Skip to content
Thu. Sep 18th, 2025
  • Facebook
  • Twitter
AEC10NEWS

AEC10NEWS

Primary Menu
  • Home
  • NEWS
    • BREAKING NEWS
    • CHINA NEWS
    • ENERGY FORCE
    • EDITOR TALK
    • MONEY MOVEMENT
    • NATIONAL
    • OPEN NEWS
    • POLITICS
    • WORLD
    • ดวงประจำวัน
  • ASEAN
    • Brunei
    • Cambodia
    • Indonesia
    • Laos
    • Malaysia
    • Myanmar
    • Philippines
    • Singapore
    • Vietnam
  • EEC
  • SPECIAL REPORT
  • BUSINESS
    • BUSINESS MOVEMENT
    • HOT MARKETS
    • PHOTO STORIES
  • HOT NEWS
  • SPECIAL REPORT

“กรุงไทย” ปรับลดจีดีพีปีนี้ลงเหลือ 3% ปีหน้า 4.6%

05/10/2023 1 min read
  • LINEแชร์เลย!
ดูแล้ว: 1,324

Krungthai COMPASS ปรับประมาณการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปี 2566 ลง โดยคาดว่าจะเติบโตที่ 3.0% ต่ำกว่าตัวเลขซึ่งเคยมองไว้ที่ 3.4% เนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยอ่อนแรงลง ปัจจัยหลักจากการส่งออกที่ติดลบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ขณะที่ผู้ประกอบการไทยต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นจากสินค้าจีน และการลงทุนภาคเอกชนอาจขยายตัวได้ต่ำกว่าที่ประเมินไว้

นอกจากนี้ การใช้จ่ายภาครัฐยังมีแนวโน้มชะลอลงโดยเฉพาะในช่วงไตรมาสที่ 4/2566 จากการจัดทำ พ.ร.บ. งบประมาณปี 2567 มีความล่าช้าและการเบิกจ่ายที่ต่ำกว่าปกติ แม้กระนั้นการปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องของภาคการท่องเที่ยว รวมถึงปัจจัยบวกจากนโยบาย Free Visa ที่จะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวจีน จะเป็นแรงหนุนให้เศรษฐกิจไทยเติบโตต่อเนื่องจากปีก่อน

ส่วนในระยะข้างหน้า Krungthai COMPASS ประเมินว่าภาคการท่องเที่ยวจะยังเป็นเครื่องยนต์สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ท่ามกลางการฟื้นตัวสู่ภาวะปกติมากขึ้นจะหนุนการจ้างงานและการใช้จ่ายภาคครัวเรือนให้มีแนวโน้มขยายตัวต่อไป ประกอบกับมีแรงบวกเพิ่มเติมจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะสนับสนุนให้เศรษฐกิจไทยสามารถขยายตัวได้ประมาณ 4.6% ในปี 2567

เศรษฐกิจโลกชะลอตัวกว่าคาดกดดันการส่งออกและการผลิตไทยท่ามกลางการแข่งขันจากจีนที่รุนแรงขึ้น

เศรษฐกิจโลกในช่วงที่เหลือของปี 2566 มีแนวโน้มชะลอตัวลง โดยเฉพาะจีนที่ฟื้นตัวต่ำกว่าคาดจากกำลังซื้อในประเทศที่อ่อนแอรวมถึงความเปราะบางในภาคอสังหาริมทรัพย์ ขณะที่สหรัฐฯ มีทิศทางชะลอตัวลงแต่จะสามารถหลีกเลี่ยงภาวะถดถอยท่ามกลางตลาดแรงงานที่ยังแข็งแกร่ง ทั้งนี้ภาวะเงินตึงตัวจากอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูงต่อไปถือเป็นความเสี่ยงด้านต่ำที่ลดทอนอุปสงค์ในประเทศต่างๆและกดดันการค้าโลก ปัจจัยเหล่านี้จะกระทบต่อการส่งออกไทยในช่วงที่เหลือของปี 2566 ซึ่งจะต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนข้างต้น รวมไปถึงการแข่งขันที่รุนแรงจากจีนที่หันมาพึ่งพาการค้าในภูมิภาคเอเชียมากขึ้น ความได้เปรียบด้านราคาที่ถูกกว่าของจีนเพิ่มอุปสรรคต่อผู้ส่งออกไทย ขณะที่การเข้ามาตีตลาดของสินค้าจีนในไทย ต่างเป็นปัจจัยลบต่อการผลิตภาคอุตสาหกรรมและการลงทุนภาคเอกชนของไทย

เศรษฐกิจโลกเปราะบางโดยเฉพาะจีนและยุโรปโตต่ำกว่าคาดแม้สหรัฐฯยังแข็งแกร่งและสามารถเลี่ยงภาวะถดถอยได้

เศรษฐกิจโลกในปี 2566 มีแนวโน้มเติบโตอย่างจำกัดโดยเฉพาะจีนและยุโรปที่อาจขยายตัวต่ำกว่าที่เคยประเมินไว้ จากการคาดการณ์ล่าสุดโดยองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) เมื่อเดือน ก.ย. ประเมินว่า GDP ของโลกในปี 2566 จะเติบโตได้ประมาณ 3.0% ซึ่งหากไม่นับช่วงวิกฤตโควิดในปี 2563 แล้ว ถือว่าเป็นการเติบโตที่ต่ำที่สุดตั้งแต่วิกฤตการเงินโลกเมื่อ 15 ปีก่อน ทั้งยังมองว่าเศรษฐกิจยุโรปอ่อนแอกว่าคาดจากการหดตัวของภาคการผลิตหลังภาวะดอกเบี้ยสูงกดดันคำสั่งซื้อ ขณะที่ปรับลดตัวเลขการเติบโตของจีนลงสู่ 5.1% จากวิกฤตในภาคอสังหาริมทรัพย์และการฟื้นตัวที่เปราะบาง สำหรับเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่ง ซึ่ง Bloomberg ได้สำรวจความเห็นของนักวิเคราะห์ในเดือน ส.ค. ต่างมองว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปีนี้และสามารถหลบเลี่ยงภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้ คาดว่า GDP ปี 2566 จะเติบโตที่ 2.0% ขณะที่การชะลอตัวลงของเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปีนี้จะไม่รุนแรงถึงขั้นหดตัว

เศรษฐกิจจีนอ่อนแอจากวิกฤตภาคอสังหาริมทรัพย์ที่บั่นทอนอุปสงค์ภายใน ขณะที่การชะลอตัวของโลกกดดันให้พึ่งพาการค้าในเอเชียมากขึ้น

แม้ทางการจีนพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านเครื่องมือด้านการเงินและการคลังในช่วงที่ผ่านมา แต่เครื่องชี้เศรษฐกิจล่าสุดสะท้อนว่ามาตรการที่ออกมา ยังไม่เพียงพอต่อการฟื้นอุปสงค์ในประเทศ ปัญหาการขาดสภาพคล่องกดดันให้การลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์เดือน ส.ค. หดตัวต่อเนื่อง ขณะที่ยอดค้าปลีกชะลอตัวและการผลิตภาคอุตสาหกรรมขยายตัวได้จำกัด บ่งชี้ว่าโมเมนตัมการเติบโตของจีนยังถูกกดดันจากกำลังซื้อภายในประเทศที่อ่อนแอ ส่วนการส่งออกนั้นติดลบต่อเนื่องนับตั้งแต่เดือน พ.ค. ที่ผ่านมา ตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกรวมถึงแรงต้านจากปัญหาความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ จากข้อมูลของ Bloomberg พบว่า การส่งออกของจีนไปยังตลาดหลักทั้งสหรัฐฯ และยุโรปต่างลดลง ขณะที่ทิศทางการค้ามากลุ่มอาเซียนเพิ่มสูงขึ้นจนสามารถแซงหน้ากลุ่มชาติตะวันตก ส่วนหนึ่งเป็นผลของความร่วมมือทางการค้าระหว่างกันระหว่างชาติในเอเชีย โดยเฉพาะข้อตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ที่มีผลบังคับตั้งแต่ปี 2565 จนกลายเป็นเขตการค้าเสรีที่ใหญ่ที่สุดในโลก ปัจจัยเหล่านี้สะท้อนว่าจีนกำลังพึ่งพาการค้าระหว่างกันภายในชาติเอเชียมากยิ่งขึ้น

ภาวะเงินตึงตัวจากดอกเบี้ยสูงเพิ่มความเสี่ยงด้านต่ำต่อเศรษฐกิจโลก คาดกำลังซื้อที่อ่อนแอกดดันปริมาณการค้าโลกปี 2566 หดตัว

การเติบโตของเศรษฐกิจโลกยังเผชิญความเสี่ยงด้านต่ำเพิ่มขึ้นจากภาวะการเงินตึงตัวเนื่องจากอัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มทรงตัวในระดับสูงนานกว่าคาด แม้ในระยะข้างหน้าประเทศหลักอาจประสบภาวะชะลอตัวก็ตาม จากรายงานของ EIU เดือน ก.ย. ระบุว่าธนาคารกลางหลักอาจคงอัตราอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ในระดับสูง โดยเฉพาะเฟดและธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่คาดว่าจะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยหลังจากช่วงกลางปี ​​2567 ไปแล้ว ภาวะเศรษฐกิจของประเทศหลักที่อ่อนแรงลงกดดันกำลังซื้อในตลาดโลก ล่าสุด Oxford Economics ประเมินในเดือน ก.ย. ว่า การค้าระหว่างประเทศมีแนวโน้มหดตัวต่อเนื่องในช่วงครึ่งหลังของปี 2566 โดยคาดว่าปริมาณการค้าโลกในปีนี้จะหดตัว 1.5% ก่อนที่จะกลับมาขยายตัวได้ 2.3% ในปี 2567 ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการปรับสมดุลสินค้าคงคลังในตลาดโลก รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงในระบบห่วงโซ่อุปทานของชาติมหาอำนาจที่นำไปสู่การค้าเฉพาะในกลุ่มมิตร (Friend-shoring) รวมถึงการกระจายแหล่งสั่งซื้อเพื่อป้องกันปัญหาภาวะการชะงักงันของอุปทานจากบรรดาบรรษัทข้ามชาติ

มูลค่าการส่งออกเทียบจากปีก่อนมีแนวโน้มติดลบ

คาดการส่งออกในช่วงที่เหลือของปี 2566 ยังเผชิญความไม่แน่นอนสูง

ภาวะการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกส่งผลให้การส่งออกของไทยหดตัวต่อเนื่อง 10 เดือนติดต่อกันนับตั้งแต่เดือน ต.ค. 2565 ถ้าพิจารณาความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณการส่งออกของโลกกับไทย (ค่า Corr=0.75) ตามข้อมูลช่วง 7 เดือนแรกของปี 2566 ปริมาณการส่งออกของไทยหดตัวโดยเฉลี่ยเดือนละ 6.2% ส่วนปริมาณการส่งออกของโลกช่วงครึ่งปีแรกติดลบโดยเฉลี่ยที่ 0.2% ทั้งนี้มูลค่าการส่งออกที่ติดลบต่อเนื่องได้รับแรงกดดันจากภาวะการผลิตภาคอุตสาหกรรมของโลกที่หดตัว สะท้อนจากดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของโลกและประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ (G7) ที่อยู่ในแดนหดตัวสอดคล้องกับมูลค่าการส่งออกของไทย (ค่า Corr=0.8) Krungthai COMPASS ประเมินว่า การส่งออกของไทยในช่วงที่เหลือของปียังมีความไม่แน่นอนสูง จากปริมาณการค้าโลกที่หดตัวลงต่อเนื่อง ประกอบกับการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่อาจยังไม่ฟื้นจากภาวะหดตัว ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอ อีกทั้งต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงจากประเทศผู้ส่งออกรายอื่นโดยเฉพาะจากจีน เติบโตของมูลค่าส่งออกจีนมายังอาเซียนในช่วงที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งกดดันสินค้าไทย เนื่องจากสินค้าส่งออก
บางรายการเป็นคู่แข่งกัน

ในระยะกว่า 10 ปีที่ผ่านมา จีนมีแนวโน้มพึ่งพาตลาดอาเซียนมากขึ้น จากข้อมูลตั้งแต่ปี 2553 พบว่า มูลค่าการค้าของจีนมายังภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เติบโตโดยเฉลี่ยต่อปี (CAGR) สูงถึง 14.2% ส่งผลให้การส่งออกมายังอาเซียนในปี 2565 มีสัดส่วนคิดเป็น 15.8% จากมูลค่าส่งออกของจีนทั้งหมด ถือเป็นตลาดใหญ่ลำดับที่ 2 รองจากสหรัฐฯ ขณะที่ตลาดยุโรปอยู่ ในลำดับที่ 3 นอกจากนี้ ศักยภาพการเติบโตในตลาดอาเซียนของจีนยังเหนือกว่าไทย ซึ่งมีอัตราการขยายตัวเฉลี่ย (CAGR) 7.1% ทั้งยังเป็นที่สังเกตว่า การส่งออกของจีนในตลาดอาเซียนอาจถือเป็นแรงกดดันต่อสินค้าไทยที่เพิ่มขึ้นได้ เนื่องจากสินค้าส่งออกบางรายการซ้ำซ้อนและถือเป็นคู่แข่งขันกันโดยตรง เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องจักรกล พลาสติก น้ำมันเชื้อเพลิง และยานยนต์

สินค้าจีนที่เป็นคู่แข่งของไทยในตลาดอาเซียนบางรายการสามารถเติบโตได้จากกลยุทธ์ราคาต่ำ ส่งผลให้ผู้ส่งออกเผชิญอุปสรรคมากขึ้น

หากเจาะลึกเฉพาะกลุ่มสินค้าซึ่งทั้งจีนและไทยต่างส่งออกไปยังตลาดอาเซียน พบว่าในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2566 ที่ทั้งจีนและไทยต่างเผชิญกับภาวะการส่งออกหดตัวตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกนั้น การส่งออกสินค้าของจีนบางรายการที่เป็นคู่แข่งขันโดยตรงกับไทยในตลาดอาเซียนกลับยังสามารถขยายตัวได้ ประกอบด้วย อาหารแปรรูป พลาสติก อัญมณี และยานยนต์ ซึ่งในบรรดาสินค้าเหล่านี้มีเพียงอาหารแปรรูป และยานยนต์ที่มูลค่าการส่งออกของไทยในตลาดอาเซียนยังเติบโตได้ ปัจจัยหนึ่งจากความได้เปรียบด้านราคาที่ถูกกว่าของสินค้าจีน ซึ่งความยืดหยุ่นในการส่งออกของจีนสู่ตลาดประเทศเพื่อนบ้านของไทยกำลังเป็นปัจจัยท้าทายที่ต้องจับตา

ไทยขาดดุลการค้ากับจีนอย่างมีนัยสำคัญ สนค้านำเข้าจากจีนบางรายการเข้ามาตีตลาดสินค้าไทย

นอกเหนือจากการรุกเข้ามาในตลาดอาเซียนของสินค้าจีนซึ่งถือเป็นคู่แข่งสำคัญของไทยแล้ว สินค้าจากจีนยังเข้ามาตีตลาดในไทยอีกด้วย จากข้อมูลช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ไทยมีมูลค่าการค้าขาดดุลต่อจีนมาตลอดเฉลี่ยสูงถึงเดือนละ 7.9 หมื่นล้านบาท โดยล่าสุดในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2566 ไทยขาดดุลการค้ากับจีนถึงประมาณ 1.0 แสนล้านบาทต่อเดือน หากพิจารณาในรายการสินค้านำเข้าจากจีนเพื่ออุปโภคบริโภคภายในประเทศของไทยช่วงครึ่งแรกของปี 2566 นี้ จะพบว่ามูลค่าการนำเข้าสินค้าบางรายการเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะเฟอร์นิเจอร์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่พลิกกลับมาขยายตัวได้ 1.1% และ 4.9% ตามลำดับ ซึ่งสินค้าทั้งสองกลุ่มนี้จะใช้กลยุทธ์ด้านราคาเพื่อจูงใจผู้บริโภคในการแข่งขันกับผู้ผลิตไทย

แรงกดดันจากการส่งออกและการตีตลาดของสินค้าจีนกระทบการผลิตภาคอุตสาหกรรม และยังเป็นปัจจัยลบที่มีต่อการขยายการลงทุน

ท่ามกลางภาวะการส่งออกของไทยที่เผชิญปัจจัยลบจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวแล้ว การผลิตภาคอุตสาหกรรมของไทยยังได้รับผลกระทบจากเศรฐกิจภายในประเทศที่ฟื้นตัวได้จำกัด ส่งผลให้ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมและอัตราการใช้กำลังการผลิตในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ต่ำกว่าระดับเดิมที่เคยทำได้ในช่วงก่อนการแพร่ระบาดเมื่อปี 2562 นอกจากนี้ สินค้าอุตสาหกรรมบางส่วนยังต้องเผชิญภาวะการแข่งขันกับจีน ทั้งกลุ่มที่ส่งออกไปยังตลาดอาเซียน เช่น อาหารแปรรูป พลาสติก อัญมณี และยานยนต์ เป็นต้น รวมถึงกลุ่มที่ถูกสินค้านำเข้าจากจีนตีตลาดในไทย เช่น เฟอร์นิเจอร์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า การผลิตภาคอุตสาหกรรมและระดับการใช้กำลังการผลิตที่ยังคงต่ำกว่าปกติเหล่านี้ อาจส่งผลให้ผู้ประกอบการต้องชะลอแผนขยายการผลิตออกไปและกระทบต่อการลงทุนภาคเอกชน

การลงทุนภาคเอกชนอาจขยายตัวต่ำกว่าที่ได้ประเมินไว้ ตามการส่งออกที่หดตัวต่อเนื่อง ประกอบความเชื่อมั่นภาคธุรกิจปรับตัวลง

การลงทุนภาคเอกชนของไทยมีความผันผวนและต้องเผชิญปัจจัยลบจากการส่งออกที่หดตัวซึ่งกดดันการผลิตภาคอุตสาหกรรม ในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2566 ดัชนีการลงทุนภาคเอกชน (PII) รายเดือนโดยเฉลี่ยหดตัวจากปีก่อน 0.2% หากพิจารณาจากเครื่องชี้ด้านการลงทุนเดือน ก.ค. จะพบสัญญาณลบ ทั้งการลงทุนหมวดก่อสร้างโดยยอดจำหน่ายวัสดุก่อสร้างในช่วง 7 เดือนแรกที่หดตัวเทียบจากปีที่ผ่านมา 0.5% ขณะที่การลงทุนหมวดเครื่องจักรกล พบว่ายอดจำหน่ายเครื่องจักรติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 นอกจากนี้ การลงทุนอาจถูกกดดันจากความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการที่มีทิศทางปรับตัวลง โดยดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจเดือน ส.ค. แตะระดับ 48.9 ต่ำสุดในรอบ 7 เดือน Krungthai COMPASS มองว่า การลงทุนในช่วงที่เหลือของปี 2566 จะได้รับผลกระทบจากการส่งออกที่หดตัวต่อเนื่องรวมทั้งความเชื่อมั่นที่ลดลง ส่งผลให้การลงทุนภาคเอกชนในปี 2566 มีแนวโน้มขยายตัวได้ต่ำกว่าที่ประเมินไว้เดิม

จับตานโยบาย Quick Win ของภาครัฐ ที่จะช่วยประคองเศรษฐกิจไทยในปีนี้

เศรษฐกิจไทยในครึ่งปีแรกขยายตัวได้เพียง 2.2% จากผลกระทบของเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอเป็นสำคัญ และมีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่อเนื่องไปยังช่วงที่เหลือของปีนี้ ทำให้นโยบายของภาครัฐต้องกลายมาเป็นเครื่องยนต์ในการพยุงเศรษฐกิจให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้เร่งขึ้น โดย Krungthai COMPASS คาดว่าการจัดตั้งรัฐบาลและนโยบายของภาครัฐจะช่วยสนับสนุนให้เศรษฐกิจในปีนี้ขยายตัวได้ 3.0% โดยคาดว่าจะเร่งตัวขึ้นชัดเจนในไตรมาสที่ 4 ซึ่งเป็น high season ของภาคการท่องเที่ยว อีกทั้งยังมีนโยบาย Free Visa ที่จะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวจีนให้เดินทางเข้ามาได้เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ นโยบายลดราคาพลังงานจะสามารถช่วยลดภาระค่าครองชีพของผู้บริโภคและต้นทุนของภาคธุรกิจได้

นโยบายFree Visa กระตุ้นภาคการท่องเที่ยวให้ฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง

นักท่องเที่ยวชาวจีนซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักที่เคยคาดว่าจะฟื้นตัวได้ในปีนี้หลังจากทางการจีนได้ผ่อนคลายนโยบายให้นักท่องเที่ยวจีนเดินทางออกนอกประเทศได้ แต่จำนวนนักท่องเที่ยวจีน 8 เดือนแรกที่ผ่านมา ฟื้นตัวได้เพียง 30% เมื่อเทียบกับก่อนโควิด-19 ซึ่งน้อยกว่าคาดค่อนข้างมากเนื่องจากอุปสงค์ของการเดินทางมาท่องเที่ยวต่างประเทศยังต่ำจากเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวลง อย่างไรก็ตามรัฐบาลได้ออกนโยบาย Free Visa หรือ มาตรการยกเว้นวีซ่าให้แก่นักท่องเที่ยวสัญชาติจีนตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย. 66 ถึง 29 ก.พ. 67 เป็นระยะเวลา 5 เดือน Krungthai COMPASS คาดว่านโยบาย Free Visa จะช่วยให้นักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางเข้ามาไทยเพิ่มขึ้นประมาณ 5 แสนคนในปี 2566 และ 4 แสนคนในปี 2567 ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ถึง 4.5 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็น 0.2% ของ GDP

สำหรับนักท่องเที่ยวสัญชาติอื่นส่วนใหญ่ฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง เช่น มาเลเซีย เกาหลีใต้ อินเดีย รวมถึงรัสเซีย สหรัฐอเมริกา และอังกฤษ ซึ่งเป็นสัญชาติที่มีค่าใช้จ่ายต่อหัวค่อนข้างสูง โดยฟื้นตัวได้กว่า 75% เมื่อเทียบกับก่อนโควิด-19 และทำให้นักท่องเที่ยว 8 เดือนแรกเข้ามาถึง 17.8 ล้านคน Krungthai COMPASS คาดว่านักท่องเที่ยวต่างชาติจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 29.5 ล้านคนในปีนี้ จากปัจจัยหนุนในช่วงปลายปีซึ่งเป็น high season ของภาคการท่องเที่ยว และนโยบาย Free Visa ที่จะช่วยให้นักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้ามาสะดวกขึ้น

หนุนตลาดแรงงานฟื้นตัวโดยเฉพาะภาคบริการ

ภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวทำให้การจ้างงานในภาคบริการ ซึ่งมีสัดส่วนการจ้างงานมากถึง 54% ในตลาดแรงงานสามารถฟื้นตัวได้ต่อเนื่องและอยู่สูงกว่าระดับก่อนโควิด-19 ราว 9% และคาดว่าจะปรับดีขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการใช้จ่ายของครัวเรือนให้มีแนวโน้มขยายตัวได้ในระยะข้างหน้า สอดคล้องกับเครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนที่อยู่ในเกณฑ์ดี อย่างไรก็ตาม การจ้างงานในภาคการผลิตที่มีสัดส่วนแรงงานราว 16% ของตลาด อยู่ในระดับต่ำกว่าปกติจากผลกระทบของภาคการส่งออกที่ชะลอตัวซึ่งจะเป็นปัจจัยให้ตลาดแรงงานบางกลุ่มยังฟื้นตัวอย่างเปราะบาง

นโยบายลดราคาพลังงาน ช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพที่สูงของประชาชน

มาตรการลดราคาพลังงานเป็นนโยบายเพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจที่อยู่ในระดับสูง แม้ตัวเลขอัตราเงินเฟ้อในช่วงไตรมาสที่ 2 และ ไตรมาสที่ 3 ปี 2566 อยู่ในระดับต่ำแต่เป็นผลจากฐานที่สูง แต่หากพิจารณาภาระค่าครองชีพของครัวเรือนยังทรงตัวสูงสะท้อนจากดัชนีราคาผู้บริโภคที่ปรับสูงขึ้นตั้งแต่ปี 2565 โดยราว 45% ของภาระค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้นมาจากราคาพลังงาน Krungthai COMPASS ประเมินว่า มาตรการลดราคาพลังงาน ได้แก่ การปรับค่ากระแสไฟฟ้าลดลงเหลือ 3.99 บาทต่อหน่วยในรอบบิลเดือน ก.ย.–ธ.ค. 66 และการลดราคาน้ำมันดีเซลให้อยู่ในระดับต่ำกว่า 30 บาทต่อลิตร ที่มีผลตั้งแต่วันที่ 20 ก.ย. 66  จะช่วยลดภาระค่าครองชีพและต้นทุนของภาคธุรกิจที่อยู่ในระดับสูงได้ ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อในปีนี้ปรับลดลง 0.2pp และทั้งปีอยู่ที่ 1.7% อย่างไรก็ตาม ต้องจับตาภาวะภัยแล้งและฝนทิ้งช่วงที่อาจส่งผลให้ผลผลิตทางการเกษตรปรับลดลงในช่วงปลายปี 2566 และมีแนวโน้มรุนแรงขึ้นในปี 2567 ซึ่งอาจหนุนให้ราคาสินค้าหมวดอาหารปรับสูงขึ้น และจะเป็นปัจจัยกดดันภาระค่าครองชีพของครัวเรือนในระยะข้างหน้า

Krungthai COMPASS ประเมินว่า วัฏจักรอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นรอบนี้อยู่ที่ระดับ 2.5%

Krungthai COMPASS คาดว่าอัตราดอกเบี้ยที่ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องสู่ระดับ 2.5% จะเป็นระดับสูงสุด (Terminal Rate) ของวัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้นในรอบนี้ และจะเป็นระดับ Neutral Rate ที่ทำให้อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงในระยะยาวเป็นบวก เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อในระยะข้างหน้ามีแนวโน้มปรับสูงขึ้นจากปัญหาภัยแล้งที่จะกระทบต่อราคาสินค้าเกษตรและอาหาร และผลของฐานสูงทยอยหมดลง นอกจากนี้ การรักษาระดับอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสมเพื่อเพิ่มความสามารถในการดำเนินนโยบายการเงิน (Policy Space) ภายใต้ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจในระยะข้างหน้า

นโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัลสนับสนุนกำลังซื้อของประชาชนในระยะข้างหน้า

นอกจากนโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยวและลดภาระค่าครองชีพแล้ว รัฐบาลได้เตรียมออกนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัลเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในปี 2567 มูลค่าประมาณ 5.6 แสนล้านบาท หรือคิดเป็น 3.2% ของ GDP ผ่านการสนับสนุนกำลังซื้อของประชาชนคนละ 1 หมื่นบาท เพื่อใช้ซื้อสินค้าในร้านค้าที่มีรัศมีใกล้บ้าน

Krungthai COMPASS มองว่า แรงกระตุ้นอาจถูกลดทอนลงจากงบประมาณบางส่วนที่เป็นงบประมาณเดิมของภาครัฐ  ซึ่งเป็นการเกลี่ยงบประมาณหรือต้องปรับลดจากโครงการอื่น เม็ดเงินใหม่ที่เติมเข้ามาตามมาตรการนี้จึงเป็นส่วนของภาษีที่คาดว่าจัดเก็บได้เพิ่มขึ้นประมาณ 3.6 แสนล้านบาท สำหรับผลกระทบจากมาตรการนี้ต่อระบบเศรษฐกิจส่วนรวม จะต้องประเมินจากผลของตัวคูณทวีทางการคลัง (Fiscal Multiplier) จากการจับจ่ายใช้สอยที่ถูกกระตุ้นในการหมุนเวียนเม็ดเงินตามกิจกรรมต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นตามมา

สำหรับผลกระทบที่เกิดขึ้นจริงจากนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัลนั้นยังมีความไม่แน่นอน โดยเฉพาะในแง่ของการนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติ ส่วนหนึ่งอาจเป็นผลจากการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้เป็นระบบหลักของธุรกรรม แต่เป็นนวัตกรรมใหม่ซึ่งบางส่วนยังไม่คุ้นเคย และอาจขลุกขลักได้ในระยะเริ่มแรก ในเบื้องต้น Krungthai COMPASS ประเมินว่า ตัวคูณทวีทางการคลังในรอบการหมุนปีแรกอยู่ที่ประมาณ 0.4-0.7 เท่า [1]ซึ่งเมื่อรวมถึงผลของนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัลดังกล่าวแล้ว คาดว่า GDP ในปี 2567 อาจขยายตัวได้ในกรอบ 4.4-5.0%

Implication:

เศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปียังเผชิญความไม่แน่นอนสูง จากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและความเปราะบางของเศรษฐกิจจีน ประกอบกับแนวโน้มที่ธนาคารกลางของประเทศหลักฝั่งตะวันตกจะคงนโยบายดอกเบี้ยสูงต่อไปนานกว่าคาด ประกอบกับยังเผชิญผลกระทบจากสินค้าจีนที่เป็นคู่แข่งขันสำหนับสินค้าส่งออกของไทย รวมทั้งการเข้ามาตีตลาดภายในประเทศ Krungthai COMPASS มีข้อแนะนำสำหรับผู้ประกอบการให้วางกลยุทธ์เพื่อรับมือกับการส่งออกที่ชะลอตัวและจัดการกับสินค้าจีนที่เข้ามาตีตลาดทั้งต่างประเทศและในประเทศ โดยพยายามรักษาฐานลูกค้าด้วยการรักษาจุดแข็งและความแตกต่างออกไปจากคู่แข่ง รวมทั้งการแสวงหาตลาดใหม่หรือกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพ

อย่างไรก็ตาม ภาคการท่องเที่ยวยังคงเป็นเครื่องยนต์หลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในปีนี้ และคาดว่านโยบาย Free Visa จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในไตรมาส 4 ให้ขยายตัวได้ถึง 5% ซึ่งจะช่วยหนุนให้เศรษฐกิจปีนี้เติบโตได้ที่ 3.0% ดังนั้น ภาครัฐและเอกชนควรเตรียมพร้อมรับนักท่องเที่ยวที่จะยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเพื่อหนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจโดยไม่สะดุด นอกจากนี้ นโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัลซึ่งคาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ในปีหน้า จะเป็นแรงสนับสนุนกำลังซื้อของภาคครัวเรือนที่สำคัญในระยะต่อไป ซึ่งผู้ประอบการควรวางแผนเตรียมพร้อมเพื่อใช้โอกาสดังกล่าวในการขยายตลาดภายในประเทศ เพิ่มกลุ่มลูกค้าเป้าหมายต่อไป ขณะเดียวกันภาครัฐและภาคเอกชนควรร่วมมือกันพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล รวมถึงการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนที่อาจกลายเป็นระบบนิเวศน์ทางการเงินและการค้าอิเล็กทรอนิกส์อีกทางเลือกหนึ่งที่สำคัญต่อไปในอนาคต

60

SHARES
Share on Facebook
Post on X
Follow us
  • LINEแชร์เลย!
Tags: GDP Krungthai Krungthai COMPASS กรุงไทย จีดีพี ธนาคารกรุงไทย ปรับลดจีดีพี เศรษฐกิจไทย

Continue Reading

Previous: ค่าไฟฟ้าลดแล้วเหลือ 3.99 บาท
Next: ธ.ก.ส.แจ้งปิดแอป และ เอทีเอ็ม วันที่ 7 ต.ค.นี้

ข่าวอื่นๆ ที่น่าอ่าน

ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 31.75-31.90 บาท/ดอลลาร์ 1 min read
  • MONEY MOVEMENT
  • HOT NEWS

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 31.75-31.90 บาท/ดอลลาร์

18/09/2025
สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 18 ก.ย. 68 สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 18 ก.ย. 68 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS

สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 18 ก.ย. 68

18/09/2025
สรุปข่าวประจำวันที่ 18 กันยายน 2568 สรุปข่าวประจำวันที่ 18 กันยายน 2568 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS

สรุปข่าวประจำวันที่ 18 กันยายน 2568

18/09/2025
สทนช.เร่งระบายน้ำชี-มูลแบบขั้นบันได สทนช.เร่งระบายน้ำชี-มูลแบบขั้นบันได 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS

สทนช.เร่งระบายน้ำชี-มูลแบบขั้นบันได

18/09/2025
ดวงประจำวัน ดวงประจำวันพฤหัสบดีที่ 18 กันยายน พ.ศ.2568 1 min read
  • ดวงประจำวัน
  • HOT NEWS

ดวงประจำวันพฤหัสบดีที่ 18 กันยายน พ.ศ.2568

18/09/2025
กระทรวงมหาดไทย-728x430-1 “เขากระโดง” ส่อรอด “กรมที่ดิน” ชะงักเพิกถอนโฉนด 1 min read
  • POLITICS
  • HOT NEWS

“เขากระโดง” ส่อรอด “กรมที่ดิน” ชะงักเพิกถอนโฉนด

17/09/2025
ออมสินเร่งปล่อย Soft Loan แสนล้าน–ดึง AI เสริมบริการ SMEs-คนฐานราก ออมสินเร่งปล่อย Soft Loan แสนล้าน–ดึง AI เสริมบริการ SMEs-คนฐานราก 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS

ออมสินเร่งปล่อย Soft Loan แสนล้าน–ดึง AI เสริมบริการ SMEs-คนฐานราก

17/09/2025
กองทัพ กองทัพภาคที่ 2 ตรวจพบ ทหารกัมพูชากว่า 50 นาย พร้อมอาวุธเข้าช่องอานม้า 1 min read
  • POLITICS
  • HOT NEWS

กองทัพภาคที่ 2 ตรวจพบ ทหารกัมพูชากว่า 50 นาย พร้อมอาวุธเข้าช่องอานม้า

17/09/2025
กบข. ขนเงิน 2.5 หมื่นล้าน รับข้าราชการเกษียณ กบข. ขนเงิน 2.5 หมื่นล้าน รับข้าราชการเกษียณ 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS

กบข. ขนเงิน 2.5 หมื่นล้าน รับข้าราชการเกษียณ

17/09/2025
ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 31.60-31.85 บาท/ดอลลาร์ 1 min read
  • MONEY MOVEMENT
  • HOT NEWS

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 31.60-31.85 บาท/ดอลลาร์

17/09/2025
กรมบัญชีกลางแจ้งจ่ายเงินสงเคราะห์ผู้สูงอายุ 17 ก.ย. ไม่เกินบ่าย 3 โมง กรมบัญชีกลางแจ้งจ่ายเงินสงเคราะห์ผู้สูงอายุ 17 ก.ย. ไม่เกินบ่าย 3 โมง 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS

กรมบัญชีกลางแจ้งจ่ายเงินสงเคราะห์ผู้สูงอายุ 17 ก.ย. ไม่เกินบ่าย 3 โมง

17/09/2025
สรุปสถานการณ์น้ำ สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 17 ก.ย. 68 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS

สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 17 ก.ย. 68

17/09/2025

China News

แบงก์ใหญ่แห่เพิ่มคาดการณ์ GDP จีน แบงก์ใหญ่แห่เพิ่มคาดการณ์ GDP จีน 1 min read
  • CHINA NEWS
  • HOT NEWS

แบงก์ใหญ่แห่เพิ่มคาดการณ์ GDP จีน

14/05/2025
LINEแชร์เลย! สถาบันการเงินรายใหญ่ได้พากันปรับเพิ่มคาดการณ์ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือ จีดีพี ของจีนในปีนี้ หลังจากจีนและสหรัฐฯ บรรลุข้อตกลงการค้าเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (12 พ.ค.)... อ่านต่อ

Start Up

ธพว. เคียงข้าง ‘เสียงเกษมโซล่าเซลล์’ พาถึงแหล่งทุน หนุนกิจการเติบโต 457C5A49-7DCB-4EA0-ACF5-B856D1843534 1 min read
  • HOT NEWS
  • START UP

ธพว. เคียงข้าง ‘เสียงเกษมโซล่าเซลล์’ พาถึงแหล่งทุน หนุนกิจการเติบโต

01/09/2022
LINEแชร์เลย! “ขอบคุณ ธพว. ที่สนับสนุน “เสียงเกษมโซล่าเซลล์” พาเข้าถึงแหล่งเงินทุน เสริมสภาพคล่องกิจการ ควบคู่กับการให้คำปรึกษา แนะนำธุรกิจ... อ่านต่อ

Money Movement

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 31.75-31.90 บาท/ดอลลาร์ ธนาคารไทยพาณิชย์
1 min read
  • MONEY MOVEMENT
  • HOT NEWS

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 31.75-31.90 บาท/ดอลลาร์

18/09/2025
ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 31.60-31.85 บาท/ดอลลาร์ ธนาคารไทยพาณิชย์
1 min read
  • MONEY MOVEMENT
  • HOT NEWS

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 31.60-31.85 บาท/ดอลลาร์

17/09/2025
ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 31.70-31.95 บาท/ดอลลาร์ ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 31.70-31.95 บาท/ดอลลาร์
1 min read
  • MONEY MOVEMENT
  • HOT NEWS

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 31.70-31.95 บาท/ดอลลาร์

16/09/2025
ธอส. ขยายเวลาเปิดรับสมัครชิงเอ็มดีตั้งแต่วันที่ 16 – 30 ก.ย.2568 ธอส. ขยายเวลาเปิดรับสมัครชิงเอ็มดีตั้งแต่วันที่ 16 - 30 ก.ย.2568
1 min read
  • MONEY MOVEMENT
  • HOT NEWS

ธอส. ขยายเวลาเปิดรับสมัครชิงเอ็มดีตั้งแต่วันที่ 16 – 30 ก.ย.2568

15/09/2025
ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 31.65-31.90 บาท/ดอลลาร์ ธนาคารไทยพาณิชย์
1 min read
  • HOT NEWS
  • MONEY MOVEMENT

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 31.65-31.90 บาท/ดอลลาร์

15/09/2025
ธนาคารไทยพาณิชย์

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 31.75-31.90 บาท/ดอลลาร์

ธนาคารไทยพาณิชย์

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 31.60-31.85 บาท/ดอลลาร์

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 31.70-31.95 บาท/ดอลลาร์

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 31.70-31.95 บาท/ดอลลาร์

ธอส. ขยายเวลาเปิดรับสมัครชิงเอ็มดีตั้งแต่วันที่ 16 - 30 ก.ย.2568

ธอส. ขยายเวลาเปิดรับสมัครชิงเอ็มดีตั้งแต่วันที่ 16 – 30 ก.ย.2568

ธนาคารไทยพาณิชย์

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 31.65-31.90 บาท/ดอลลาร์

Energy Force

“ไซยะบุรี พาวเวอร์” รับเหรียญชัยแรงงานจาก สปป.ลาว "ไซยะบุรี พาวเวอร์" รับเหรียญชัยแรงงานจาก สปป.ลาว 1 min read
  • ENERGY FORCE
  • HOT NEWS

“ไซยะบุรี พาวเวอร์” รับเหรียญชัยแรงงานจาก สปป.ลาว

11/09/2025
LINEแชร์เลย! บริษัท ไซยะบุรี พาวเวอร์ จำกัด (XPCL) บริษัทร่วมในเครือของ บริษัท ซีเค... อ่านต่อ

Politics

กระทรวงมหาดไทย-728x430-1 “เขากระโดง” ส่อรอด “กรมที่ดิน” ชะงักเพิกถอนโฉนด 1 min read
  • POLITICS
  • HOT NEWS

“เขากระโดง” ส่อรอด “กรมที่ดิน” ชะงักเพิกถอนโฉนด

17/09/2025
กองทัพ กองทัพภาคที่ 2 ตรวจพบ ทหารกัมพูชากว่า 50 นาย พร้อมอาวุธเข้าช่องอานม้า 1 min read
  • POLITICS
  • HOT NEWS

กองทัพภาคที่ 2 ตรวจพบ ทหารกัมพูชากว่า 50 นาย พร้อมอาวุธเข้าช่องอานม้า

17/09/2025
547884391_1247307317431603_878316200803957116_n ผบ.ตร.ประชุมด่วน! แก้ปัญหาอายัดบัญชีม้า กระทบประชาชน 1 min read
  • POLITICS
  • HOT NEWS

ผบ.ตร.ประชุมด่วน! แก้ปัญหาอายัดบัญชีม้า กระทบประชาชน

16/09/2025

ประเด็นข่าว

EXIM BANK KBANK scb SME D Bank กรมชลประทาน กระทรวงการคลัง กระทรวงอุตสาหกรรม กรุงไทย กสิกรไทย กอนช. ข่าวเด่น ข่าวดัง คปภ. ครม. ค่าเงินบาท ดวงประจำวัน ตลาดหุ้น ธ.ก.ส. ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารออมสิน ธนาคารไทยพาณิชย์ ธอส. นายฉัตรชัย ศิริไล นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ บก.ชวนคุย บางจาก ปตท. ประเมินค่าเงินบาท พรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา มาเลเซีย รัฐบาล ราคาทองคำ ราคาน้ำมัน สถานการณ์น้ำ สรุปข่าวประจำวัน สรุปสถานการณ์น้ำ สิงคโปร์ อาจารย์มงคล รอดเที่ยงธรรม เศรษฐกิจไทย เศรษฐา ทวีสิน แพทองธาร ชินวัตร โควิด-19 ไทยพาณิชย์

Business Movement

ธอส. ครบ 6 รอบ 72 ปี ส่งมอบบ้านให้ผู้ด้อยโอกาส ผู้ยากไร้ ผู้สูงอายุ และผู้พิการ  ธอส. ครบ 6 รอบ 72 ปี ส่งมอบบ้านให้ผู้ด้อยโอกาส ผู้ยากไร้ ผู้สูงอายุ และผู้พิการ  1 min read
  • BUSINESS MOVEMENT

ธอส. ครบ 6 รอบ 72 ปี ส่งมอบบ้านให้ผู้ด้อยโอกาส ผู้ยากไร้ ผู้สูงอายุ และผู้พิการ 

18/09/2025
ชาย ศฤงคาร ยุวานนท์ ค่าย Shinemusic เปิดตัว 3 ศิลปินใหม่ ชาย ศฤงคาร ยุวานนท์ ค่าย Shinemusic เปิดตัว 3 ศิลปินใหม่ 1 min read
  • BUSINESS MOVEMENT

ชาย ศฤงคาร ยุวานนท์ ค่าย Shinemusic เปิดตัว 3 ศิลปินใหม่

09/09/2025
ประชุมสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ ครั้งที่ 3/2568 ประชุมสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ ครั้งที่ 3/2568 1 min read
  • BUSINESS MOVEMENT

ประชุมสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ ครั้งที่ 3/2568

03/09/2025
BAM ดึง 3 อรหันต์นั่งบอร์ดนวัตกรรมและพัฒนาองค์กร ขับเคลื่อนสู่ BAMX Transformation BAM ดึง 3 อรหันต์นั่งบอร์ดนวัตกรรมและพัฒนาองค์กร ขับเคลื่อนสู่ BAMX Transformation 1 min read
  • BUSINESS MOVEMENT

BAM ดึง 3 อรหันต์นั่งบอร์ดนวัตกรรมและพัฒนาองค์กร ขับเคลื่อนสู่ BAMX Transformation

03/09/2025

Recommend

สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชายังสงบ สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชายังสงบ 1 min read
  • POLITICS
  • HOT NEWS
  • RECOMMEND

สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชายังสงบ

16/08/2025
"จุลพันธ์" มั่นใจงบปี 69 เพียงพอรับความเสี่ยง  “จุลพันธ์” มั่นใจงบปี 69 เพียงพอรับความเสี่ยง  1 min read
  • POLITICS
  • HOT NEWS
  • RECOMMEND

“จุลพันธ์” มั่นใจงบปี 69 เพียงพอรับความเสี่ยง 

13/08/2025
ชายแดนไทย-กัมพูชาสงบ ประชาชนทยอยกลับบ้าน พร้อมเร่งเก็บกู้ระเบิดตกค้าง ชายแดนไทย-กัมพูชาสงบ ประชาชนทยอยกลับบ้าน พร้อมเร่งเก็บกู้ระเบิดตกค้าง 1 min read
  • POLITICS
  • HOT NEWS
  • RECOMMEND

ชายแดนไทย-กัมพูชาสงบ ประชาชนทยอยกลับบ้าน พร้อมเร่งเก็บกู้ระเบิดตกค้าง

11/08/2025
"ทรัมป์" ยินดี ไทยหยุดยิงกัมพูชา “ทรัมป์” ยินดี ไทยหยุดยิงกัมพูชา 1 min read
  • POLITICS
  • HOT NEWS
  • RECOMMEND

“ทรัมป์” ยินดี ไทยหยุดยิงกัมพูชา

29/07/2025

Photo Stories

การออกรางวัลสลากออมทรัพย์ ธอส. งวดวันที่ 16 ก.ย. 2568 การออกรางวัลสลากออมทรัพย์ ธอส. งวดวันที่ 16 ก.ย. 2568 1 min read
  • PHOTO STORIES

การออกรางวัลสลากออมทรัพย์ ธอส. งวดวันที่ 16 ก.ย. 2568

17/09/2025
กรรมการผู้จัดการ ธอส. เป็นประธานออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดวันที่ 16 ก.ย.68 กรรมการผู้จัดการ ธอส. เป็นประธานออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดวันที่ 16 ก.ย.68 1 min read
  • PHOTO STORIES

กรรมการผู้จัดการ ธอส. เป็นประธานออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดวันที่ 16 ก.ย.68

16/09/2025
SAM เปิดประมูลทรัพย์มือสองกว่า 170 ลบ. ไฮไลท์กลางโคราช SAM เปิดประมูลทรัพย์มือสองกว่า 170 ลบ. ไฮไลท์กลางโคราช 1 min read
  • PHOTO STORIES

SAM เปิดประมูลทรัพย์มือสองกว่า 170 ลบ. ไฮไลท์กลางโคราช

15/09/2025
คปภ. ประกาศผลประกวด “Insurefluencer 2025” และ “School Media Creator Award” คปภ. ประกาศผลประกวด “Insurefluencer 2025” และ “School Media Creator Award” 1 min read
  • PHOTO STORIES

คปภ. ประกาศผลประกวด “Insurefluencer 2025” และ “School Media Creator Award”

15/09/2025
ไทยยูเนี่ยน–กสิกรไทย เปิดตัว “Blue Finance Linked FX Forward” ครั้งแรกในไทย ไทยยูเนี่ยน–กสิกรไทย เปิดตัว “Blue Finance Linked FX Forward” ครั้งแรกในไทย 1 min read
  • PHOTO STORIES

ไทยยูเนี่ยน–กสิกรไทย เปิดตัว “Blue Finance Linked FX Forward” ครั้งแรกในไทย

15/09/2025
กรมสรรพากรเข้าร่วมพิธีมอบรางวัลเลิศรัฐ ประจำปี 2568 กรมสรรพากรเข้าร่วมพิธีมอบรางวัลเลิศรัฐ ประจำปี 2568 1 min read
  • PHOTO STORIES

กรมสรรพากรเข้าร่วมพิธีมอบรางวัลเลิศรัฐ ประจำปี 2568

14/09/2025
ไอแบงก์ จับมือ EXIM BANK คว้ารางวัลเลิศรัฐ 2568 ไอแบงก์ จับมือ EXIM BANK คว้ารางวัลเลิศรัฐ 2568 1 min read
  • PHOTO STORIES

ไอแบงก์ จับมือ EXIM BANK คว้ารางวัลเลิศรัฐ 2568

13/09/2025
คปภ. คว้ารางวัล “องค์กรผู้สนับสนุนบอร์ดเกม” คปภ. คว้ารางวัล “องค์กรผู้สนับสนุนบอร์ดเกม” 1 min read
  • PHOTO STORIES

คปภ. คว้ารางวัล “องค์กรผู้สนับสนุนบอร์ดเกม”

12/09/2025
กรมบัญชีกลาง จัดพิธีมอบรางวัลคณะผู้บริหารการคลังประจำจังหวัด (คบจ.) ดีเด่น กรมบัญชีกลาง จัดพิธีมอบรางวัลคณะผู้บริหารการคลังประจำจังหวัด (คบจ.) ดีเด่น 1 min read
  • PHOTO STORIES

กรมบัญชีกลาง จัดพิธีมอบรางวัลคณะผู้บริหารการคลังประจำจังหวัด (คบจ.) ดีเด่น

12/09/2025
EXIM BANK จัดกิจกรรม CSR เปิดพื้นที่ให้ผู้ส่งออก SMEs จำหน่ายสินค้า EXIM BANK จัดกิจกรรม CSR เปิดพื้นที่ให้ผู้ส่งออก SMEs จำหน่ายสินค้า 1 min read
  • PHOTO STORIES

EXIM BANK จัดกิจกรรม CSR เปิดพื้นที่ให้ผู้ส่งออก SMEs จำหน่ายสินค้า

12/09/2025
ธอส. รับ 2 รางวัลเชิดชูเกียรติ “เพชรพัสดุ” ประจำปี 2568 ธอส. รับ 2 รางวัลเชิดชูเกียรติ “เพชรพัสดุ” ประจำปี 2568 1 min read
  • PHOTO STORIES

ธอส. รับ 2 รางวัลเชิดชูเกียรติ “เพชรพัสดุ” ประจำปี 2568

12/09/2025
กสิกรไทย ร่วมกับ จุฬาฯ ยกระดับการเรียนรู้ตลอดชีวิตเชื่อมต่อ 2 แพลตฟอร์ม E-Learning กสิกรไทย ร่วมกับ จุฬาฯ ยกระดับการเรียนรู้ตลอดชีวิตเชื่อมต่อ 2 แพลตฟอร์ม E-Learning 1 min read
  • PHOTO STORIES

กสิกรไทย ร่วมกับ จุฬาฯ ยกระดับการเรียนรู้ตลอดชีวิตเชื่อมต่อ 2 แพลตฟอร์ม E-Learning

11/09/2025
BAM จับมือ MCOT ขยายฐานกลุ่มลูกค้ารัฐวิสาหกิจ BAM จับมือ MCOT ขยายฐานกลุ่มลูกค้ารัฐวิสาหกิจ 1 min read
  • PHOTO STORIES

BAM จับมือ MCOT ขยายฐานกลุ่มลูกค้ารัฐวิสาหกิจ

11/09/2025
BAFS จับมือ พระจอมเกล้าลาดกระบัง ต่อยอดงานวิจัย BAFS จับมือ พระจอมเกล้าลาดกระบัง ต่อยอดงานวิจัย 1 min read
  • PHOTO STORIES

BAFS จับมือ พระจอมเกล้าลาดกระบัง ต่อยอดงานวิจัย

10/09/2025
ดีอี - TAGTHAi ร่วม MOU ส่งเสริม “Smart Tourism” ผ่านแพลตฟอร์ม ดีอี – TAGTHAi ร่วม MOU ส่งเสริม “Smart Tourism” ผ่านแพลตฟอร์ม 1 min read
  • PHOTO STORIES

ดีอี – TAGTHAi ร่วม MOU ส่งเสริม “Smart Tourism” ผ่านแพลตฟอร์ม

10/09/2025

บก.ชวนคุย

บก.ชวนคุย วันที่ 25 ก.พ.2568 บก.ชวนคุย วันที่ 25 ก.พ.2568 1 min read
  • HOT NEWS
  • EDITOR TALK

บก.ชวนคุย วันที่ 25 ก.พ.2568

25/02/2025
LINEแชร์เลย! บก.ชวนคุย เรื่องที่ 4,391 แอพเงินกู้แหล่งทุนยุคเศรษฐกิจดิจิทัล  ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน และความท้าทายทางการงาน การเงิน คนไทยมากกว่า... อ่านต่อ

ติดต่อเรา

สนใจร่วมงานกับเรา Aec10news.com คลิ๊กติดต่อเรา รับซื้อ..รายงาน สกู๊ป บทความ รายได้สูง !!!

  • Facebook
  • Twitter
สงวนลิขสิทธิ์ © 2560 เว็บไซต์ AEC10NEWS.COM