ทรัมป์รู้สึกเป็นเกียรติที่จะพบคิมจองอึน
ประธานาธฺบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ กล่าวว่า เขารู้สึกเป็นเกียรติหากจะได้พบกับประธานาธิบดีคิมจองอึนของเกาหลีเหนือในสถานการณ์ที่เหมาะสม
“หากจะมีโอกาสอันเหมาะสมที่เราได้พบกัน แน่นอนที่สุดว่าผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่จะได้ทำเช่นนั้น” ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวกับสำนักข่าวบลูมเบิร์กเมื่อวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้ ในวันที่ 30 เม.ย. ประธานาธิบดีทรัมป์ยังได้เอ่ยชมผู้นำเกาหลีเหนือว่า เป็นคนที่มีปฏิภาณไหวพริบที่ดี โดยความเห็นของเขามีขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในประเด็นการสะสมและทดลองอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ
โดยทางทำเนียบขาวได้ออกแถลงการณ์หลังจากความเห็นของประธานาธิบดีทรัมป์ว่า เกาหลีเหนืออาจต้องพบกับเงื่อนไขหลายข้อก่อนที่จะมีการประชุมร่วมกันระหว่างผู้นำทั้งสองประเทศ
นายฌอน สไปเซอร์ กล่าวว่า ทางวอชิงตันต้องการเห็นเกาหลีเหนือยุติบทบาทท่าทีที่ก้าวร้าวลงในทันที “ สภาพที่ชัดเจนยังไม่ปรากฎที่นั่นตอนนี้” เขาเสริม
ในการให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ซีบีเอสเมื่อวันที่ 30 เม.ย. ประธานาธิบดีทรัมป์ชี้ว่าประธานาธิบดีคิม
มีอำนาจตั้งแต่อายุยังน้อย และยังต้องบริหารจัดการกับคนรอบข้างที่เขี้ยวลากดินมากมาย เขากล่าว่า เขาไม่รู้เลยจริงๆ ว่าประธานาธิบดีคิมยังมีสติดีครบถ้วน
ทั้งนี้ ผู้นำเกาหลีเหนือสั่งประหารผู้เป็นลุงไปเมื่อ 2 ปีก่อนหลังจากเขาขึ้นสู่อำนาจ และถูกตั้งข้อสงสัยว่า เขามีส่วนในการออกคำสั่งสังหารนายคิมจองนัมพี่ชายต่างมารดาในมาเลเซีย
ความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีเพิ่มขึ้น เนื่องจากทั้งเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้มีการทดสอบกำลังทางทหาร
ทางสหรัฐฯได้ส่งกำลังทหารไปยังภูมิภาคนี้และเริ่มเข้ามาติดตั้งระบบ THAAD ในเกาหลีใต้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
เมื่อวันที่ 30 เม.ย. มีรายงานข่าวจากสำนักข่าว KCNA ซึ่งเป็นกระบอกเสียงของรัฐบาลเกาหลีเหนือว่า ขอให้สหรัฐฯพิจารณาทบทวนถึงหายนะที่จะตามมาจากการยั่วยุทางกำลังของกองทัพ
ทั้งนี้ ทางเกาหลีเหนือทำการทดสอบขีปนาวุธอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาและยังคงทำการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์เป็นครั้งที่ 6
ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวกับทางสถานี CBS ว่า สหรัฐฯจะไม่ดีใจเลยหากยังมีการทดสอบอาวุธต่อไป เมื่อถูกถามว่านี่เป็นท่าทีของกองทัพ ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวว่า “ ผมไม่รู้ ผมหมายถึงว่า เราจะได้เห็นกันต่อไป”