เยอรมนีเลี่ยงล็อกดาวน์รับมือระบาดรอบสอง
นายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิลแห่งเยอรมนีให้คำมั่นที่จะหลีกเลี่ยงใช้มาตรการล็อกดาวน์ทั้งประเทศ หลังจากมีตัวเลขผู้ติดเชื้อพุ่งขึ้นอีกครั้งอย่างน่ากังวลในเยอรมนี
เหมือนกับประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆในยุโรป เยอรมนีไม่ได้เตรียมพร้อมที่จะรับมือกับการระบาดของโควิด-19 ในระลอกสอง หลังจากเริ่มมีการคลายล็อกและเปิดทำการธุรกิจอีกครั้งในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม จนถึงตอนนี้ เยอรมนียังไม่มีตัวเลขผู้ติดเชื้อที่พุ่งทะยานขึ้นอย่างรวดเร็วเหมือนในฝรั่งเศส สเปนและสหราชอาณาจักร
ขณะที่สหราชอาณาจักรรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ถึง 7,143 ราย และผู้เสียชีวิต 71 รายจากโควิด-19 ในวันที่ 29 ก.ย. กระทรวงสาธารณสุขเยอรมนีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,089 ราย และมีผู้เสียชีวิต 11 ราย
โดยเยอรมนีไม่ตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายเหมือนการระบาดระลอกแรกเมื่อเทียบกับเพื่อนบ้าน สามารถจำกัดจำนวนผู้เสียชีวิตได้ คือยังต่ำกว่า 10,000 ราย ห่างไกลมากกับสหราชอาณาจักร อิตาลี ฝรั่งเศส และสเปน แต่รัฐบาลไม่พอใจเกี่ยวกับการระบาดระลอกสอง
“ เราต้องรับมือเป็นพื้นที่ อย่างเฉพาะเจาะจง และกำหนดเป้าหมาย มากกว่าที่จะชัทดาวน์ทั้งประเทศอีกครั้ง ซึ่งจะเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายไปทั้งหมด” นายกฯ แมร์เคิลกล่าวในการแถลงข่าววันที่ 29 ก.ย.หลังพบกับผู้นำท้องถิ่น
“เราเรียนรู้มามาก และทำได้ดีมาตลอดช่วงฤดูร้อน” แมร์เคิลระบุ แต่เธอเตือนว่า จำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นก่อนหน้าช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวกำลังเป็นปัญหา
เธอเตือนว่า จากอัตราการติดเชื้อในปัจจุบัน เยอรมนีอาจมีผู้ติดเชื้อกว่า 19,000 รายต่อวันภายในสิ้นปีนี้ในวันที่เธอประกาศมาตรการคุมเข้มรอบใหม่ และเน้นย้ำมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคมและการรักษาสุขอนามัยส่วนบุคคล รวมถึงระบบตรวจหาเชื้อไวรัสและติดตามสอบสวนโรคที่เข้มงวดขึ้นทั่วประเทศ
“ยุทธศาสตร์สำคัญคือการคงอัตราการติดเชื้อให้ต่ำเพื่อทำให้การสอบสวนโรคยังคงขับเคลื่อนไปได้ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญหากยังคงเปิดโรงเรียนและธุรกิจอยู่” เกร็ก ฟูเซซี นักเศรษฐศาสต์ในพื้นที่ยูโรประจำ JPMorgan ระบุเมื่อวันที่ 29 ก.ย.ที่ผ่านมา
เขาย้ำว่า ยุทธศาสตร์มี 3 ปัจจัยหลักคือ การมุ่งเน้นที่สุขอนามัยที่มีอยู่และการรักษาระยะห่าง ระบบการตรวจหาเชื้อและติดตามสอบสวนโรค และการเพิ่มประสิทธิภาพของยุทธศาสตร์ในจุดศูนย์กลางการแพร่ระบาด
นอกจากนี้ หลายภูมิภาคจำกัดจำนวนคนในงานเลี้ยงไว้ที่ 50 คน หากมีอัตราการติดเชื้อเกิน 35 คนต่อประชากร 100,000 คนในรอบ 7 วัน หากอัตราการติดเชื้อเกิน 50 คนต่อประชากร 100,000 คน ก็จะจำกัดจำนวนคนที่มาพบปะกันเหลือเพียง 25 คน และมีโทษปรับ 50 ยูโร สำหรับผู้ที่ให้ข้อมูลการติดต่อที่เป็นเท็จ นอกจากนี้ ยังกำหนดให้มีระบบการติดตามโรคที่ร้านอาหารและสถานที่ในอาคารต่างๆ