินทางเข้ามาได้เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ นโยบายลดราคาพลังงานจะสามารถช่วยลดภาระค่าครองชีพของผู้บริโภคและต้นทุนของภาคธุรกิจได้

นโยบายFree Visa กระตุ้นภาคการท่องเที่ยวให้ฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง

นักท่องเที่ยวชาวจีนซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักที่เคยคาดว่าจะฟื้นตัวได้ในปีนี้หลังจากทางการจีนได้ผ่อนคลายนโยบายให้นักท่องเที่ยวจีนเดินทางออกนอกประเทศได้ แต่จำนวนนักท่องเที่ยวจีน 8 เดือนแรกที่ผ่านมา ฟื้นตัวได้เพียง 30% เมื่อเทียบกับก่อนโควิด-19 ซึ่งน้อยกว่าคาดค่อนข้างมากเนื่องจากอุปสงค์ของการเดินทางมาท่องเที่ยวต่างประเทศยังต่ำจากเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวลง อย่างไรก็ตามรัฐบาลได้ออกนโยบาย Free Visa หรือ มาตรการยกเว้นวีซ่าให้แก่นักท่องเที่ยวสัญชาติจีนตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย. 66 ถึง 29 ก.พ. 67 เป็นระยะเวลา 5 เดือน Krungthai COMPASS คาดว่านโยบาย Free Visa จะช่วยให้นักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางเข้ามาไทยเพิ่มขึ้นประมาณ 5 แสนคนในปี 2566 และ 4 แสนคนในปี 2567 ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ถึง 4.5 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็น 0.2% ของ GDP

สำหรับนักท่องเที่ยวสัญชาติอื่นส่วนใหญ่ฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง เช่น มาเลเซีย เกาหลีใต้ อินเดีย รวมถึงรัสเซีย สหรัฐอเมริกา และอังกฤษ ซึ่งเป็นสัญชาติที่มีค่าใช้จ่ายต่อหัวค่อนข้างสูง โดยฟื้นตัวได้กว่า 75% เมื่อเทียบกับก่อนโควิด-19 และทำให้นักท่องเที่ยว 8 เดือนแรกเข้ามาถึง 17.8 ล้านคน Krungthai COMPASS คาดว่านักท่องเที่ยวต่างชาติจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 29.5 ล้านคนในปีนี้ จากปัจจัยหนุนในช่วงปลายปีซึ่งเป็น high season ของภาคการท่องเที่ยว และนโยบาย Free Visa ที่จะช่วยให้นักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้ามาสะดวกขึ้น

หนุนตลาดแรงงานฟื้นตัวโดยเฉพาะภาคบริการ

ภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวทำให้การจ้างงานในภาคบริการ ซึ่งมีสัดส่วนการจ้างงานมากถึง 54% ในตลาดแรงงานสามารถฟื้นตัวได้ต่อเนื่องและอยู่สูงกว่าระดับก่อนโควิด-19 ราว 9% และคาดว่าจะปรับดีขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการใช้จ่ายของครัวเรือนให้มีแนวโน้มขยายตัวได้ในระยะข้างหน้า สอดคล้องกับเครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนที่อยู่ในเกณฑ์ดี อย่างไรก็ตาม การจ้างงานในภาคการผลิตที่มีสัดส่วนแรงงานราว 16% ของตลาด อยู่ในระดับต่ำกว่าปกติจากผลกระทบของภาคการส่งออกที่ชะลอตัวซึ่งจะเป็นปัจจัยให้ตลาดแรงงานบางกลุ่มยังฟื้นตัวอย่างเปราะบาง

นโยบายลดราคาพลังงาน ช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพที่สูงของประชาชน

มาตรการลดราคาพลังงานเป็นนโยบายเพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจที่อยู่ในระดับสูง แม้ตัวเลขอัตราเงินเฟ้อในช่วงไตรมาสที่ 2 และ ไตรมาสที่ 3 ปี 2566 อยู่ในระดับต่ำแต่เป็นผลจากฐานที่สูง แต่หากพิจารณาภาระค่าครองชีพของครัวเรือนยังทรงตัวสูงสะท้อนจากดัชนีราคาผู้บริโภคที่ปรับสูงขึ้นตั้งแต่ปี 2565 โดยราว 45% ของภาระค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้นมาจากราคาพลังงาน Krungthai COMPASS ประเมินว่า มาตรการลดราคาพลังงาน ได้แก่ การปรับค่ากระแสไฟฟ้าลดลงเหลือ 3.99 บาทต่อหน่วยในรอบบิลเดือน ก.ย.–ธ.ค. 66 และการลดราคาน้ำมันดีเซลให้อยู่ในระดับต่ำกว่า 30 บาทต่อลิตร ที่มีผลตั้งแต่วันที่ 20 ก.ย. 66  จะช่วยลดภาระค่าครองชีพและต้นทุนของภาคธุรกิจที่อยู่ในระดับสูงได้ ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อในปีนี้ปรับลดลง 0.2pp และทั้งปีอยู่ที่ 1.7% อย่างไรก็ตาม ต้องจับตาภาวะภัยแล้งและฝนทิ้งช่วงที่อาจส่งผลให้ผลผลิตทางการเกษตรปรับลดลงในช่วงปลายปี 2566 และมีแนวโน้มรุนแรงขึ้นในปี 2567 ซึ่งอาจหนุนให้ราคาสินค้าหมวดอาหารปรับสูงขึ้น และจะเป็นปัจจัยกดดันภาระค่าครองชีพของครัวเรือนในระยะข้างหน้า

Krungthai COMPASS ประเมินว่า วัฏจักรอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นรอบนี้อยู่ที่ระดับ 2.5%

Krungthai COMPASS คาดว่าอัตราดอกเบี้ยที่ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องสู่ระดับ 2.5% จะเป็นระดับสูงสุด (Terminal Rate) ของวัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้นในรอบนี้ และจะเป็นระดับ Neutral Rate ที่ทำให้อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงในระยะยาวเป็นบวก เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อในระยะข้างหน้ามีแนวโน้มปรับสูงขึ้นจากปัญหาภัยแล้งที่จะกระทบต่อราคาสินค้าเกษตรและอาหาร และผลของฐานสูงทยอยหมดลง นอกจากนี้ การรักษาระดับอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสมเพื่อเพิ่มความสามารถในการดำเนินนโยบายการเงิน (Policy Space) ภายใต้ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจในระยะข้างหน้า

นโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัลสนับสนุนกำลังซื้อของประชาชนในระยะข้างหน้า

นอกจากนโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยวและลดภาระค่าครองชีพแล้ว รัฐบาลได้เตรียมออกนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัลเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในปี 2567 มูลค่าประมาณ 5.6 แสนล้านบาท หรือคิดเป็น 3.2% ของ GDP ผ่านการสนับสนุนกำลังซื้อของประชาชนคนละ 1 หมื่นบาท เพื่อใช้ซื้อสินค้าในร้านค้าที่มีรัศมีใกล้บ้าน

Krungthai COMPASS มองว่า แรงกระตุ้นอาจถูกลดทอนลงจากงบประมาณบางส่วนที่เป็นงบประมาณเดิมของภาครัฐ  ซึ่งเป็นการเกลี่ยงบประมาณหรือต้องปรับลดจากโครงการอื่น เม็ดเงินใหม่ที่เติมเข้ามาตามมาตรการนี้จึงเป็นส่วนของภาษีที่คาดว่าจัดเก็บได้เพิ่มขึ้นประมาณ 3.6 แสนล้านบาท สำหรับผลกระทบจากมาตรการนี้ต่อระบบเศรษฐกิจส่วนรวม จะต้องประเมินจากผลของตัวคูณทวีทางการคลัง (Fiscal Multiplier) จากการจับจ่ายใช้สอยที่ถูกกระตุ้นในการหมุนเวียนเม็ดเงินตามกิจกรรมต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นตามมา

สำหรับผลกระทบที่เกิดขึ้นจริงจากนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัลนั้นยังมีความไม่แน่นอน โดยเฉพาะในแง่ของการนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติ ส่วนหนึ่งอาจเป็นผลจากการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้เป็นระบบหลักของธุรกรรม แต่เป็นนวัตกรรมใหม่ซึ่งบางส่วนยังไม่คุ้นเคย และอาจขลุกขลักได้ในระยะเริ่มแรก ในเบื้องต้น Krungthai COMPASS ประเมินว่า ตัวคูณทวีทางการคลังในรอบการหมุนปีแรกอยู่ที่ประมาณ 0.4-0.7 เท่า [1]ซึ่งเมื่อรวมถึงผลของนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัลดังกล่าวแล้ว คาดว่า GDP ในปี 2567 อาจขยายตัวได้ในกรอบ 4.4-5.0%

Implication:

เศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปียังเผชิญความไม่แน่นอนสูง จากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและความเปราะบางของเศรษฐกิจจีน ประกอบกับแนวโน้มที่ธนาคารกลางของประเทศหลักฝั่งตะวันตกจะคงนโยบายดอกเบี้ยสูงต่อไปนานกว่าคาด ประกอบกับยังเผชิญผลกระทบจากสินค้าจีนที่เป็นคู่แข่งขันสำหนับสินค้าส่งออกของไทย รวมทั้งการเข้ามาตีตลาดภายในประเทศ Krungthai COMPASS มีข้อแนะนำสำหรับผู้ประกอบการให้วางกลยุทธ์เพื่อรับมือกับการส่งออกที่ชะลอตัวและจัดการกับสินค้าจีนที่เข้ามาตีตลาดทั้งต่างประเทศและในประเทศ โดยพยายามรักษาฐานลูกค้าด้วยการรักษาจุดแข็งและความแตกต่างออกไปจากคู่แข่ง รวมทั้งการแสวงหาตลาดใหม่หรือกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพ

อย่างไรก็ตาม ภาคการท่องเที่ยวยังคงเป็นเครื่องยนต์หลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในปีนี้ และคาดว่านโยบาย Free Visa จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในไตรมาส 4 ให้ขยายตัวได้ถึง 5% ซึ่งจะช่วยหนุนให้เศรษฐกิจปีนี้เติบโตได้ที่ 3.0% ดังนั้น ภาครัฐและเอกชนควรเตรียมพร้อมรับนักท่องเที่ยวที่จะยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเพื่อหนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจโดยไม่สะดุด นอกจากนี้ นโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัลซึ่งคาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ในปีหน้า จะเป็นแรงสนับสนุนกำลังซื้อของภาคครัวเรือนที่สำคัญในระยะต่อไป ซึ่งผู้ประอบการควรวางแผนเตรียมพร้อมเพื่อใช้โอกาสดังกล่าวในการขยายตลาดภายในประเทศ เพิ่มกลุ่มลูกค้าเป้าหมายต่อไป ขณะเดียวกันภาครัฐและภาคเอกชนควรร่วมมือกันพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล รวมถึงการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนที่อาจกลายเป็นระบบนิเวศน์ทางการเงินและการค้าอิเล็กทรอนิกส์อีกทางเลือกหนึ่งที่สำคัญต่อไปในอนาคต

60

SHARES
Share on Facebook
Post on X
Follow us
  • LINEแชร์เลย!
Tags: GDP Krungthai Krungthai COMPASS กรุงไทย จีดีพี ธนาคารกรุงไทย ปรับลดจีดีพี เศรษฐกิจไทย

Continue Reading

Previous: ค่าไฟฟ้าลดแล้วเหลือ 3.99 บาท
Next: ธ.ก.ส.แจ้งปิดแอป และ เอทีเอ็ม วันที่ 7 ต.ค.นี้

ข่าวอื่นๆ ที่น่าอ่าน

ดวงประจำวัน ดวงประจำวันอาทิตย์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ.2568 1 min read
  • ดวงประจำวัน
  • HOT NEWS

ดวงประจำวันอาทิตย์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ.2568

28/12/2025
สรุปข่าวประจำวันที่ 28 ธันวาคม 2568 สรุปข่าวประจำวันที่ 28 ธันวาคม 2568 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS

สรุปข่าวประจำวันที่ 28 ธันวาคม 2568

28/12/2025
สรุปสถานการณ์น้ำ สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 27 ธ.ค. 68 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS

สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 27 ธ.ค. 68

27/12/2025
ดวงประจำวัน ดวงประจำวันเสาร์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ.2568 1 min read
  • HOT NEWS
  • ดวงประจำวัน

ดวงประจำวันเสาร์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ.2568

27/12/2025
สรุปข่าวประจำวันที่ 27 ธันวาคม 2568 สรุปข่าวประจำวันที่ 27 ธันวาคม 2568 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS

สรุปข่าวประจำวันที่ 27 ธันวาคม 2568

27/12/2025
กอน. เร่งช่วยชาวไร่อ้อยชายแดนไทย-กัมพูชา กอน. เร่งช่วยชาวไร่อ้อยชายแดนไทย-กัมพูชา 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS

กอน. เร่งช่วยชาวไร่อ้อยชายแดนไทย-กัมพูชา

26/12/2025
603837970_1408929170615519_7446009540216156177_n เปิดนโยบายเด็ด พรรคภูมิใจไทย 1 min read
  • POLITICS
  • HOT NEWS

เปิดนโยบายเด็ด พรรคภูมิใจไทย

26/12/2025
สรุปสถานการณ์น้ำ สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 26 ธ.ค. 68 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS

สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 26 ธ.ค. 68

26/12/2025
ดวงประจำวัน ดวงประจำวันศุกร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ.2568 1 min read
  • ดวงประจำวัน
  • HOT NEWS

ดวงประจำวันศุกร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ.2568

26/12/2025
สรุปข่าวประจำวันที่ 26 ธันวาคม 2568 สรุปข่าวประจำวันที่ 26 ธันวาคม 2568 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS

สรุปข่าวประจำวันที่ 26 ธันวาคม 2568

26/12/2025
S__4792822 กล้าธรรม เปิดตัว ธรรมนัส พรหมเผ่า แคนดิเดตนายกฯคนเดียว 1 min read
  • HOT NEWS
  • POLITICS

กล้าธรรม เปิดตัว ธรรมนัส พรหมเผ่า แคนดิเดตนายกฯคนเดียว

25/12/2025
คณะกรรมการ บสย. มีมติแต่งตั้ง  “สิทธิกร ดิเรกสุนทร” ดำรงตำแหน่ง “ผู้จัดการทั่วไป” สมัย 2 คณะกรรมการ บสย. มีมติแต่งตั้ง  “สิทธิกร ดิเรกสุนทร” ดำรงตำแหน่ง ‘ผู้จัดการทั่วไป’ สมัย 2 1 min read
  • MONEY MOVEMENT
  • HOT NEWS

คณะกรรมการ บสย. มีมติแต่งตั้ง  “สิทธิกร ดิเรกสุนทร” ดำรงตำแหน่ง ‘ผู้จัดการทั่วไป’ สมัย 2

25/12/2025

China News

รถไฟความเร็วสูงของจีน วิ่งทดสอบความเร็ว 453 กม./ชม. รถไฟความเร็วสูงของจีน วิ่งทดสอบความเร็ว 453 กม./ชม. 1 min read
  • CHINA NEWS
  • HOT NEWS

รถไฟความเร็วสูงของจีน วิ่งทดสอบความเร็ว 453 กม./ชม.

21/10/2025
LINEแชร์เลย! รถไฟหัวกระสุนที่เร็วที่สุดในโลก CR450 เริ่มการทดลองใช้งานก่อนเปิดให้บริการบนเส้นทางรถไฟความเร็วสูงของจีน โดยสามารถทำความเร็วได้สูงสุดต่อขบวนถึง 453 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หนังสือพิมพ์ไซแอนซ์แอนด์เทคโนโลยีเดลี (Science... อ่านต่อ

Start Up

ธพว. เคียงข้าง ‘เสียงเกษมโซล่าเซลล์’ พาถึงแหล่งทุน หนุนกิจการเติบโต 457C5A49-7DCB-4EA0-ACF5-B856D1843534 1 min read
  • HOT NEWS
  • START UP

ธพว. เคียงข้าง ‘เสียงเกษมโซล่าเซลล์’ พาถึงแหล่งทุน หนุนกิจการเติบโต

01/09/2022
LINEแชร์เลย! “ขอบคุณ ธพว. ที่สนับสนุน “เสียงเกษมโซล่าเซลล์” พาเข้าถึงแหล่งเงินทุน เสริมสภาพคล่องกิจการ ควบคู่กับการให้คำปรึกษา แนะนำธุรกิจ... อ่านต่อ

Money Movement

คณะกรรมการ บสย. มีมติแต่งตั้ง  “สิทธิกร ดิเรกสุนทร” ดำรงตำแหน่ง ‘ผู้จัดการทั่วไป’ สมัย 2 คณะกรรมการ บสย. มีมติแต่งตั้ง  “สิทธิกร ดิเรกสุนทร” ดำรงตำแหน่ง “ผู้จัดการทั่วไป” สมัย 2
1 min read
  • MONEY MOVEMENT
  • HOT NEWS

คณะกรรมการ บสย. มีมติแต่งตั้ง  “สิทธิกร ดิเรกสุนทร” ดำรงตำแหน่ง ‘ผู้จัดการทั่วไป’ สมัย 2

25/12/2025
ธอส. ปรับลดดอกเบี้ยเงิน 0.25% ขานรับแบงก์ชาติ ธอส. ปรับลดดอกเบี้ยเงิน 0.25% ขานรับแบงก์ชาติ
1 min read
  • MONEY MOVEMENT
  • HOT NEWS

ธอส. ปรับลดดอกเบี้ยเงิน 0.25% ขานรับแบงก์ชาติ

22/12/2025
“ดร.มหัทธนะ” เข้ารับตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ ธอส. อย่างเป็นทางการ “ดร.มหัทธนะ” เข้ารับตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ ธอส. อย่างเป็นทางการ
1 min read
  • MONEY MOVEMENT
  • HOT NEWS

“ดร.มหัทธนะ” เข้ารับตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ ธอส. อย่างเป็นทางการ

22/12/2025
ทีทีบี ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สูงสุด 0.25% ต่อปี ทีทีบี ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สูงสุด 0.25% ต่อปี
1 min read
  • HOT NEWS
  • MONEY MOVEMENT

ทีทีบี ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สูงสุด 0.25% ต่อปี

21/12/2025
ไทยพาณิชย์ ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สูงสุด 0.25% มีผลวันที่ 23 ธ.ค. 2568 ไทยพาณิชย์ ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สูงสุด 0.25% มีผลวันที่ 23 ธ.ค. 2568
1 min read
  • MONEY MOVEMENT
  • HOT NEWS

ไทยพาณิชย์ ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สูงสุด 0.25% มีผลวันที่ 23 ธ.ค. 2568

19/12/2025
คณะกรรมการ บสย. มีมติแต่งตั้ง  “สิทธิกร ดิเรกสุนทร” ดำรงตำแหน่ง “ผู้จัดการทั่วไป” สมัย 2

คณะกรรมการ บสย. มีมติแต่งตั้ง  “สิทธิกร ดิเรกสุนทร” ดำรงตำแหน่ง ‘ผู้จัดการทั่วไป’ สมัย 2

ธอส. ปรับลดดอกเบี้ยเงิน 0.25% ขานรับแบงก์ชาติ

ธอส. ปรับลดดอกเบี้ยเงิน 0.25% ขานรับแบงก์ชาติ

“ดร.มหัทธนะ” เข้ารับตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ ธอส. อย่างเป็นทางการ

“ดร.มหัทธนะ” เข้ารับตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ ธอส. อย่างเป็นทางการ

ทีทีบี ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สูงสุด 0.25% ต่อปี

ทีทีบี ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สูงสุด 0.25% ต่อปี

ไทยพาณิชย์ ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สูงสุด 0.25% มีผลวันที่ 23 ธ.ค. 2568

ไทยพาณิชย์ ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สูงสุด 0.25% มีผลวันที่ 23 ธ.ค. 2568

Energy Force

ก.พลังงาน รับลูก ครม. อนุมัติต่อระยะเวลาผลิตแหล่งไพลิน 10 ปี ก.พลังงาน รับลูก ครม. อนุมัติต่อระยะเวลาผลิตแหล่งไพลิน 10 ปี 1 min read
  • ENERGY FORCE
  • HOT NEWS

ก.พลังงาน รับลูก ครม. อนุมัติต่อระยะเวลาผลิตแหล่งไพลิน 10 ปี

03/12/2025
LINEแชร์เลย! นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม... อ่านต่อ

Politics

603837970_1408929170615519_7446009540216156177_n เปิดนโยบายเด็ด พรรคภูมิใจไทย 1 min read
  • POLITICS
  • HOT NEWS

เปิดนโยบายเด็ด พรรคภูมิใจไทย

26/12/2025
S__4792822 กล้าธรรม เปิดตัว ธรรมนัส พรหมเผ่า แคนดิเดตนายกฯคนเดียว 1 min read
  • HOT NEWS
  • POLITICS

กล้าธรรม เปิดตัว ธรรมนัส พรหมเผ่า แคนดิเดตนายกฯคนเดียว

25/12/2025
603905583_122109340803144368_3738703832911868036_n เพื่อไทย เปิดนโยบาย ตั้งเป้าเศรษฐกิจไทยโต 5% – ค่าไฟ 3.70 บ./หน่วย 1 min read
  • POLITICS
  • HOT NEWS

เพื่อไทย เปิดนโยบาย ตั้งเป้าเศรษฐกิจไทยโต 5% – ค่าไฟ 3.70 บ./หน่วย

25/12/2025

ประเด็นข่าว

EXIM BANK KBANK scb SME D Bank กรมชลประทาน กระทรวงการคลัง กระทรวงพลังงาน กระทรวงอุตสาหกรรม กรุงไทย กสิกรไทย กอนช. ข่าวเด่น ข่าวดัง คปภ. ครม. ค่าเงินบาท ดวงประจำวัน ตลาดหุ้น ธ.ก.ส. ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารออมสิน ธนาคารไทยพาณิชย์ ธอส. นายฉัตรชัย ศิริไล นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ บก.ชวนคุย บางจาก ปตท. ประเมินค่าเงินบาท พรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา รัฐบาล ราคาทองคำ ราคาน้ำมัน สถานการณ์น้ำ สรุปข่าวประจำวัน สรุปสถานการณ์น้ำ สิงคโปร์ อาจารย์มงคล รอดเที่ยงธรรม เศรษฐกิจไทย เศรษฐา ทวีสิน แพทองธาร ชินวัตร โควิด-19 ไทยพาณิชย์

Business Movement

ธ.ก.ส. ชวนเลือกซื้อของขวัญของฝากรับปีใหม่ 24-26 ธ.ค.นี้ที่ธ.ก.ส. สำนักงานใหญ่ ธ.ก.ส. ชวนเลือกซื้อของขวัญของฝากรับปีใหม่ 24-26 ธ.ค.นี้ ที่ ธ.ก.ส. สำนักงานใหญ่ 1 min read
  • BUSINESS MOVEMENT

ธ.ก.ส. ชวนเลือกซื้อของขวัญของฝากรับปีใหม่ 24-26 ธ.ค.นี้ ที่ ธ.ก.ส. สำนักงานใหญ่

23/12/2025
กรมสรรพสามิต “งดรับของขวัญ” ของกำนัลทุกชนิด กรมสรรพสามิต “งดรับของขวัญ” ของกำนัลทุกชนิด 1 min read
  • BUSINESS MOVEMENT

กรมสรรพสามิต “งดรับของขวัญ” ของกำนัลทุกชนิด

18/12/2025
SCBX ยื่นจดสิทธิบัตร 3 นวัตกรรมสำคัญด้าน AI  SCBX ยื่นจดสิทธิบัตร 3 นวัตกรรมสำคัญด้าน AI  1 min read
  • BUSINESS MOVEMENT

SCBX ยื่นจดสิทธิบัตร 3 นวัตกรรมสำคัญด้าน AI 

17/12/2025
ทีเอ็มบีธนชาต ลุยซื้อหุ้นคืนระยะ 3 ปี วงเงินรวม 2.1 หมื่นล้าน ทีเอ็มบีธนชาต ลุยซื้อหุ้นคืนระยะ 3 ปี วงเงินรวม 2.1 หมื่นล้านบาท 1 min read
  • BUSINESS MOVEMENT

ทีเอ็มบีธนชาต ลุยซื้อหุ้นคืนระยะ 3 ปี วงเงินรวม 2.1 หมื่นล้านบาท

16/12/2025

Recommend

เริ่มแล้ววันนี้! “ฝากบ้านกับตำรวจ 4.0” อุ่นใจรับปีใหม่ 69 เดินทางไกล บ้านปลอดภัย เริ่มแล้ววันนี้! “ฝากบ้านกับตำรวจ 4.0” อุ่นใจรับปีใหม่ 69 เดินทางไกล บ้านปลอดภัย 1 min read
  • POLITICS
  • HOT NEWS
  • RECOMMEND

เริ่มแล้ววันนี้! “ฝากบ้านกับตำรวจ 4.0” อุ่นใจรับปีใหม่ 69 เดินทางไกล บ้านปลอดภัย

22/12/2025
เริ่มแล้ว! กฎหมายใหม่ลาคลอดยาว 4 เดือน เริ่มแล้ว! กฎหมายใหม่ลาคลอดยาว 4 เดือน 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS
  • RECOMMEND

เริ่มแล้ว! กฎหมายใหม่ลาคลอดยาว 4 เดือน

07/12/2025
ครม.ไฟเขียว ต่ออายุใบอนุญาตทำงาน ลาว-เมียนมา-เวียดนาม ครม.ไฟเขียว ต่ออายุใบอนุญาตทำงาน ลาว-เมียนมา-เวียดนาม 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS
  • RECOMMEND

ครม.ไฟเขียว ต่ออายุใบอนุญาตทำงาน ลาว-เมียนมา-เวียดนาม

02/12/2025
ครม.ไฟเขียวงบ 800 ล้าน พัฒนา "คนละครึ่ง พลัส" ต่อร้านค้า ลุยดิจิทัล ครม.ไฟเขียวงบ 800 ล้าน พัฒนา “คนละครึ่ง พลัส” ต่อ ร้านค้าลุยดิจิทัล 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS
  • RECOMMEND

ครม.ไฟเขียวงบ 800 ล้าน พัฒนา “คนละครึ่ง พลัส” ต่อ ร้านค้าลุยดิจิทัล

18/11/2025

Photo Stories

BAM มอบอุปกรณ์การแพทย์ให้แก่โรงพยาบาลหนองแค จ.สระบุรี BAM มอบอุปกรณ์การแพทย์ให้แก่โรงพยาบาลหนองแค จ.สระบุรี 1 min read
  • PHOTO STORIES

BAM มอบอุปกรณ์การแพทย์ให้แก่โรงพยาบาลหนองแค จ.สระบุรี

26/12/2025
เมืองไทยประกันชีวิต จับมือ แมกซ์ โซลูชัน เซอร์วิส เพิ่มความอุ่นใจแก่สมาชิก Max Card  เมืองไทยประกันชีวิต จับมือ แมกซ์ โซลูชัน เซอร์วิส เพิ่มความอุ่นใจแก่สมาชิก Max Card  1 min read
  • PHOTO STORIES

เมืองไทยประกันชีวิต จับมือ แมกซ์ โซลูชัน เซอร์วิส เพิ่มความอุ่นใจแก่สมาชิก Max Card 

26/12/2025
กรุงเทพประกันภัยและคณะวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ร่วมลงนาม MOU กรุงเทพประกันภัยและคณะวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ร่วมลงนาม MOU 1 min read
  • PHOTO STORIES

กรุงเทพประกันภัยและคณะวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ร่วมลงนาม MOU

26/12/2025
ซีพีแรม เดินหน้าปกป้อง – ฟื้นฟูระบบนิเวศผ่านโครงการ “ซีพีแรมรวมน้ำใจ ฟื้นฟูป่า”  ซีพีแรม เดินหน้าปกป้อง – ฟื้นฟูระบบนิเวศผ่านโครงการ “ซีพีแรมรวมน้ำใจ ฟื้นฟูป่า”  1 min read
  • PHOTO STORIES

ซีพีแรม เดินหน้าปกป้อง – ฟื้นฟูระบบนิเวศผ่านโครงการ “ซีพีแรมรวมน้ำใจ ฟื้นฟูป่า” 

26/12/2025
วิริยะตะกาฟุล ร่วมมอบชุดเครื่องนอน – เครื่องครัวฟื้นฟูผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้ วิริยะตะกาฟุล ร่วมมอบชุดเครื่องนอน – เครื่องครัวฟื้นฟูผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้ 1 min read
  • PHOTO STORIES

วิริยะตะกาฟุล ร่วมมอบชุดเครื่องนอน – เครื่องครัวฟื้นฟูผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้

26/12/2025
ผู้บริหาร ธอส. ร่วมบรรจุถุงยังชีพ ช่วยผู้ได้รับผลกระทบสถานการณชายแดนไทย–กัมพูชา ผู้บริหาร ธอส. ร่วมบรรจุถุงยังชีพ ช่วยผู้ได้รับผลกระทบสถานการณชายแดนไทย–กัมพูชา 1 min read
  • PHOTO STORIES

ผู้บริหาร ธอส. ร่วมบรรจุถุงยังชีพ ช่วยผู้ได้รับผลกระทบสถานการณชายแดนไทย–กัมพูชา

24/12/2025
ธอส. รับ 3 รางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่น ประจำปี 2568 ธอส. รับ 3 รางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่น ประจำปี 2568 1 min read
  • PHOTO STORIES

ธอส. รับ 3 รางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่น ประจำปี 2568

23/12/2025
สำนักงานสลากฯ รับมอบ 2 รางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่น สำนักงานสลากฯ รับมอบ 2 รางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่น 1 min read
  • PHOTO STORIES

สำนักงานสลากฯ รับมอบ 2 รางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่น

22/12/2025
กฟผ. คว้า 5 รางวัล SOE Awards ประจำปี 2568 กฟผ. คว้า 5 รางวัล SOE Awards ประจำปี 2568 1 min read
  • PHOTO STORIES

กฟผ. คว้า 5 รางวัล SOE Awards ประจำปี 2568

22/12/2025
ธ.ก.ส. คว้า 4 รางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่นปี 2568 ธ.ก.ส. คว้า 4 รางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่นปี 2568 1 min read
  • PHOTO STORIES

ธ.ก.ส. คว้า 4 รางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่นปี 2568

22/12/2025
เมืองไทยสไมล์คลับ จัดกิจกรรม Special Dining มื้ออร่อยกับคุณพ่อที่ SEKI  เมืองไทยสไมล์คลับ จัดกิจกรรม Special Dining มื้ออร่อยกับคุณพ่อที่ SEKI  1 min read
  • PHOTO STORIES

เมืองไทยสไมล์คลับ จัดกิจกรรม Special Dining มื้ออร่อยกับคุณพ่อที่ SEKI 

18/12/2025
การออกรางวัลสลากออมทรัพย์ ธอส. งวดวันที่ 16 ธ.ค. 2568 การออกรางวัลสลากออมทรัพย์ ธอส. งวดวันที่ 16 ธ.ค. 2568 1 min read
  • PHOTO STORIES

การออกรางวัลสลากออมทรัพย์ ธอส. งวดวันที่ 16 ธ.ค. 2568

17/12/2025
“MTL” รับประกาศนียบัตรแนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทย การต่ออายุครั้งที่ 3 “MTL” รับประกาศนียบัตรแนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทย การต่ออายุครั้งที่ 3 1 min read
  • PHOTO STORIES

“MTL” รับประกาศนียบัตรแนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทย การต่ออายุครั้งที่ 3

16/12/2025
กบข. และ สศค. จัดกิจกรรม CSR เสริมสร้างทักษะด้านการเงินแก่เยาวชน กบข. และ สศค. จัดกิจกรรม CSR เสริมสร้างทักษะด้านการเงินแก่เยาวชน 1 min read
  • PHOTO STORIES

กบข. และ สศค. จัดกิจกรรม CSR เสริมสร้างทักษะด้านการเงินแก่เยาวชน

15/12/2025
4 องค์กรใหญ่ร่วมใจจัดกิจกรรม Bhappy ครั้งที่ 15 ร่วมฟื้นป่ารักษาสิ่งแวดล้อม 4 องค์กรใหญ่ร่วมใจจัดกิจกรรม Bhappy ครั้งที่ 15 ร่วมฟื้นป่ารักษาสิ่งแวดล้อม 1 min read
  • PHOTO STORIES

4 องค์กรใหญ่ร่วมใจจัดกิจกรรม Bhappy ครั้งที่ 15 ร่วมฟื้นป่ารักษาสิ่งแวดล้อม

15/12/2025

บก.ชวนคุย

บก.ชวนคุย วันที่ 25 ก.พ.2568 บก.ชวนคุย วันที่ 25 ก.พ.2568 1 min read
  • HOT NEWS
  • EDITOR TALK

บก.ชวนคุย วันที่ 25 ก.พ.2568

25/02/2025
LINEแชร์เลย! บก.ชวนคุย เรื่องที่ 4,391 แอพเงินกู้แหล่งทุนยุคเศรษฐกิจดิจิทัล  ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน และความท้าทายทางการงาน การเงิน คนไทยมากกว่า... อ่านต่อ

ติดต่อเรา

สนใจร่วมงานกับเรา Aec10news.com คลิ๊กติดต่อเรา รับซื้อ..รายงาน สกู๊ป บทความ รายได้สูง !!!

  • Facebook
  • Twitter
สงวนลิขสิทธิ์ © 2560 เว็บไซต์ AEC10NEWS.COM