เกาหลีใต้กังวลกวางจูระบาดหนักเหมือนแทกู
โซล – มีความกังวลมากขึ้นว่าเมืองกวางจูอาจกลายเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของโควิด -19 แห่งใหม่ในเกาหลีใต้ เนื่องจากตัวเลขการติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในเมืองนี้ที่มีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 1.5 ล้านคน
โดยเมื่อวันที่ 2 ก.ค. จากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด -19 รายใหม่ทั้งหมด 54 รายของเกาหลีใต้ เป็นผู้ติดเชื้อในเมืองกวางจูถึง 22 ราย โดยกลุ่มผู้ติดเชื้อมีความเกี่ยวข้องกับการรวมกลุ่มกันในโบสถ์ของศาสนาคริสต์หลายแห่งและวัดของศาสนาพุทธ หลังจากมีจำนวนผู้ติดเชื้อ 12 รายในวันที่ 1 ก.ค.
พัคนึงฮู รมว.กระทรวงสาธารณสุขระบุว่า อัตราการติดเชื้อในเมืองนี้เป็น “สัญญาณเตือน” และแนวโน้มการติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นควรจะถูกสกัดให้ลดลงทันที
“ ใช้เวลาหนึ่งสัปดาห์ที่ผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มจาก 20 เป็น 200 ราย จากประสบการณ์ของเราที่เมืองแทกูในเดือนก.พ.” รมว.พัคกล่าว
เมืองแทกู ซึ่งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ เคยมีจำนวนผู้ติดเชื้อมากที่สุดถึง 6,910 ราย และสามารถสอบสวนหาเส้นทางการติดเชื้อย้อนไปถึงต้นตอคือลัทธินอกรีตชินชอนจี กลายเป็นศูนย์กลางการระบาดของโควิด-19 ระลอกแรกในเกาหลีใต้
มีผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 30 รายที่มาจากการรวมตัวทำกิจกรรมร่วมกันในวัดพุทธในเมืองกวางจู ทำให้จำนวนผู้ป่วยอยู่ที่ 49 ราย จากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคเกาหลี
ผู้ที่ไปวัดแห่งนี้พบว่ามีการแพร่เชื้อสู่คนอื่นเมื่อมีการสัมผัสใกล้ชิดกันในการประชุมกลุ่ม ทำกิจกรรมทางศาสนา และธุรกิจแบบเคาะประตูบ้านขายสินค้า
ในการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 2 ก.ค. นายกเทศมนตรีอียองซ็อบของเมืองกวางจูย้ำว่า เมืองอยู่ในสถานการณ์วิกฤต เนื่องจากจะไม่มีเตียงในโรงพยาบาลรองรับผู้ป่วยได้เพียงพอหากมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น
“เนื่องจากผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน เราจะเผชิญกับการขาดแคลนแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ผู้ดูแลและบุคลาการทางการแพทย์ส่วนอื่นๆ ”
ทั้งนี้ เมืองกวางจูยกระดับมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมเป็นระยะ 2 โดยห้ามการรวมกลุ่มกันในอาคารเกิน 50 คน และนอกอาคารเกิน 100 คน
เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. รัฐบาลมีมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม 3 ระยะเพื่อเป็นข้อกำหนดให้ประชาชนสามารถปฏิบัติตามไปพร้อมกับจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่และอัตราผู้ติดเชื้อที่ไม่สามารถสอบสวนหาเส้นทางการติดเชื้อได้
มีการระงับการเปิดให้บริการสถานที่สาธารณะไปอีกสองสัปดาห์ ทั้งห้องสมุดและพิพิธภัณฑ์ รวมทั้งสถานที่ซึ่งมีความเสี่ยงสูง เช่น อินเทอร์เน็ตคาเฟ่และบาร์คาราโอเกะ
โดยเมื่อวันที่ 1 ก.ค. สำนักการศึกษาเมืองกวางจูมีคำสั่งตรงถึงร.ร.ประถมและมัธยมในเมืองให้เปลี่ยนมาทำการเรียนการสอนออนไลน์ในวันที่ 2 – 3 ก.ค. และตั้งแต่วันที่ 6 – 15 ก.ค. ทางร.ร. ต้องลดจำนวนนักเรียนในชั้นเรียนลง
โดยร.ร.ประถมและมัธยมต้น ให้ลดจำนวนนักเรียนลงเหลือ 1 ใน 3 และสำหรับ ร.ร.มัธยม ให้ลดลงเหลือ 2 ใน 3
สำนักงานใหญ่สำนักบรรเทาภัยพิบัติกลางระบุว่า รัฐบาลและกระทรวงจะสนับสนุนเมืองกวางจู เพื่อให้เมืองสามารถบังคับใช้มาตรการการเว้นระยะห่างทางสังคมใหม่ที่เข้มงวดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ.