ข่าวเด่น เย็นนี้ 12 ก.ค.2567
ข่าวเด่น เย็นนี้ กับความขัดแย้งระหว่างพรรคเพื่อไทยกับครอบครัว “อยู่บำรุง” ไม่ใช่พึ่งมาเกิดเมื่อไม่กี่วันมานี้
เรื่องที่ 4,711 หากย้อนไปนับตั้งแต่หลังการเลือกตั้งปี 2566 จะเห็นว่าครอบครัว “อยู่บำรุง” กับพรรคเพื่อไทยมีเรื่องระหองระแหงกันมาโดยตลอด
และหลังจากที่พรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาลเสร็จเรียบร้อยแล้ว นานทีเดียว ก็ไม่มีการตั้งใครในบ้านริมคลอง ย่านบางบอน เป็นข้าราชการการเมือง
จนกระทั่ง “เฉลิม อยู่บำรุง” ต้องออกมาฉะกับ ทักษิณ ชินวัตร โดยเขียนเป็นจดหมายตำหนิทักษิณ ว่าพูดถึงตนเองในทางไม่ดีลับหลัง
เหตุการณ์ครั้งนั้นจบด้วยการที่ แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ต้องเป็นตัวแทนไปเจรจา จนในที่สุดก็มีการตั้งให้ “วัน อยู่บำรุง” เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรี ประจำกระทรวงสาธารณสุข แล้วเรื่องก็จบกันไป
เหตุการณ์ครั้งล่าสุดที่ “วัน อยู่บำรุง” ประกาศลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทย และ เฉลิม อยู่บำรุง ผู้เป็นพ่อ ก็ขอให้พรรคเพื่อไทยขับตนเองออกจากพรรคด้วย หลังจากที่ครอบครัว “อยู่บำรุง” ไปโผล่ให้กำลังใจบิ๊กแจ๊ส พลตำรวจโทคำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ในการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี จึงเป็นแต่เพียงภาคต่อของรอยร้าวระหว่างพรรคเพื่อไทยกับครอบครัว “อยู่บำรุง”
โดยฉากจบคือการแยกออกจากกัน ถึงเวลานี้ก็เป็นการนับถอยหลังความสัมพันธ์ระหว่าง เฉลิม อยู่บำรุง กับ ทักษิณ ชินวัตร
เรื่องที่ 4,712 หากจำข่าวร้ายทื่ บก.ชวนคุยเคยบอกเอาไว้ก่อนหน้านี้ได้เกี่ยวกับเรื่องค่าไฟงวดสุดท้ายของปีนี้ (ก.ย.-ธ.ค. 67) ว่ามีแนวโน้มจะปรับขึ้นอีก 20-40 สตางค์ต่อหน่วย จากเดิมที่เราจ่ายกันอยู่ 4.18 บาทต่อหน่วย
ล่าสุดสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) โดยท่านเลขาฯ กกพ. คนใหม่ พี่ลี “พูลพัฒน์ ลีสมบัติไพบูลย์” ในฐานะโฆษก กกพ. ได้มีการประกาศ 3 แนวทางการคำนวณประมาณค่าเอฟทีงวดสุดท้ายของปีออกมา
ปรากฏว่าเห็นแล้วดูแย่ยิ่งกว่าที่ บก.ชวนคุยเคยบอกไว้ เพราะทั้ง 3 แนวทางนั้น แนวทางแรกค่าไฟจะกระโดดพุ่งขึ้นไปถึง 6.01 บาทต่อหน่วย โดยค่าไฟฟ้าของผู้ใช้ไฟฟ้าทั่วประเทศจะเพิ่มขึ้น 44% จากงวดปัจจุบัน
ส่วนแนวทางที่ 2 ค่าไฟจะอยู่ที่ 4.92 บาทต่อหน่วย หรือเพิ่มขึ้น 18% จากงวดปัจจุบัน และแนวทางสุดท้ายปรับเพิ่มขึ้นเป็น 4.65 บาทต่อหน่วย หรือเพิ่มขึ้น 11% จากงวดปัจจุบัน
เรียกว่าไม่ว่าแนวทางไหนประชาชนอย่างเราก็ต้องจ่ายเพิ่มกันทั้งนั้นเลย งานนี้คงต้องฝากความหวังไว้ที่พี่ตุ๋ย “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ว่าจะมีแนวทางช่วยเหลือกันอย่างไรบ้าง
เรื่องที่ 4,713 เป็นอีกกรมหนึ่ง ที่ไม่ต้องห่วง ทั้งในเรื่องของการจัดเก็บรายได้ และการปกป้องประเทศ จากสิ่งที่ทำอันตรายต่อประชาชน ยกนิ้วให้ “อธิบดีตุ้ย-ธีรัชย์ อัตนวานิช” อธิบดีกรมศุลกากร เพราะผลงานล่าสุด เข้าตากรรมการ ผลการจัดเก็บรายได้ 9 เดือน (ต.ค. 66-มิ.ย.67) จัดเก็บรายได้ 88,432 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 2,802 ล้านบาท หรือคิดเป็น 3.3% และคาดว่า ตลอดทั้งปีนี้ จะจัดเก็บได้เกินเป้า 3,000 ล้านบาทแน่นอน
แต่ถ้าเหลือบไปดู ผลการจัดเก็บภาษีของกรมศุลกากร ให้กับหน่วยงานอื่น ไม่ต้องตกใจ เพราะเก็บรายได้สูงถึง 469,662 ล้านบาท ในจำนวนนี้ เก็บแทนกรมสรรพากร 293,928 ล้านบาท กรมสรรพสามิต 49,676 ล้านบาท และกระทรวงมหาดไทยอีก 37,626 ล้านบาท
นี่ยังไม่นับรวมผลการปราบปราม ของกรมศุลกากร ทั้งยาเสพติด และสินค้าต้องห้ามอีกมากมาย
ซึ่งล่าสุดนับเป็นครั้งแรก ที่นายกรัฐมนตรี มาแถลงข่าวผลตรวจยึดโทลูอีน เคมีภัณฑ์วัตถุอันตรายประเภท 3 ณ ท่าเรือแหลมฉบัง ตำบลทุ่งสุขลา อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี จำนวน 90 ตัน มูลค่า 3.6 ล้านบาท ซึ่งโทลูอีน เป็นสารตั้งต้นสามารถนำมาผลิตเพื่อเป็นยาบ้าได้อีกหลายพันตัน
เรื่องที่ 4,714 เรื่มแล้วมาตรการยกเว้นวีซ่า เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวช่วงโลว์ซีซั่น เพิ่มเวลาพำนักในไทย โดย น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทย และโฆษกกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยกำลังดำเนินการออกประกาศฯ 4 ฉบับ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก โดยกำหนดรายชื่อประเทศ/ดินแดนที่ได้รับสิทธิยกเว้นการตรวจลงตรา (วีซ่าฟรี) สามารถพำนักในประเทศไทยได้ไม่เกิน 60 วัน เพื่อการท่องเที่ยว การติดต่อธุรกิจ และการทำงานระยะสั้นจำนวน 93 ประเทศ/ดินแดน เพิ่มเติมจากเดิมที่มีอยู่ 57 ประเทศ/ดินแดน เริ่มตั้งแต่วันที่ 15 ก.ค. 2567 เป็นต้นไป ขนมาทุกมาตรการ ก็มารอดูบทสรุปรายได้ท่องเที่ยวไทยปีนี้ จะถึงเป้าตามที่ คุณ ๆ ท่าน ๆ คาดหวังหรือไม่ รอติดตาม
สรุปข่าวเด่นต่างประเทศ
เรื่องที่ 4,715 การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มอ่อนแอลงในไตรมาส 2/2567 ซึ่งอาจเพิ่มแรงกดดันให้บรรดาผู้นำจีนต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ในการประชุมใหญ่ของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ชุดที่ 20 ครั้งที่ 3 (Third Plenum) ซึ่งจะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนมีกำหนดเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ (15 ก.ค.) โดยนักเศรษฐศาสตร์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า ตัวเลข GDP จะขยายตัว 5% ในไตรมาส 2 เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งจะเป็นอัตราการขยายตัวต่ำที่สุดในรอบ 3 ไตรมาส แม้ตัวเลขดังกล่าวจะสอดคล้องกับเป้าหมายรายปีที่รัฐบาลจีนกำหนดไว้ที่ประมาณ 5% ก็ตาม ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่น ๆ ของจีนที่จะมีการเปิดเผยในวันจันทร์ ได้แก่ การผลิตภาคอุตสาหกรรม ยอดค้าปลีก การลงทุนในสินทรัพย์ถาวร อัตราว่างงาน และการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์
เรื่องที่ 4,716 สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNGA) มีมติให้รัสเซียถอนกำลังทหารและบุคลากรที่ไม่ได้รับอนุญาตออกจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปริซเซีย (Zaporizhzhia) ของยูเครนโดยทันที พร้อมทั้งคืนสิทธิ์ในการครอบครองให้กับยูเครน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า UNGA มีมติเห็นชอบด้วยคะแนนเสียง 99 เสียง คัดค้าน 9 เสียง และงดออกเสียง 60 เสียง โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปริซเซีย ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ถูกรัสเซียเข้ายึดครองในเวลาไม่นานหลังจากรัสเซียบุกยูเครนเมื่อเดือนก.พ. 2565 ปัจจุบัน โรงไฟฟ้าดังกล่าวถูกปิดแต่ยังจำเป็นต้องมีพลังงานจากภายนอกเพื่อหล่อเย็นและป้องกันไม่ให้เกิดการหลอมละลาย ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลาของการสู้รบ ยูเครนและรัสเซียต่างกล่าวโทษกันไปมาว่าอีกฝ่ายเป็นผู้ลงมือยิงถล่มโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งนี้ และต่างฝ่ายต่างก็ปฏิเสธว่าไม่ได้ทำ
เรื่องที่ 4,717 สถานีวิทยุและโทรทัศน์เมียนมา (MRTV) รายงานว่า คณะกรรมการการลงทุนภูมิภาคแห่งเมืองย่างกุ้ง (YRIC) อนุมัติการลงทุนใหม่ 7 โครงในเมืองย่างกุ้งในเดือนมิ.ย. ซึ่งจะสร้างตำแหน่งงานกว่า 3,000 ตำแหน่ง
รายงานระบุว่า โครงการดังกล่าวได้รับเงินลงทุน 4.023 พันล้านจ๊าด หรือประมาณ 1.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แลทำให้มีโอกาสในการสร้างงานในประเทศจำนวน 3,060 ตำแหน่ง นอกจากนี้ YRIC ระบุว่า การลงทุนดังกล่าวครอบคลุมถึงการลงทุน 3 โครงการในภาคบริการด้านโรงแรมซึ่งรัฐบาลเมียนมาเป็นเจ้าของ, การลงทุน 4 โครงการในภาคอุตสาหกรรมที่นักลงทุนต่างชาติเป็นเจ้าของ
เรื่องที่ 4,718 สื่อฝรั่งเศสรายงานเมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ว่า มหกรรมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ปารีส 2024 ทำยอดขายตั๋วสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 8.6 ล้านใบแล้ว คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) เปิดเผยว่า ยอดขายตั๋วโอลิมปิก ปารีส 2024 ทุบสถิติเดิมที่เคยทำไว้ก่อนหน้านี้ที่ 8.3 ล้านใบ ในมหกรรมโอลิมปิก แอตแลนตา 1996
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า นายโทนี เอสตันเกต์ หัวหน้าคณะกรรมการจัดการแข่งขันโอลิมปิก ปารีส กล่าวว่า “เราภูมิใจมากที่ทำลายสถิติไปแล้ว แต่เรายังทำได้ดีกว่านี้แน่นอน” และ สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ในส่วนของการแข่งขันกีฬาพาราลิมปิกนั้น ยอดขายตั๋วทะลุ 1 ล้านใบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โดยนพวัชร์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ข่าวเด่น เย็นนี้ 11 ก.ค.2567