ผู้นำฮ่องกงเตือนคุมไวรัสระบาดไม่อยู่
ฮ่องกง : เมื่อวันที่ 19 ก.ค. ผู้นำฮ่องกงระบุว่า โควิด-19 กำลังแพร่ระบาดอย่างควบคุมไม่ได้ โดยเธอประกาศตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ทุบสถิติกว่า 100 ราย และสั่งการให้มีมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมใหม่ที่เข้มงวดขึ้น
ฮับการเงินแห่งนี้เป็นสถานที่แรกที่ถูกไวรัสโจมตีหลังไวรัสโคโรนาอุบัติขึ้นเป็นครั้งแรกในอู่ฮั่น เมืองทางตอนกลางของจีน แต่ฮ่องกงประสบความสำเร็จอย่างน่าประทับใจในการรับมือกับไวรัส และยุติการติดเชื้อในชุมชนตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมิ.ย.
อย่างไรก็ตาม ในช่วงสองสัปดาห์ล่าสุด ยอดผู้ติดเชื้อเริ่มพุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง และบรรดาแพทย์กังวลว่าจะเกิดการแพร่ระบาดที่ไม่สามารถตรวจพบได้ในเมืองที่มีประชากรอาศัยอยู่อย่างแออัดถึง 7.5 ล้านคน
เมื่อวันที่ 19 ก.ค. แคร์รี แลม ผู้บริหารสูงสุดฮ่องกงระบุว่า มีการติดเชื้อกว่า 500 รายในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้จำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมของฮ่องกงอยู่ที่ 1,788 ราย และมีผู้เสียชีวิต 12 ราย
เฉพาะวันที่ 19 ก.ค.เพียงวันเดียว มีผู้ติดเชื้อรายใหม่กว่า 100 ราย เป็นสถิติสูงสุดของฮับการเงินแห่งนี้
“ ดิฉันคิดว่าสถานการณ์นี้ร้ายแรงจริงๆ และไม่มีสัญญาณว่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ” แคร์รี แลม ผู้บริหารสูงสุดฮ่องกงกล่าวกับผู้สื่อข่าว
เธอประกาศใช้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมเมื่อสัปดาห์ก่อน ปิดธูรกิจจำนวนมาก ทั้งบาร์ ฟิตเนส และไนท์คลับ และสั่งให้ทุกคนสวมหน้ากากอนามัยในขนส่งสาธารณะ ขณะที่ร้านอาหารต้องให้บริการเฉพาะสั่งกลับบ้านในช่วงเย็น
ในวันที่ 19 ก.ค. แลมประกาศมาตรการใหม่ รวมถึงแผนที่จะบังคับให้ทุกคนสวมหน้ากากอนามัยในสถานที่สาธารณะในร่ม และออกคำสั่งใหม่ให้ข้าราชการในส่วนที่ไม่สำคัญทำงานจากที่บ้าน
เธอเสริมว่า เตียงผู้ป่วยในโรงพยาบาลเริ่มเต็ม ทางการกำลังสร้างสถานที่กักตัวเพิ่มอีก 2,000 ห้องบนพื้นที่ใกล้ดิสนีย์แลนด์รีสอร์ตเพื่อเฝ้าระวังและรักษาผู้ติดเชื้อ
เศรษฐกิจฮ่องกงติดหล่มอยู่ในภาวะถดถอยยิ่งขึ้นในช่วงที่เกิดโรคระบาด เนื่องจากฮ่องกงได้รับผลกระทบอย่างหนักจากสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีนและการประท้วงเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยตลอดครึ่งปีหลังของปี 2562 ที่ผ่านมา โดยการล็อกดาวน์บางพื้นที่รอบใหม่ จะยิ่งทำให้เศรษฐกิจซบเซายิ่งขึ้น
เมื่อวันที่ 19 ก.ค. แลมขอให้บรรดาเจ้าของที่ดินลดค่าเช่าเพื่อช่วยลดภาระบรรดาผู้เช่า
เธอระบุว่า จะมีการออกมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมที่เข้มงวดขึ้นหากตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันไม่ลดลงในช่วงไม่กี่วันข้างหน้า
อย่างไรก็ตาม เธอระบุว่า จะพยายามหลีกเลี่ยงคำสั่งให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้าน “ เราไม่อาจขยับปรับเปลี่ยนอย่างง่ายๆ หรือเข้มงวดสุดๆ เพื่อตัดลดทุกอย่างได้ในคราวเดียว ”
ทางการระบุว่าจะมีการมุ่งตรวจหาเชื้อเพิ่มขึ้น ในกลุ่มประชากรที่มีความเสี่ยงสูง เช่น คนขับรถแท็กซี่ และร้านอาหาร หลังจากพบคลัสเตอร์ผู้ติดเชื้อในกลุ่มคนเหล่านี้
การติดเชื้อรอบใหม่บางส่วนเกิดขึ้นในสถานดูแลผู้สูงวัย ก่อให้เกิดความกังวลว่าไวรัสจะส่งผลกระทบรุนแรงจนถึงแก่ชีวิตกับผู้ป่วยสูงวัย
จนถึงตอนนี้ มีผู้เสียชีวิต 12 รายจากโควิด-19 ในฮ่องกง โดย 4 รายอยู่ในช่วงสองสัปดาห์ล่าสุด
แลมระบุว่า ภาครัฐพยายามจะปรับสมดุลระหว่างการปกป้องสุขภาพประชาชนและขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้รุดหน้า
“เป็นเรื่องยากที่จะบอกว่ามาตรการใดที่เราจะใช้ หลายแห่งสั่งให้ประชาชนอยู่บ้าน”
“ เราไม่ได้ใช้มาตรการเช่นนั้นในช่วง 6 เดือนล่าสุด เพราะเราอยากให้ทุกคนยังคงใช้ชีวิตได้ตามปกติ”