ข่าวเด่น ข่าวดัง วันที่ 25-26 ต.ค.2565
สภาผู้แทนราษฎร กำลังจะเปิดการประชุมอีกครั้งในต้นเดือนหน้า ขณะที่หลายพรรคการเมือง เตรียมเสนอให้พิจารณาหลากหลายกฏหมาย เช่น พรรคก้าวไกล เตรียมพิจารณาร่างกฎหมายสุราก้าวหน้า และกฎหมายสมรสเท่าเทียม ในวาระสองและวาระสาม
เรื่องที่ 1,503 ขณะที่พรรคร่วมฝ่ายค้าน เตรียมเสนอให้สภาผู้แทนราษฎร โหวตทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ โดยจะเป็นคำถามที่ให้ประชาชนตอบในวันเดียวกันกับที่มีการเลือกตั้งครั้งต่อไป เพื่อที่จะได้ประหยัดงบประมาณแผ่นดิน
อย่างไรก็ตาม อีกกฎหมายที่มีความสำคัญไม่แพ้กัน คือร่าง พ.ร.บ.กัญชงและกัญชา ของพรรคภูมิใจไทย ที่หลายพรรคการเมือง รวมถึงพรรคร่วมรัฐบาลเองยังไม่เห็นด้วย ที่จะเปิดเสรีกัญชา
ล่าสุด พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาแสดงจุดยืนว่า ไม่เอาด้วยกับกัญชาเสรี เพราะมีแต่ปัญหาตามมา พรรคประชาธิปัตย์สนับสนุนเฉพาะนโยบายกัญชาเพื่อการแพทย์เท่านั้น ดังนั้น จึงจับตาดูว่ากฎหมายกัญชาจะได้ไปต่อ หรือต้องชะงักไปเรื่อยๆ
เรื่องที่ 1,504 ณ เวลานี้ ยังหาเจ้าภาพที่จะมารับผิดชอบการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ ซึ่งจะเปิดฉากการแข่งขันรอบ 32 ทีมสุดท้ายในวันที่ 21 พ.ย. 2565 และจะไปสิ้นสุดการแข่งขันวันที่ 18 ธ.ค. 2565 โดยหากยังจำกันได้เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ซึ่งมีการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือยูโร 2020 ประเทศไทยก็หาเจ้าภาพถ่ายทอดสดไม่ได้ จนคนไทยทั้งประเทศรู้สึกว่าตนเองคงจจะไม่ได้ดูฟุตบอลรายการดังกล่าวนั้นเสียแล้ว
แต่เวลานั้นมีพระเอกขี่ม้าขาวที่ชื่อ “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” ที่ปัจจุบันอยู่ในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ไปเจรจากับพี่ชายอย่าง “โกมล จึงรุ่งเรืองกิจ” ประธานกรรมการบริษัท ซัมมิทฟุตแวร์ จำกัด ให้ช่วยเป็นสปอนเซอร์ให้ จนประชาชนชาวไทยได้มีโอกาสรับชมมหกรรมฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปกันแบบสดๆได้ทันเวลา และสร้างกระแสเพลงฮิตติดปาก จนทำให้ทุกคนอยากสวมใส่รองเท้าแอร์โรซอฟต์กันทั้งประเทศ
เวลานี้เสียงเรียกหา “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” กลับมาดังอีกครั้ง แต่ก็ไม่รู้ว่าท่านสุริยะจะว่ายังไงครั้งนี้ แต่บอกเลยว่าถ้าท่านจะสร้างกระแสให้กระหึ่มอีกครั้ง ก็นับว่าเป้นโอกาสอันเหมาะเหม็งเลยทีเดียวสำหรับในช่วงนี้ ถ้า บก.ชวนคุยได้มีโอกาสเจอะเจอท่าน แล้วจะถามไถ่มาเป็นคำตอบให้กับพี่น้องชาวไทยทุกท่านนะครับผม
เรื่องที่ 1,505 ใกล้สิ้นสุดโครงการคนละครึ่งระยะที่ 5 หรือเฟส5 ของกระทรวงการคลัง ในวันที่ 31 ต.ค.นี้ ล่าสุดมีผู้ใช้สิทธิ 24.02 ล้านคน และมียอดใช้จ่ายรวม 35,557.71 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่าย 18,104.84 ล้านบาท และเงินที่รัฐร่วมจ่าย 17,452.87 ล้านบาท สำหรับยอดใช้จ่ายสะสมแบ่งตามประเภทร้านค้าได้แก่ ร้านอาหารและเครื่องดื่ม 14,873.94 ล้านบาท ร้านธงฟ้า 7,166.16 ล้านบาท ร้าน OTOP 1,698.96 ล้านบาท ร้านค้าทั่วไป 11,200.72 ล้านบาท ร้านบริการ 572.60 ล้านบาท และกิจการขนส่งสาธารณะ 45.33 ล้านบาท สำหรับผู้ประกอบการร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 มีผู้ประกอบการร้านค้าเข้าร่วมแล้วจำนวน 969,000 ราย โดยเป็นผู้ประกอบการรายใหม่ 23,100 ราย
ส่วนโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือมีชื่อใหม่ว่า “โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ” ปี 2565 ตั้งแต่วันที่ 5 ก.ย. – 25 ต.ค.2565 ณ เวลา 09.00 น. มีประชาชนลงทะเบียนแล้วทั้งสิ้น 21,997,577 ราย โดยเป็นการลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ 9,763,514 ราย และลงทะเบียนผ่านหน่วยงานรับลงทะเบียน 12,234,063 ราย เห็นตัวเลขแล้ว ตกใจเหมือนกัน เพราะโครงการแรก เมื่อ 3 ปีที่แล้ว คนจนแห่ลงทะเบียนเพียง 17 ล้านคน คัดกรองและตัดตัวแล้ว เหลือเพียง 14 ล้านคน รอบนี้ ตัวเลขทะลุไปถึง 21 ล้านคน ตัดตัวและคัดกรองแล้ว ผลลัพธ์ออกมาเป็นอย่างไร เดาไม่ออกจริงๆ ครับ
เรื่องที่ 1,506 ล่าสุดธนาคารกรุงไทยออกผลิตภัณฑ์ใหม่คือ สินเชื่อฟื้นฟูเพื่อการปรับตัว เพิ่มความคล่องตัวให้ผู้ประกอบการ ด้วยวงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 150 ล้านบาท ระยะเวลาผ่อนชำระสูงสุด 7 ปี อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 2% ต่อปี ใน 2 ปีแรก โดยยกเว้นดอกเบี้ยใน 6 เดือนแรก (รัฐบาลรับภาระดอกเบี้ยให้ในช่วง 6 เดือนแรก) ส่วนปีที่ 3-5 อัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 5% ต่อปี และตั้งแต่ปีที่ 6 เป็นต้นไป อัตราดอกเบี้ย MLR เปิดกว้างใช้หลักประกันได้ทั้งอสังหาริมทรัพย์ เงินฝาก และการค้ำประกันจากบรรษัทค้ำประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) โดยเกณฑ์การพิจารณาวงเงินสินเชื่อ คุณสมบัติผู้กู้และเงื่อนไข ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของธนาคาร และประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย
โดยนพวัชร์