ปากีสถานแบนรายการวิทยุ-โทรทัศน์อินเดีย
ปากีสถานสั่งห้ามการออกอากาศรายการของอินเดียทางสถานีวิทยุและโทรทัศน์ทุกช่องและขู่ว่าจะสั่งปิดสถานีที่ไม่เชื่อฟังและฝ่าฝืนคำสั่ง
การสั่งห้ามครั้งนี้ก่อให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ในทันทีจากผู้ประกอบการสถานีเคเบิลและผู้ชมในปากีสถานซึ่งชื่นชอบละครและภาพยนตร์จากอินเดีย
โดยคำสั่งห้ามนี้มีขึ้นหลังจากความสัมพันธ์ที่หมางเมินกันถึงที่สุดระหว่างปากีสถานและอินเดีย
ทั้งนี้ ความตึงเครียดยกระดับเพิ่มขึ้นมากหลังอินเดียเข้าปราบปรามการประท้วงในแคว้นแคชเมียร์ที่เป็นส่วนพื้นที่ยึดครองของอินเดียในเดือนก.ค. ที่ผ่านมา
ความสัมพันธ์ยิ่งเลวร้ายหนักขึ้นในเดือนก.ย. เมื่อกองทัพโจมตีฐานที่มั่นในแคว้นนี้ ซึ่งทำให้ทหารเสียชีวิตมากถึง 18 นาย
อินเดียกล่าวหาปากีสถานที่ยกกำลังทหารมาและมีการฝึกการต่อสู้พื่อจะช่วยประกาศอิสรภาพให้กับแคว้นแคชเมียร์เพื่อให้แยกตัวออกจากอินเดีย หรือไปผนวกรวมกับปากีสถาน โดยปากีสถานปฏิเสธข้อกล่าวหาของอินเดียโดยสิ้นเชิง
การสั่งห้ามรายการทางวิทยุและโทรทัศน์ของปากีสถาน นับเป็นวิธีการตอบโต้ หรือ ‘ หนามยอกเอาหนามบ่ง ’ กับอินเดียหลังจากมีความเข้มงวดในอุตสาหกรรมสื่อของทั้งสองประเทศ
ทั้งนี้ มีการเรียกร้องในอินเดีย หลังจากในแคว้นแคชเมียร์มีการสั่งห้ามดารานักแสดงจากปากีสถานไม่ให้ทำงานในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ขนาดใหญ่ หรือบอลลีวู้ดของอินเดีย
ปากีสถานจึงสั่งห้ามภาพยนตร์จากบอลลีวู้ดและสถานีโทรทัศน์ช่องของอินเดียเป็นการเอาคืน
การสั่งห้ามครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อผู้ชมจำนวนมาก“ ภรรยาผมเศร้ามากตั้งแต่มีการสั่งห้าม ”นายซาลีม อาห์เมด วัย 55 ปี ภัณฑารักษ์ของแกลเลอรีแห่งหนึ่งในเมืองการาจีให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์
นางรูบินา แจน มูฮัมหมัด แม่บ้านวัย 30 ปีโอดครวญว่า “ เราจะมีความบันเทิงอะไรอีกนอกจากละครของอินเดีย เราออกไปนอกบ้านไม่ได้ ครอบครัวของผู้ชายไม่ชอบให้เราออกไปหางานทำข้างนอก ”
มีกรณีพิพาทในแคว้นแคชเมียร์ที่พลเมืองส่วนใหญ่เป็นมุสลิมมานานหลายทศวรรษ และก่อให้เกิดสงครามระหว่างอินเดียและปากีสถานมาถึงสองครั้ง ทั้งสองประเทศต่างก็ยึดครองพื้นที่ของแคว้นแคชเมียร์ไว้คนละส่วน
ทั้งนี้ มีผู้ประท้วงเสียชีวิตไปมากกว่า 80 คน (ซึ่งเกือบทุกคนเป็นผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาล) หลังจากมีการประท้วงกฎข้อบังคับของอินเดียอย่างรุนแรงยาวนานกว่าสองเดือน.