ข่าวเด่น ข่าวดัง วันที่ 27-28 ม.ค.2566
สุดสัปดาห์นี้การเมืองคึกคักเป็นพิเศษ โดยนอกจาก บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะขึ้นเวลาปราศรัยที่ จ.ชุมพร ในวันที่ 28 ม.ค.นี้แล้ว
เรื่องที่ 1,757 พรรคเพื่อไทย ก็มีกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง บุกหนองคาย ในวันที่ 28 ม.ค. 2566 เริ่มเวลา 09.00 น. เวทีปราศรัยเทศบาลอำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย และเวลา 14.30 น. เวทีปราศรัยตลาดคลองถม อําเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย ต่อมาวันที่ 29 ม.ค. ข้ามภาคมาที่ กาญจนบุรี ลานองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี อําเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี
ขุนพลของพรรคเพื่อไทย นำโดย ชลน่าน ศรีแก้ว , แพทองธาร ชินวัตร , สุทิน คลังแสง ,จาตุรนต์ ฉายแสง ,ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ , อดิศร เพียงเกษ ,จิราพร สินธุไพร
ส่วนพรรคก้าวไกล นัดหมายในวันที่ 28 ม.ค.นี้ เวลา 13.00 น. เป็นต้นไป ที่อุทยานการเรียนรู้ป๋วย 100 ปี ธรรมศาสตร์ รังสิต ในกิจกรรมกาXก้าวไกล ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม เชิญชวนผู้สนับสนุนผู้ต้องการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยทุกคน มาร่วมรับฟังพรรคก้าวไกลประกาศเจตนารมณ์ทางการเมืองในการเลือกตั้ง 2566 พร้อมฟังชุดนโยบายเรือธง การเมืองดี | ปากท้องดี | มีอนาคต
เรื่องที่ 1,758 ถึงกับสะดุ้งโหยงเลยทีเดียว เมื่อวันนี้ บก.ชวนคุยสั่งก๊าซหุงต้มถัง 15 กิโลกรัมมาเปลี่ยนที่บ้าน เพราะหมดพอดี และตัวเองก็เป็นผู้เขียนข่าวเรื่องก๊าซตรึงราคาต่อถัง 15 กิโลกรัม และกำลังจะปรับขึ้น ด้วยความคิดที่อยู่ในหัวก็คือถ้าเดือนนี้ก๊าซหุงต้มคงจะต้องอยู่ที่ราคา 418 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม เพราะรัฐบาลโดยคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน หรือ กบง. ได้มีมติเห็นชอบให้ตรึงราคานี้ไว้จนถึงสิ้นเดือนก.พ. และค่อยปรับขึ้นในเดือนมี.ค.เป็น 423 บาท
แต่เมื่อคนส่งแก๊สติดตั้งเสร็จถึงเวลาต้องจ่ายเงิน ได้ยินราคาว่า 435 บาท ถึงกับสตั๊นไปชั่วครู่ กระเป๋าสตางค์สั่นระริก เลยสอบถามว่าทำไมราคาเกินกว่าที่รัฐบาลประกาศ อีกทั้งยังสูงกว่าที่กำลังจะปรับขึ้นเดือนมี.ค.ด้วย คุยไปคุยก็มาถึงบางอ้อ เพราะราคาที่รัฐบาลประกาศคือราคาหน้าโรงงานบรรจุก๊าซ แต่เมื่อมาถึงมือผู้ให้บริการ หรือร้านค้าราคาก็ต้องขยับเพิ่มสูงขึ้นไปอีก เราก็ลืมนึกถึงข้อนี้ไปเลย จ่ายเงินเสร็จแล้วก็ได้แต่นึกสะท้อนใจในความเป็นคนไทยยุคที่มีค่าครองชีพสูง ไม่รู้ว่าพวกท่านๆที่ดูแลนโยบายเคยมานั่งจ่ายเอง แล้วได้รู้รสชาติแบบประชาชนทั่วไปกันบ้างหรือไม่ หรือถ้าได้จ่ายก็คงจะไม่สะเทือนอะไร เพราะพวกเจ้านายกินเงินเดือนกันสูงลิบลิ่ว เลยไม่รู้ว่าประชาชนเค้าเดือดร้อนเลือดตาแทบกระเด็นกันขนาดไหน
เรื่องที่ 1,759 สศค.แถลงตัวเลขเศรษฐกิจครั้งแรก ของปีนี้ ฉายแววแล้ว เห็นเศรษฐกิจไทย ขยายตัวเป็นบวก 3.8% เติบโตต่อเนื่องจากปีที่แล้ว ที่ขยายตัวได้ 3% ผลพวงทั้งหมด ต้องยกความดีความชอบให้การท่องเที่ยว ที่พุ่งทะยานขึ้นมาหลายร้อยเปอร์เซ็นต์ จากการตัดสินใจเปิดรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติของ “นายกฯ บิ๊กตู่” ส่งผลให้ตัวเลขนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไทยปรับเพิ่มขึ้นอีก จาก 10 ล้านคนเมื่อปีที่แล้ว ขยับขึ้นเป็น 11.2 ล้านคน คือตัวเลขจริง ส่วนปีหน้า คาดว่า จะพุ่งพรวด 27.5 ล้านคน สร้างรายได้และกระจายรายได้ให้แก่ประเทศไทยอย่างมากมาย
ขณะที่ ภาคการส่งออกยังเป็นพระเอก เพราะกว่า 70% ของจีดีพีไทยพึ่งพาส่งออกเป็นหลัก รองลงมาเป็นเรื่องการท่องเที่ยว 20% และส่วนที่เหลือมาจากสินค้าภาคการเกษตร
ดังนั้นเมื่อ ส่งออกร่วงลงในช่วง 3 เดือนสุดท้าย เนื่องจากเศรษฐกิจชะลอตัว ประเทศคู่ค้าต่างชะลอการนำเข้าจากต่างประเทศ โดยการส่งออกรูปเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ในปีนี้ คาดว่า จะขยายตัวเพียง 0.4% ปีที่แล้วขยายตัว 5.6% และเมื่อปี2564 ขยายตัวถึง 19.2% หดตัวอย่างชัดเจน
ในปีนี้ จึงไม่มีคำว่า “เผาจริง” หรือ “เผาหลอก” มีแต่คำว่า ต้องรอด และต้องรอด เท่านั้น!!
โดยนพวัชร์