ข่าวเด่น ข่าวดัง วันที่ 12-13 ก.ค. 2566
พรุ่งนี้แล้ว สำหรับการโหวตนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 โดยมีขั้นตอน ดังนี้
เรื่องที่ 2,399 พรุ่งนี้แล้ว สำหรับการโหวตนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 โดยมีขั้นตอน ดังนี้
1.เริ่มจากที่ “สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร” หรือ ส.ส. เสนอชื่อบุคคลเป็นนายกฯ จากบัญชีรายชื่อแคนดิเดตของพรรคที่มี จำนวน ส.ส. ตั้งแต่ 25 คนขึ้นไป
2.สำหรับการเสนอชื่อแคนดิเดตของพรรค ต้องมี ส.ส. รับรอง ไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ของจำนวน ส.ส. ทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ โดยสามารถเสนอชื่อให้เลือกได้มากกว่า 1 คน
3.ในการเลือกนายกฯให้กระทำเป็นการเปิดเผย โดยเลขาธิการสภาฯ จะเรียกชื่อสมาชิก ส.ส. และสมาชิกวุฒิสภา หรือ ส.ว. ตามลำดับอักษรเป็นรายบุคคล และให้ออกเสียงโดยการกล่าวชื่อบุคคลที่เห็นชอบ
4.ในที่ประชุมซึ่งมี ส.ส. 500 เสียง และส.ว. 250 เสียง รวมกันเป็น 750 เสียง ผู้ที่ได้คะแนน 376 เสียงขึ้นไป
5.ถ้าปรากฎว่า หากลงคะแนนแล้วไม่มีใครได้คะแนนเกินกึ่งหนึ่ง ก็จะวนโหวตต่อไปจนกว่าจะมีผู้ได้คะแนนมากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่
อย่างไรก็ตาม หากนับจากจำนวน ส.ส.แต่ละพรรคที่ชนะการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 มิ.ย.66 ที่ผ่านมา เกิน 25 คนขึ้นไป สามารถเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ ในบัญชีของพรรคการเมืองได้ มีทั้งหมด 9 คน จาก 6 พรรคการเมือง มีดังนี้
1.พรรคก้าวไกล 1 คน
2.พรรคเพื่อไทย 3 คน
3.พรรคภูมิใจไทย 1 คน
4.พรรคพลังประชารัฐ 1 คน
5.พรรครวมไทยสร้างชาติ 1 คน
6.พรรคประชาธิปัตย์ 1 คน
สำหรับการโหวตพรุ่งนี้ คาดประธานสภา จะเปิดให้สมาชิกรัฐสภา ได้อภิปราย แล้วให้ผู้ที่ถูกเสนอชื่อเป็นนายกฯ ได้แสดงวิสัยทัศน์ และจะมีการโหวตโดยขานชื่อในเวลา 17.00 น. เป็นต้นไป
เรื่องที่ 2,400 เกิดเป็นประเด็นที่หลายคนกังวลขึ้นมาทันที หลังจากที่คณะรัฐมนตรี หรือ ครม. มีมติไม่ต่ออายุลดภาษีสรรพสามิตดีเซล 5 บาทต่อลิตร หลังมาตรการสิ้นสุดวันที่ 21 กรกฎาคมนี้ เพราะจะส่งผลให้ราคาน้ำมันดีเซลกระโดดพรวดขึ้นมาเป็นลิตรละ 37 บาทต่อลิตรได้ทันที ซึ่งอย่างที่เราก็รู้กันดีอยู่แล้วว่าน้ำดีเซลมีผลอย่างมากต่อต้นการผลิตสินค้าอุปโภค บริโภคในประเทศไทย
และล่าสุดทางฝั่งภาคเอกชนก็ออกมายอมรับเองเลยว่า หากดีเซลขึ้นเป็น 37 บาทจะทำให้ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้นมาถึง 10% โดยพี่ไก่ “เกรียงไกร เธียรนุกุล” ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ ส.อ.ท. ถึงกับต้องขอให้กระทรวงพลังงานหามาตรการรองรับเพื่อไม่ให้เป็นภาระต้นทุนของผู้ประกอบการและผู้บริโภคที่ขณะนี้มีภาระต้นทุนจากดอกเบี้ยอยู่แล้ว
อย่างไรก็ดี เท่าที่ บก.ชวนคุยได้ข้อมูลจากแหล่งข่าวที่ใกล้ชิดมาก็ทำให้พอจะเบาใจไปได้ระดับหนึ่ง เพราะสัปดาห์หน้าคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) จะประชุมสรุปแนวทางดูแล โดยเบื้องต้นสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) จะนำเสนอกลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงดูแลเพื่อตรึงราคาไว้ให้มากที่สุด ซึ่งปัจจุบันราคาดีเซลอยู่ที่ 31.94 บาทต่อลิตร
ได้ยินดั่งนี้ก็เลยแอบไปส่งสถานะของกองทุนน้ำมันเสียหน่อยไว้เป็นอย่างไร จะดุแลไหวหรือเปล่าก็ปรากฎว่าข้อมูลวันที่ 9 กรกฎาคม มีสถานะติดลบ 52,270 ล้านบาท แบ่งเป็น บัญชีน้ำมันติดลบ 6,598 ล้านบาท บัญชีแอลพีจีติดลบ 45,672 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้านี้ที่ติดลบเกือบ 2 แสนล้านแล้ว ก็ถือว่าน่าจะพอดูแลพี่น้องประชาชนได้แหละครับผม
เรื่องที่ 2,401 นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 34.91/92 บาท/ดอลลาร์ จากเปิด ตลาดเมื่อเช้าที่ระดับ 34.68 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 34.69 – 35.00 บาท/ดอลลาร์ เงินบาทอ่อนค่าสวนทางกับสกุลเงินในภูมิภาค เนื่องจากปัจจัยเรื่องการเมืองในประเทศ ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กก ต.) ลงมติส่งศาลรัฐธรรมนูญ ประเด็นที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะหัวหน้าพรรคก้าวไกลและแคนดิเดทนายกรัฐมนตรี ถือหุ้น ITV พร้อมขอสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่
เรื่องที่ 2,402 ข่าวสั้นๆ แต่น่าสนใจ ล่าสุด คนกรมศุลกากรฯ ไม่ทน กรณีขายนาฬิกาหรูปลอม ที่เป็นข่าวใหญ่เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา คนวงในและใหญ่จริงกรมฯ วางแผนแล้ว พร้อมเอาคืนคนที่อยู่เบื้องหลังที่ทำให้ “ที่ปรึกษาขร-พันธ์ทอง ลอยกุลนันท์.” ในฐานะโฆษกกรมศุลกากรต้องด่างพร้อย “ไก่ตีงู งูเห็นนมไก่” งานนี้ ฝากเอาไว้ก่อน งานหน้าจะกวาดล้างของเถื่อนให้หนัก เต็มคาราเบล!! ครับพี่น้อง
สรุปข่าวต่างประเทศ
เรื่องที่ 2,403 นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ เปิดเผยกับบรรดารมว.ต่างประเทศของกลุ่มประเทศอาเซียน (ASEAN) ว่า เขาได้พบปะกับ “อองซาน ซูจี” อดีตผู้นำรัฐบาลพลเรือนของเมียนมาเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (9 ก.ค.) พร้อมระบุว่า นางซูจีมีสุขภาพแข็งแรงดีทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ
สำนักข่าวเกียวโดรายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าวทางการทูตในวันนี้ (12 ก.ค.) ว่า การพบปะกันระหว่างนายดอนกับนางซูจีถือเป็นการพบปะระหว่างนางซูจีกับเจ้าหน้าที่รัฐบาลระดับสูงของต่างประเทศเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่กองทัพเมียนมาก่อรัฐประหารและยึดอำนาจจากนางซูจี ซึ่งเป็นผู้นำประเทศและรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง เมื่อเดือนก.พ. 2564 และนางซูจีได้ถูกควบคุมตัวตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
แหล่งข่าวระบุว่า นายดอนกล่าวถึงการพบปะกับนางซูจีระหว่างการประชุม 2 วันของบรรดารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของกลุ่มประเทศอาเซียน (ASEAN) ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงจาการ์ตาของอินโดนีเซียตั้งแต่เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.)
นายดอนได้เดินทางเข้าเยี่ยมนางซูจี ณ ที่คุมขังในกรุงเนปิดอว์ของเมียนมา โดยทั้งสองได้พูดคุยกันเป็นเวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
เรื่องที่ 2,404 กระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นเปิดเผยว่า เกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธ 1 ลูกลงสู่ทะเลญี่ปุ่นในวันนี้ (12 ก.ค.) ซึ่งคาดว่าเป็นขีปนาวุธแบบทิ้งตัว (ballistic missile) และเป็นการยิงขีปนาวุธครั้งที่ 12 แล้วในปีนี้ ขณะที่กองทัพเกาหลีใต้ได้ออกมายืนยันว่า เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธในวันนี้เช่นกัน
นายยาซูคาสึ ฮามาดะ รัฐมนตรีกลาโหมของญี่ปุ่นกล่าวว่า เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธในเวลา 09.59 น.ตามเวลาท้องถิ่นในวันนี้ และขีปนาวุธตกห่างจากฝั่งตะวันออกของคาบสมุทรเกาหลีประมาณ 550 กิโลเมตร เมื่อเวลา 11.13 น.ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งจุดที่ตกนั้นอยู่ด้านนอกของเขตเศรษฐกิจจำเพาะ (EEZ) ของญี่ปุ่น
ในช่วงต้นสัปดาห์นี้ นางคิม โยจอง น้องสาวผู้ทรงอิทธิพลของนายคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือได้ออกมาเตือนว่า กองทัพสหรัฐจะเผชิญกับการตอบโต้ที่รุนแรง หากเครื่องบินลาดตระเวนของกองทัพอากาศสหรัฐรุกล้ำเข้าสู่น่านฟ้าของเกาหลีเหนืออย่างผิดกฎหมายอีก
เรื่องที่ 2,405 กระทรวงคมนาคมของจีน รายงานว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของเศรษฐกิจทางทะเลของจีน ซึ่งครอบคลุมอุตสาหกรรมต่างๆ ตั้งแต่การเดินเรือ การประมง จนถึงการต่อเรือ มีมูลค่าสูงเกิน 9 ล้านล้านหยวน (ราว 43.44 ล้านล้านบาท) ในปี 2565
รายงานระบุว่าราว 95% ของสินค้าในการค้าระหว่างประเทศของจีนถูกขนส่งทางทะเล โดยปริมาณสินค้าผ่านท่าเรือในปีก่อนสูงถึง 15,700 ล้านตัน และปริมาณขนส่งตู้คอนเทนเนอร์รวมเกือบ 300 ล้านทีอียู (TEU: หน่วยนับตู้คอนเทนเนอร์ยาว 20 ฟุต) ซึ่งเพิ่มขึ้น 0.9% และ 4.7% เมื่อเทียบปีต่อปี
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ปริมาณการขนส่งสินค้าเพิ่มขึ้น 33% ในปี 2565 และ 56% เมื่อเทียบกับช่วงสิบปีก่อน ด้านกองเรือขนส่งสินค้าของจีนมีความจุสูงถึง 370 ล้านตัน เมื่อนับถึงสิ้นปี 2565 ซึ่งเพิ่มขึ้นสองเท่าจากเมื่อสิบปีก่อน และขนาดดังกล่าวทำให้จีนก้าวกระโดดขึ้นสู่อันดับ 2 ของโลก
กระทรวงฯ เผยแพร่ข้อมูลเหล่านี้ ณ การประชุมเนื่องในวาระวันเดินเรือแห่งประเทศจีน ครั้งที่ 19 เพื่อรำลึกวาระครบรอบ 600 ปี การเดินเรือของเจิ้งเหอ ซึ่งเป็นนักสำรวจผู้ยิ่งใหญ่แห่งราชวงศ์หมิง (ปี 1911-2187) ที่เดินเรือสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และที่อื่นๆ จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์เส้นทางสายไหมทางทะเลของจีน
เรื่องที่ 2,406 สถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีรายงานว่า จีนสั่งอพยพประชาชนกว่า 40,000 คนหนีน้ำท่วมฉับพลันในมณฑลเสฉวน ขณะที่ฝนตกลงมาอย่างหนักในหลายพื้นที่ของประเทศ
รายงานระบุว่า ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักทำให้เกิดน้ำท่วมและโคลนถล่มในหลายพื้นที่ในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้บ้านเรือนและโครงสร้างพื้นฐานได้รับความเสียหาย และคร่าชีวิตผู้คนจำนวนมาก ฝนที่ตกหนักและน้ำท่วมในจีนเกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับหลายประเทศทั่วโลกที่กำลังเผชิญฝนตกหนักเช่นกัน ส่งผลให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ
นอกจากนี้ ปริมาณน้ำฝน 300.7 มิลลิเมตรในเมืองหยาอัน มณฑลเสฉวน ในช่วงเวลาประมาณ 14 ชั่วโมงที่ผ่านมา ได้ก่อให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและดินโคลนถล่มทำลายบ้านเรือน ขณะที่เมืองเจิ้งโจว ซึ่งเป็นเมืองหลวงของมณฑลเหอหนาน ออกประกาศเตือนภัยระดับสีแดง ซึ่งเป็นระดับรุนแรงที่สุดจากทั้งหมด 4 ระดับ และหลายพื้นที่รายงานปริมาณน้ำฝนมากเป็นประวัติการณ์
เรื่องที่ 2,407 นายลี เซียนลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์มีคำสั่งให้ นายเอส อิสวารัน รมว.คมนาคมหยุดพักงาน หลังจากที่พบว่า เขามีส่วนเกี่ยวข้องกับการสอบสวนของสำนักงานต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน
นายลี กล่าวว่า นายอิสวารัน รวมทั้งบุคคลที่ไม่เปิดเผยนามอีกหลายคน กำลังให้ความช่วยเหลือในการสอบสวนแก่สำนักสืบสวนการกระทำการทุจริต (CPIB) โดยนายอิสวารันจะพักการปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะเสร็จสิ้นการสอบสวน
“ผมได้แจ้งให้รัฐมนตรีอิสวารันหยุดพักงาน จนกว่าการสอบสวนจะเสร็จสิ้น” นายลีกล่าว โดยไม่ได้ให้ข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับคดีดังกล่าว
นายอิสวารันได้รับการเลือกตั้งเข้าเป็นสมาชิกรัฐสภาเมื่อปี 2540 และได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีเมื่อปี 2549 นอกจากนี้ เขายังเป็นรัฐมนตรีผู้รับผิดชอบด้านความสัมพันธ์ทางการค้าของประเทศอีกด้วย
ในระหว่างที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมนั้น เป้าหมายหลักของนายอิสวารันคือการสร้างสิงคโปร์ให้เป็นศูนย์กลางการเดินทางทางอากาศ หลังจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รวมทั้งส่งเสริมให้สิงคโปร์ในศูนย์กลางการเดินเรือด้วย ทั้งนี้ รัฐมนตรีของสิงคโปร์ได้รับเงินเดือนสูงที่สุดในโลก นอกจากนี้ ดัชนีรับรู้การทุจริต (CPI) ขององค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (Transparency International) ยังจัดให้สิงคโปร์เป็นประเทศที่มีการทุจริตคอร์รัปชันน้อยที่สุดเป็นอันดับ 5 ของโลก
เรื่องที่ 2,408 ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ระบุวันนี้ (12 ก.ค.) ว่า ธนาคารพาณิชย์รายใหญ่ที่สุดของอังกฤษจำนวน 8 แห่งมีเงินทุนเพียงพอที่จะฝ่าฟันปัญหาเศรษฐกิจที่รุนแรงกว่าเมื่อครั้งที่เกิดวิกฤตการณ์การเงินปี 2551 หลังอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงขึ้นส่งผลกระทบต่อกลุ่มผู้บริโภคและธุรกิจ
ทั้งนี้ BoE ได้ดำเนินการทดสอบภาวะวิกฤตกับธนาคารพาณิชย์ในอังกฤษเพื่อตรวจสอบว่า ธนาคารพาณิชย์เหล่านี้มีเงินทุนเพียงพอที่จะรับมือกับภาวะตื่นตระหนกหรือไม่ หากเกิดวิกฤตการณ์ที่รุนแรงกว่าวิกฤตการณ์ทางการเงินโลกในปี 2551 โดยในเวลานั้นผู้จ่ายภาษีของอังกฤษต้องเข้าช่วยอุ้มธนาคารพาณิชย์หลายแห่ง
รายงานระบุว่า ธนาคารทั้ง 8 แห่ง ได้แก่ บาร์เคลย์ (Barclays), ลอยด์ (Lloyds), เอชเอสบีซี (HSBC), แนตเวสต์ (NatWest), ซานตันเดร์ ยูเค (Santander UK), สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (Standard Chartered), เนชั่นไวด์ บิลดิ้ง โซไซตี้ (Nationwide Building Society) และเวอร์จิน มันนีย์ (Virgin Money) โดยธนาคารทั้ง 8 แห่งปล่อยสินเชื่อรวมกันในอังกฤษคิดเป็นสัดส่วน 75% ของสินเชื่อทั้งระบบ
เรื่องที่ 2,409 นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ในวันที่ 13 ก.ค. บริษัทฟาสต์ รีเทลลิ่ง โค ซึ่งเป็นผู้บริหารร้านเสื้อผ้าแบรนด์ “ยูนิโคล่” ของญี่ปุ่น จะรายงานผลกำไรเพิ่มขึ้น 25% ในไตรมาส 3 ของปีงบการเงิน 2566 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ พร้อมมุ่งความสนใจไปที่การฟื้นตัวของยอดขายในจีน
นักวิเคราะห์ 7 รายในโพลสำรวจของรีฟินิทิฟ (Refinitiv) คาดการณ์ว่า ผลกำไรจากการดำเนินงานของฟาสต์ รีเทลลิ่ง โคในไตรมาส 3 ของปีงบการเงิน 2566 ที่สิ้นสุดเดือนพ.ค. มีแนวโน้มแตะ 1.024 แสนล้านเยน (733.37 ล้านดอลลาร์) เมื่อเทียบกับ 8.18 หมื่นล้านเยนที่ในปีก่อนหน้า ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุดสำหรับไตรมาส 3 ของบริษัท
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ฟาสต์ รีเทลลิ่งมีร้านยูนิโคล่ 925 สาขาในจีน ซึ่งมากกว่าในญี่ปุ่น และทำให้จีนกลายเป็นศูนย์กลางของตลาดค้าปลีกที่ได้รับผลกระทบจากข้อจำกัดที่เข้มงวดของโควิด-19 ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน หุ้นของฟาสต์ รีเทลลิ่ง ปรับตัวขึ้น 30% แล้วในปีนี้ ส่งผลให้นายทาดาชิ ยานาอิ ผู้ก่อตั้งครองตำแหน่งบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดของญี่ปุ่น
เรื่องที่ 2,410 หุ้นวายจี เอนเตอร์เทนเมนต์ (YG Entertainment) บริษัทต้นสังกัดศิลปินเคป๊อป (K-pop) ร่วงลงเกือบ 7% ในวันนี้ (12 ก.ค.) หลังมีรายงานว่า การต่อสัญญาของ “ลิซ่า” สมาชิกวงเกิร์ลกรุ๊ป แบล็กพิงก์ (Blackpink) ยังไม่ชัดเจน
หุ้นวายจีซื้อขายอยู่ที่ 73,900 วอน เมื่อเวลา 12.34 น. ของวันนี้ตามเวลาท้องถิ่นเกาหลีใต้ โดยเป็นระดับที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 11 พ.ค. ซึ่งปิดตลาดที่ 66,700 วอน รายงานพิเศษจากหนังสือพิมพ์มุนฮวาอิลโบของเกาหลีระบุว่า ลิซ่า สมาชิกวงแบล็กพิงก์ยังไม่มีข้อสรุปเกี่ยวกับการต่อสัญญากับค่ายวายจี เอนเตอร์เทนเมนต์ นอกจากนี้ นิวเซน (Newsen) สื่อของเกาหลีใต้ยังรายงานอีกว่า วายจี เอนเตอร์เทนเมนต์ระบุว่า บริษัทกำลังอยู่ระหว่างการเจรจาต่อสัญญา แต่ทางมุนฮวาอิลโบระบุว่า ทั้งสองฝ่ายมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันค่อนข้างมาก
โดยนพวัชร์