ออสเตรเลียเตือนระบาดอีก หลังติดเชื้อเพิ่ม
เมื่อวันที่ 16 พ.ย. รัฐเซาธ์ออสเตรเลียรายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 14 ราย เป็นสถานการณ์การติดเชื้ออย่างรวดเร็วในรัฐนี้ หลังจากเริ่มเกิดการแพร่ระบาดขึ้นครั้งแรกในเดือนเม.ย. ทำให้ทางการต้องคุมเข้มมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคมยิ่งขึ้น
คลัสเตอร์ติดเชื้อใหม่ที่ผุดขึ้นในรัฐนี้ ทำให้ทางการท้องถิ่นในรัฐอื่นๆของออสเตรเลียต้องมีมาตรการกักตัวที่เข้มงวดขึ้นกับผู้ที่เดินทางมาจากรัฐเซาธ์ออสเตรเลีย
ทางการรัฐเซาธ์ออสเตรเลียรายงานผู้ติดเชื้อโควิด -19 ในพื้นที่ 3 รายเมื่อวันที่ 14 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยระบุว่า การระบาดเกิดจากแรงงานคนหนึ่งในโรงแรมที่กักตัวสมาชิกครอบครัวที่ติดเชื้อ จนถึงวันที่ 16 พ.ย.ยอดผู้ติดเชื้อพุ่งขึ้นเป็น 17 ราย
“เรากำลังเผชิญกับบททดสอบครั้งใหญ่ที่สุด” มุขมนตรีรัฐเซาธ์ออสเตรเลีย สตีเวน มาร์แชลระบุ โดยเขาประกาศมาตรการรักษาระยะห่างครั้งใหม่ และคุมเข้มร้านอาหาร คาเฟ่และยิม
“เรากำลังทำงานแข่งกับเวลาเพื่อให้ทันกับคลัสเตอร์ เราไม่อาจรอให้สถานการณ์แย่ลงกว่านี้”
โดยเขาได้สั่งปิดยิม สถานบันเทิง ศูนย์กีฬาและคาเฟ่ในสถานที่ออกกำลังกาย จำกัดจำนวนผู้ร่วมงานศพไว้ไม่เกิน 50 คน ขณะที่กำหนดให้ผู้เข้าร่วมพิธีกรรมในโบสถ์ไม่เกิน 100 คน ขณะที่ผับ และร้านอาหารต้องจำกัดจำนวนลูกค้าไว้ไม่เกิน 100 คนต่อสถานที่จัดงาน
มาร์แชลยังได้แนะนำให้ประชาชนทำงานจากที่บ้าน หลีกเลี่ยงการเดินทางที่ไม่จำเป็น และสวมหน้ากากอนามัยในสถานที่ซึ่งไม่สามารถรักษาระยะห่างทางสังคมได้
เขาเสริมว่า จะมีการเปลี่ยนเส้นทางบินของเที่ยวบินระหว่างประเทศเพื่อเลี่ยงเมืองแอดิเลดอย่างน้อยคือตลอดสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ ออสเตรเลียไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ในประเทศนานหลายวันตั้งแต่รัฐวิกตอเรียยุติมาตรการล็อกดาวน์เพื่อสกัดการระบาดของโควิด-19 ตั้งแต่ต้นเดือนนี้
โดยรัฐวิกตอเรียมียอดผู้ติดเชื้อประมาณ 28,000 รายในออสเตรเลีย และมีผู้เสียชีวิตกว่า 900 ราย
นายกรัฐมนตรีสก็อต มอร์ริสันระบุว่า การแพร่ระบาดครั้งล่าสุดเป็น “ เหมือนการย้ำเตือน แม้ว่าหลังจากล็อกดาวน์ หรือหลังจากทุกอย่างที่เกิดขึ้นในตอนนี้ ไวรัสก็ไม่จากไปไหน”
รมว.สาธารณสุขส่วนกลาง เกร็ก ฮันต์ระบุว่า เขาได้เสนอให้มีระบบติดตามตัวและปกป้องบุคคลเพื่อช่วยหยุดไวรัสไม่ให้แพร่ระบาดในรัฐเซาธ์ออสเตรเลีย
โดยรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ทัสมาเนีย ควีนสแลนด์และนอร์เทิร์นเทริทอรีประกาศมาตรการกักตัวผู้ที่เดินทางมาจากรัฐเซาธ์ออสเตรเลีย
ขณะที่รัฐนิวเซาธ์เวลส ที่มีประชากรอาศัยอยู่มากที่สุดในออสเตรเลีย ยังไม่ได้ประกาศการเปลี่ยนแปลงมาตรการควบคุมพรมแดนระหว่างรัฐ
ออสเตรเลียระบุว่า จะใช้งบประมาณจำนวน 1,000 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลียในการก่อสร้างโรงงานผลิตวัคซีนโควิด-19 ภายใต้ดีลกับบริษัทย่อยของบริษัทชีวการแพทย์ยักษ์ใหญ่ CSL