“โตโยต้า – อีซูซุ ” 44 รุ่น พร้อมใช้ B20
ธพ.เผย โตโยต้า– อีซูซุ 44 รุ่น เติมน้ำมัน B20 ได้ทันที ส่วนอีซูซุ 12 รุ่นปี 2014 – 2019 ต้องเช็คเครื่องยนต์ก่อนใช้ ด้านโตโยต้า ย้ำ พื้นที่อุณหภูมิต่ำกว่า 20 องศาต้องติดต่อศูนย์เพื่อขอรับคำแนะนำ เตรียมประกาศใช้ B10 เดือนหน้า
นางสาวนันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงาน กับ สมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ประชุมร่วมกันเพื่อส่งเสริมการใช้น้ำมัน B20 สำหรับรถยนต์รุ่นต่าง ๆ ที่สามารถใช้น้ำมัน B20 ได้มี 2 บริษัท ประกอบด้วย บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด รถรุ่น Hilux และ Fortuner รุ่นใหม่ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2015 เป็นต้นไป จำนวน 41 รุ่น (Hilux 37 รุ่น และ Fortuner 4 รุ่น) สามารถใช้ได้โดยไม่มีเงื่อนไข
และ รุ่น Hilux และ Fortuner รุ่นเก่าตั้งแต่เดือนสิงหาคม ค.ศ. 2011 ถึง ค.ศ. 2015 จำนวน 24 รุ่น (Hilux 20 รุ่น และ Fortuner 4 รุ่น) สามารถใช้ได้โดยมีเงื่อนไข ว่า ถ้าหากมีการเติมน้ำมัน B20 บ่อย ๆ และใช้งานในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า 20 องศาเซลเซียส ต้องติดต่อศูนย์จำหน่ายรถโตโยต้า (Authorized Dealer) เพื่อขอรับคำแนะนำ
บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด รถรุ่น D – MAX รุ่นปี 2012 – 2019 จำนวน 20 รุ่น สามารถใช้น้ำมัน B20 ได้ภายใต้คำแนะนำและการตรวจสอบรวมถึ่งการเปลี่ยนชิ้นส่วนเมื่อจำเป็นโดยศูนย์บริการมาตรฐานอีซูซุ 2.2 MU – X รุ่นปี 2014 – 2019 จำนวน 12 รุ่น สามารถใช้น้ำมัน B20 ได้ภายใต้คำแนะนำและการตรวจสอบรวมถึงการเปลี่ยนชิ้นส่วนเมื่อจำเป็นโดยศูนย์บริการมาตรฐานอีซูซุ
นอกจานี้ทางสมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ยังได้เสนอให้กระทรวงพลังงานพิจารณาปรับปรุงมาตรฐานบี 100 โดยเฉพาะเรื่อง ปริมาณโมโนกลีเซอร์ไรด์ จากเดิมร้อยละ 0.7 เป็นไม่เกินร้อยละ 0.4 โดยน้ำหนัก และมาตรฐานน้ำมันดีเซล เรื่องค่าน้ำ (Water Content) จากเดิม 300 ppm เป็นไม่เกิน 200 ppm โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้มอบหมายให้กรมธุรกิจพลังงานดำเนินการหารือกับผู้ผลิตบี 100 และโรงกลั่นและผู้ค้าน้ำมัน ต่อไป
“ในสัปดาห์หน้าจะมีการหารือกับผู้ผลิตบี 100 และโรงกลั่นและผู้ค้าน้ำมัน เพื่อหาข้อสรุป คาดว่าจะสามารถปรับมาตรฐานบี 100 ได้ภายในสิ้นเดือนเมษายนนี้ เพื่อนำไปปรับปรุงมาตรฐานน้ำมัน บี10 ซึ่งคาดว่าจะสามารถประกาศสูตร และจำหน่ายบี 10 ใช้ได้ประมาณต้นเดือนพฤษภาคมนี้” นางสาวนันธิกา กล่าว
ทั้งนี้คาดว่าภายในปีนี้จะมียอดการใช้น้ำมันน้ำมัน B20 ปริมาณ 15 ล้านลิตรต่อวัน และ B7 ที่ 50 ล้านลิตรต่อวัน ตามเป้าหมายที่ได้วางไว้ โดยกรมธุรกิจพลังงานจะเร่งหารือกับผู้จำหน่ายรถยนต์แต่ละค่าย เพื่อผลักดันการใช้น้ำมันดังกล่าว ซึ่งจะสามารถดูดซับ CPO ได้ 2 ล้านตันต่อปี ให้ได้ตามยุทธศาสตร์ปาล์มน้ำมันของประเทศ ปัจจุบันมีสถานีที่จำหน่ายน้ำมัน B20 จำนวน 156 สถานี และ Fleet ที่ใช้ 173 แห่ง โดยในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา มียอด CPO B20 และ B7 อยู่ที่ 124,000 ตัน
ส่วนมาตรการสนับสนุนการใช้น้ำมัน B20ด้วยการอุดหนุนส่วนต่างราคาระหว่างบี20 ให้ถูกกว่าบี7 เป็นลิตรละ 5 บาท จากเดิมที่มีส่วนต่างอยู่ที่ลิตรละ 3 บาท จะสิ้นสุดลงในเดือน พ.ค.นี้ ขณะนี้ยังไม่มีนโยบายขยายเวลาอุดหนุนแต่อย่างไร