เกาหลีใต้ประท้วงเป็นสัปดาห์ที่ 4
ประชาชนหลายแสนคนมาชุมนุมประท้วงในกรุงโซลต่อเนื่องกันเป็นสัปดาห์ที่ 4 เพื่อเรียกร้องให้ประธานาธิบดีพัค กึน ฮเย ลาออกจากตำแหน่งผู้นำประเทศ
โดยผู้ประท้วงจำนวนมากต่างตะโกนว่า “ พัค กึน ฮเย ลาออก ” และชูเทียนโบกไปมาเหนือศีรษะ
ประธานาธิบดีพัคถูกกล่าวหาว่าเป็นหุ่นเชิดของนางสาวชเว ซุน ซิลเพื่อนสนิท ที่เป็นผู้ใช้อำนาจในการบริหารจัดการประเทศอยู่เบื้องหลัง
ประธานาธิบดีพัคได้กล่าวขอโทษประชาชนทางโทรทัศน์ถึง 2 ครั้งแล้ว แต่จนกระทั่งถึงตอนนี้ ผู้ประท้วงก็ยังยืนยันที่จะให้ผู้นำประเทศเกาหลีใต้ลาออก เนื่องจากไม่มีความสง่างามที่จะอยู่ในตำแหน่งผู้นำประเทศอีกต่อไป
การชุมนุมประท้วงในกรุงโซล ของเกาหลีใต้ครั้งนี้ นับเป็นการประท้วงครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่มีการประท้วงสนับสนุนประชาธิบไตยตั้งแต่ยุคทศวรรษ 1980 เป็นต้นมา
ทางผู้ประสานงานการชุมนุมประท้วงรายงานว่า มีประชาชนถึง 500,000 คนที่เข้าร่วมในการจุดเทียนในกรุงโซลในสุดสัปดาห์นี้ ซึ่งจะทำให้เป็นการประท้วงต่อเนื่องบนท้องถนนเป็นสัปดาห์ที่ 4 แล้วในวันที่ 19 พ.ย. แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจประเมินจำนวนผู้ชุมนุมไว้ต่ำกว่านั้น
นายลี วอน ชอล วัย 48 ปี ผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีให้สัมภาษณ์สำนักข่าวเอเอฟพีว่า “ เธอเป็นอาชญากร เราจะปล่อยให้อาชญากรเป็นประธานาธิบดีได้ยังไง เธอต้องออกจากตำแหน่ง ”
ทั้งนี้ ความนิยมในตัวประธานาธิบดีพัคลดฮวบลงเหลือเพียง 5% ซึ่งเป็นตัวเลขความนิยมต่ำสุดสำหรับประธานาธิบดีที่ยังอยู่ในตำแหน่ง
โดยผู้นำเกาหลีใต้ได้กล่าวขอโทษประชาชนทางโทรทัศน์อีกเป็นครั้งที่ 2 เมื่อต้นเดือนพ.ย.นี้ เพื่อสร้างเสริมศรัทธาในความสัมพันธ์ที่ประชาชนมีต่อเธอให้กลับคืนมาดังเดิม และให้คำมั่นว่าจะให้ความร่วมมือกับการสืบสวนอย่างเป็นทางการกับข่าวฉาวที่เกิดขึ้น
ทีมอัยการเกาหลีใต้คาดการณ์ว่า จะสามารถตั้งข้อหานางสาวชเว พร้อมกับอดีตผู้ทำงานช่วยเหลือประธานาธิบดีอีก 2 คนในวันที่ 20 เม.ย. โดยนางสาวชเวถูกจับกุมตั้งแต่เมื่อต้นเดือนพ.ย.นี้
นางสาวชเว เพื่อนสนิทของประธานาธิบดีพัคถูกกล่าวหาว่าพยายามที่จะเรียกร้องเงินจำนวนมากจากบริษัทใหญ่ในเกาหลีใต้ และถูกสงสัยว่าใช้ความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับประธานาธิบดีพัคในการบังคับให้ผู้ประกอบธุรกิจหลายรายต้องบริจาคเงินให้กับมูลนิธิที่ไม่แสวงหาผลกำไรที่เธอควบคุมอยู่.