สรุปข่าว 18-10-63
ส่องหุ้นไทย : แนวโน้มตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้า (19-22 ต.ค.) จะมีวันหยุดต่อเนื่อง 3 วันสุดท้าย นักวิเคราะห์ประเมินตรงกันคือ ยังต้องเผชิญกับแรงกดดันทางการเมืองในประเทศ โดยเฉพาะการชุมนุมที่มีลักษณะดาวกระจายและอาจจะมีความยืดเยื้อ สถานการณ์ดังกล่าวอาจจะกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
ขณะที่ ปัจจัยต่างประเทศก็ยังไม่มีความชัดเจน ทั้งในส่วนของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหมี่ของสหรัฐ และความคืบหน้าการพัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19 ซึ่งหากโควิด-19 กลับมาระบาดรอบใหม่ จะทำให้หลายเมืองในยุโรปต้องล็อกดาวน์ โดยมองแนวรับดัชนีหุ้นไทยอยู่ที่ 1,200 จุด และแนวต้านที่ 1,250 จุด.
น้ำมันขยับลงอีก : ความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ล่าสุด ปิดตลาดเมื่อวันที่ 17 ต.ค. พบว่า ราคาน้ำมับดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ซื้อขายล่วงหน้า งวดส่งมอบเดือน พ.ย. ปิดลดลงเล็กน้อย 0.19 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล (-0.46%) มาอยู่ที่ระดับ 40.77 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ งวดส่งมอบเดือน ธ.ค. ปิดตลาดลดลง 0.35 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล (-0.81%) ที่ระดับ 42.81 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล.
ราคาทองหดตัว : ราคาทองคำ Spot ดอลลาร์สหรัฐ ปิดตลาดเมื่อ 17 ต.ค.ยังคงปรับตัวลดลง 8.52 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (-0.45%) ปิดที่ 1,900.217 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ด้านสมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาทองคำเพียงครั้งเดียว ซึ่งเป็นราคาเพิ่มจากวันก่อน 100 บาท โดยทองคำแท่งรับซื้อที่ 27,950 บาท ขาย 28,050 บาท ขณะที่ทองรูปพรรณ รับซื้อที่ 27,439.60 บาท และขายที่ 28,550 บาท.
บาทสัปดาห์หน้า : แบงก์กสิกรไทย ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาท สำหรับสัปดาห์ถัดไป ช่วง 19-23 ต.ค. ที่ 31.00-31.50 บาท/ดอลลาร์ฯ ทั้งนี้ ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม คือ สถานการณ์ทางการเมืองในประเทศ ข้อมูลการส่งออกของไทยเดือน ก.ย. ส่วนต่างประเทศ ต้องจับตาดูที่การ “ดีเบต” รอบสุดท้ายของคู่ชิง ปธน. รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และประเด็นข้อตกลง BREXIT
ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญระหว่างสัปดาห์ ได้แก่ ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือน ต.ค. การเริ่มสร้างบ้าน ยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ย. และรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ (Beige Book) ของเฟด นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามดัชนี PMI ภาคการผลิตและบริการเบื้องต้นเดือนต.ค. ของสหรัฐฯ ยูโรโซน และญี่ปุ่น รวมถึงข้อมูลเศรษฐกิจจีน โดยเฉพาะตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3/63 ยอดค้าปลีก การผลิตภาคอุตสาหกรรม และการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรเดือน ก.ย.นี้.
กระจายดาว : การชุมนุม 17 ต.ค. กลุ่มผู้ชุมนุมนัดหมายกระจายตัวไปยัง 3 พื้นที่หลัก “แยกลาดพร้าว-อุดมสุข-วงเวียนใหญ่” โดยการชุมนุมยังอยู่ในความสงบ มีการร้องเพลงชาติ ชูสัญลักษณ์ 3 นิ้ว ตะโกนด่ารัฐบาล ด่าตำรวจ ไล่นายกฯออกไป จากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมกระจายตัวไปยังพื้นที่ใกล้เคียง ก่อนบางส่วนจะประกาศยุติการชุมนุมในช่วงค่ำ เพื่อนัดหมายในวันใหม่ ขณะที่บางส่วนเดินเท้าไปแยกบ้านแขก เพราะมีการปิดจราจรจากถนนประชาธิปกมุ่งหน้าวงเวียนใหญ่ก็ กระทั่งช่วงดึกเดินเท้ากลับไปที่แยกตากสินแล้ว โดยกลุ่มคณะราษฎรเข้ามาเจรจา เพื่อให้สลายตัว เพราะกลัวถูกใช้เป็นเครื่องมือของรัฐบาล.
ย้อนกลับ : อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โพสต์เฟซบุ๊ก เตือนความจำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สมัยเป็น ผบ.ทบ. เมื่อ 6 ปีก่อน ที่ถามตนว่า “จะประคองรัฐบาลต่อไปได้ไหม” หลังมีม็อบ กปปส. และตนได้ยุบสภาฯ เปิดทางเลือกตั้งใหม่ วันนี้ เหตุการณ์เกิดขึ้นคล้ายกัน ผู้ชุมนุมต้องการให้ พล.อ.ประยุทธ์ ลาออกและแก้รัฐธรรมนูญ ทำให้ตนถึงวันวาน ก่อนย้ำว่า “หวังว่าวันนี้ท่านจำได้แล้วเลือกที่จะตัดสินใจโดยเร็ว เพื่อบ้านเมืองจะได้สงบและเดินต่อไปได้ค่ะ”.
ไม่ใช่แกนนำ : เพจคณะก้าวหน้านำภาพ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่เข้าร่วมชุมนุมย่านห้าแยกลาดพร้าว โดยระบุว่า ขอออกมาร่วมแสดงพลัง ยืนเคียงข้างกับนักเรียน นักศึกษาและประชาชน ไม่ใช่ในฐานะแกนนำ แต่ในฐานะพลเมืองที่ห่วงใยอนาคตของบ้านเมือง จากนั้น นายธนาธร โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุตอนหนึ่งว่า ข้อเสนอของการชุมนุมฯ ที่เรียกร้องประชาธิปไตยและปฏิรูปสถาบันฯไปพร้อมกันป็นข้อเรียกร้องที่สมเหตุสมผล และเหมาะสมกับกาลเวลา และย้ำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องออกไป เพราะหมดความชอบธรรมที่แล้ว.
จับไมค์แล้ว : จนท.ตำรวจนอกเครื่องแบบ จับกุม “ไมค์” หรือนายภาณุพงศ์ จาดนอก แกนนำม็อบราษฎร วัย 24 ปี เมื่อช่องค่ำ 17 ต.ค. บริเวณซอยรามคำแหง 26 ใกล้สถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์ รามคำแหง ตามหมายจับของศาลแขวงปทุมวัน แล้วควบคุมตัวไปที่ สน.หัวหมาก ก่อนหน้านี้ ตำรวจได้ออกหมายจับ 5 แกนนำม็อบคณะราษฎร ซึ่งในนั้น มี นายทศพร เสรีรักษ์ อายุ 59 ปี และ “ไมค์” รวมอยู่ด้วย ในความผิดฐานฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ.
ม็อบเปลี่ยนไป : นายไพศาล พืชมงคล โพสต์เฟซบุ๊กถึงการใช้รถฉีดน้ำแรงดันสูงและแก๊สน้ำตาใส่กลุ่มผู้ชุมนุม เมื่อ16 ต.ค. ชี้นักกลยุทธ์จีนสรุปว่าเป็นม็อบที่ไม่ต้องการยึดพื้นที่ ไม่ต้องการปะทะ ที่ต้องการคือ ภาพประชาชนถูกรังแกทำร้าย เคลื่อนไหวดุจดั่งน้ำ ดันมาทางหนึ่งก็ไปอีกทางหนึ่ง ไม่มีการปะทะ แต่จะสั่งสมและขยายปริมาณขึ้นอย่างรวดเร็ว มีหลักการเคลื่อนไหว คือ “เอ็งมาข้าหยุด เอ็งรุด ข้าถอย เอ็งต่อย ข้าหนี พรุ่งนี้ ข้ามา ใครมีปัญญาแก้ปัญหาม็อบนี้” และว่า “ความรุนแรง คือขั้นตอนสุดท้ายของการสิ้นสุดความรุนแรง”.
ผิด 10 ข้อ : นายสมชัย ศรีสุทธิยากร โพสต์เฟซบุ๊กตอบพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ระบุ “ผมทำผิดอะไร” โดยชี้ว่า “ผิด 10 ข้อ” คือ เป็น หน.คสช.ครองอำนาจ 5 ปี, สร้าง รธน.สืบทอดอำนาจ, ร่วมนักการเมืองมีประวัติทุจริต, แทรกแซงองค์กรอิสระ, กล่าวคำปฏิญาณตนต่อหน้าพระมหากษัตริย์ไม่ครบถ้วนและไม่รับผิด, ใช้งบประมาณแผ่นดิน หาเสียง ไม่คำนึงถึงฐานะเศรษฐกิจ, บริหารราชการแผ่นดินล้มเหลว, ขาดความจริงใจในการปกครองระบอบปชต., ขาดวุฒิภาวะ และใช้กำลังรุนแรงในการสลายการชุมนุมที่สงบ.
เลิกหนุน ผดก. : นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ปธ.คกก.ญาติวีรชนพฤษภา 2535 ออกแถลงการณ์โจมตีรัฐบาลที่สั่งให้มีการสลายการชุมนุมฯ เมื่อ 16 ต.ค. และว่า นี่คือการประกาศถึงท่าที ความคิด ลุแก่อำนาจ เปิดเผยธาตุแท้ความเป็นเผด็จการ ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่จะเป็นปฏิปักษ์กับอนาคตอันศิวิไลซ์ของประเทศ พร้อมเรียกร้องให้ หน.พรรค ปชป.และภูมิใจไทย เคารพต่อเสียงของประชาชนและแสดงออกซึ่งจิตวิญญาณ ปชต. เสียสละ ถอนตัวจากการค้ำอำนาจ เผด็จการโดยพลัน เพื่อมาร่วมกันหาทางออกให้กับชาติบ้านเมืองด้วยวิธีสันติต่อไป.
สู้ไข้หวัดใหญ่ : นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รษก.อธิบดีกรมควบคุมโรค ระบุถึงรายงานของกรมอุตุนิยมวิทยา ที่ว่า เกือบทุกพื้นที่ของไทยยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง บางพื้นที่อุณหภูมิลดลงในตอนเช้า จนร่างกายปรับตัวไม่ทัน อาจทำให้พบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่เพิ่มขึ้น โดยขอให้ประชาชนดูแลสุขภาพ โดยเฉพาะกลุ่มเด็กเล็กและเด็กวัยเรียนที่มีการรวมกลุ่มกันเป็นจำนวนมากในสถานศึกษา ด้วยการสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ล้างมือบ่อยๆ เว้นระยะห่าง แยกของใช้และหลีกเลี่ยงสถานที่แออัด.
BTS วิ่งปกติ : บมจ.บีทีเอส กรุ๊ปฯ อ้างตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินฯ ในพื้นที่กรุงเทพฯ ระบุว่า ขณะนี้สถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ จึงสั่งยกเลิกห้ามการใช้เส้นทางคมนาคม อาคาร หรือสถานที่ต่างๆ โดยบริษัทฯ ขอแจ้งว่า รถไฟฟ้าบีทีเอสจะเปิดให้บริการเดินรถไฟฟ้าได้ตามปกติ ในทุกสถานี ทั้งสายสุขุมวิท และสายสีลม ตั้งแต่เวลา 20.30 น. เป็นต้นไป สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บีทีเอส โทรศัพท์ 0 2 – 617- 6000 Line official : @btsskytrain หรือเช็กสถานะการเดินรถได้ที่ Application ‘BTS SkyTrain’ และ Facebook Page : รถไฟฟ้าบีทีเอส.