ศก.จีนฟื้นตัวแกร่งต่อเนื่อง
ข้อมูลล่าสุดชี้ว่า ด้วยอานิสงส์จากภาคก่อสร้างที่บูมขึ้นมา ทำให้เศรษฐกิจของจีนฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่องในเดือนก.ค.
ดัชนี Purchasing Managers หรือ PMI อย่างเป็นทางการในเดือนก.ค.อยู่ที่ 51.1 โดยตัวเลขที่มากกว่า 50.0 ชี้ให้เห็นถึงการขยายตัวเติบโตของผลผลิตโรงงาน ตัวเลขนี้ดีกว่าเดือนมิ.ย.ซึ่งอยู่ที่ 50.9 เล็กน้อย และดีกว่าการคาดการณณ์ของนักวิเคราะห์ โดยตัวเลขเฉลี่ยจากผลสำรวจของบลูมเบิร์กอยู่ที่ 50.8
ดัชนี PMI เป็นมาตรวัดความเชื่อมั่น จากผลสำรวจเจ้าของโรงงานและผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ ทำให้เห็นภาพรวมของเศรษฐกิจจีนในเดือนนั้น โดยมีการสอบถามในหลายประเด็น อย่างการจ้างงาน การส่งออก และสินค้าคงคลัง
ในวันเดียวกัน สำนักงานสถิติแห่งชาติยังได้มีการเผยแพร่ข้อมูลดัชนี PMI ที่ไม่ใช่การผลิตอย่างเป็นทางการด้วย โดยตัวเลขอยู่ที่ 54.2 ในเดือนก.ค. ลดลงจาก 54.4 ในเดือนมิ.ย. แต่ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ 54.5 ของนักวิเคราะห์อยู่เล็กน้อยทั้งนี้ มีการสำรวจความเชื่อมั่นในภาคบริการและก่อสร้างด้วย โดยในภาคก่อสร้าง ที่บูมจากการก่อสร้างตึก มีตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นพุ่งขึ้นเป็น 60.5 จากเดิม 59.8 ในเดือนมิ.ย. ขณะที่ภาคบริการลดลงเล็กน้อยคือจากเดิม 53.4 ลดลงมาอยู่ที่ 53.4
ตัวเลขนี้ตรงข้ามกับข้อมูลเศรษฐกิจของประเทศอื่นๆทั่วโลก โดยเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก หดตัวลงมากที่สุดทุบสถิติถึง 32.9% ในไตรมาส 2 ของปีนี้ สหรัฐฯเป็นตลาดใหญ่ที่สุดของสินค้าจีน ความตึงเครียดระหว่างกันทั้งสงครามการค้าและดีมานด์ที่ลดลงมีแนวโน้มจะส่งผลกระทบกับผู้ผลิตของจีน
ดัชนี PMI ทั้งในภาคการผลิตและไม่ใช่ภาคการผลิตของจีนอยู่ในแดนบวกมานาน 5 เดือนต่อเนื่อง หลังจากเคยทรุดตัวในเดือนม.ค. – ก.พ. ที่ตัวเลขอยู่ที่ 35.7 ในภาคการผลิต และ 29.6 ในส่วนที่ไม่ใช่การผลิต
ทั้งนี้ ตัวเลขเศรษฐกิจของจีน หรือจีดีพีฟื้นตัวจากที่เคยหดตัว 6.8% ในไตรมาสแรก กลับมาเติบโต 3.2% ในไตรมาส 2
ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงพยายามจะขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยการบริโภคในประเทศ และการพึ่งพาตนเอง รัฐบาลจะพอใจหากคำสั่งซื้อในประเทศปรับเพิ่มขึ้น คำสั่งซื้อใหม่อยู่ที่ 51.5 สำหรับบริษัทผู้ผลิตในเดือนก.ค. และในส่วนที่ไม่ใช่การผลิตปรับขึ้นเป็น 51.7
“ จากแผนการที่ครอบคลุมการควบคุมการระบาดของไวรัสโคโรนาและนโยบายการพัฒนา สภาพเศรษฐกิจของจีนยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง และการดำเนินธุรกิจปรับดีขึ้น” จ้าวชิงเก นักสถิติอาวุโสที่สำนักงานสถิติแห่งชาติระบุ
จีนเริ่มมีการระบาดของโควิด-19 หลายคลัสเตอร์ในช่วงสัปดาห์นี้ ชี้ให้เห็นว่าการฟื้นตัวยังคงเปราะบาง
นอกจากนี้ ในหลายพื้นที่ของจีนยังเกิดฝนตกหนักน้ำท่วมที่รุนแรงที่สุดในรอบหลายทศวรรษตั้งแต่ต้นเดือนมิ.ย.
เป็นต้นมา ส่งผลกระทบกับ 27 มณฑลของจีน และมีอย่างน้อย 21 มณฑลที่ประกาศเตือนภัยน้ำท่วมที่รุนแรงที่สุด
รัฐบาลมีการประเมินในสัปดาห์นี้ว่าเศรษฐกิจจะถูกกระทบมากถึง 16,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มีผู้อพยพพลัดถิ่นกว่า 2 ล้านคนตามแนวแม่น้ำแยงซี นักวิเคราะห์ยังชี้ว่าภัยพิบัติทางธรรมชาติอาจเป็นปัจจัยลบที่ส่งผลกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของจีน