กฟผ.ประชาพิจารณ์ โรงไฟฟ้าน้ำพอง ขอนแก่น
ชาวขอนแก่น พร้อมใจร่วมเวทีรับฟังความคิดเห็น ครั้งที่ 2 โครงการโรงไฟฟ้าน้ำพองทดแทน จ.ขอนแก่น เนื่องจากโรงไฟฟ้าเดิม จะหมดอายุการใช้งานในปี 2568
เมื่อ 11-12 ก.ค.ที่ผ่านมา บริษัท คอนซัลแทนท์ ออฟ เทคโนโลยี จำกัด และ กฟผ. ร่วมประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 2 โครงการโรงไฟฟ้าน้ำพองทดแทน โดยมี นายปานทอง สระคูพันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น นายศุภชัย ลีเขาสูง นายอำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น รวมถึงประชาชนในพื้นที่ หน่วยงานราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชน สถานศึกษา ผู้นำศาสนา องค์กรเอกชนด้านสิ่งแวดล้อม สื่อมวลชน ตลอดจนประชาชนทั่วไป สนใจเข้าร่วมรับฟังความคิดเห็น
นายปานทอง สระคูพันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า ปัจจุบันไฟฟ้าเป็นพลังงานที่สำคัญกับชีวิตของมนุษย์ หากไม่มีไฟฟ้าใช้จะทำให้มนุษย์ขาดแสงสว่างรวมถึงไม่สามารถใช้เครื่องอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ได้ โรงไฟฟ้าน้ำพองเดิมจะหมดอายุการใช้งานจึงต้องถูกปลดออกจากระบบในปี 2568 กฟผ. จึงได้เตรียมก่อสร้างโครงการเพื่อทดแทนโรงไฟฟ้าน้ำพองเดิม ในพื้นที่โรงไฟฟ้าปัจจุบัน ซึ่งใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยยิ่งขึ้น ทำให้ประชาชนได้มีไฟฟ้าใช้เพื่อประโยชน์ในด้านต่างๆ รวมถึงการพัฒนาประเทศ ช่วยลดการนำเข้าพลังงานไฟฟ้าจากต่างประเทศ
ทั้งนี้ ขอขอบคุณ กฟผ. ที่ได้เปิดเวทีรับฟังเสียงประชาชนในพื้นที่และประชาชนที่สนใจได้มาร่วมแสดงความคิดเห็น และข้อห่วงกังวลต่อผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น หวังว่าประชาชนที่เข้ารับฟังการประชุมในครั้งนี้จะร่วมกันสะท้อนความคิดเห็นให้ครบถ้วนทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านสิ่งแวดล้อม และด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นประโยชน์ต่อชาวขอนแก่นมากที่สุด
ด้านนางสาวดวงกมล พรหมสุวรรณ ผู้จัดการโครงการ บริษัท คอลซัลแทนท์ ออฟ เทคโนโลยี จำกัด บริษัทที่ปรึกษา กล่าวว่า การจัดรับฟังความคิดเห็นในครั้งนี้ บริษัทฯ ได้ให้ข้อมูลกับประชาชนและหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง เกี่ยวกับรายละเอียดการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมในทุกมิติ รวมถึงมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมและมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อม พร้อมเปิดให้ประชาชนในพื้นที่
รวมถึงส่วนราชการ ผู้นำท้องถิ่น องค์กรเอกชน สถาบันการศึกษา สื่อมวลชน และประชาชนทั่วไป ได้ร่วมแสดงความคิดเห็นและข้อเสนอแนะในการพัฒนาโครงการให้ครอบคลุมครบถ้วน เพิ่มเติมจากการจัดประชุม รับฟังความคิดเห็นในการกำหนดขอบเขตและแนวทางการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2562
สำหรับสิ่งที่ประชาชนยังมีความกังวล อาทิ การควบคุมผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ในการดูแลแหล่งน้ำ การใช้เชื้อเพลิง การให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อม การจ้างงานท้องถิ่น การพัฒนาด้านสาธารณสุขและการศึกษาในชุมชน และการบริหารงบประมาณกองทุนพัฒนา รอบโรงไฟฟ้า เป็นต้น ซึ่งข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะทั้ง 2 เวทีนี้ จะเป็นประโยชน์ในการพิจารณาจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) โครงการโรงไฟฟ้าน้ำพองทดแทนฉบับสมบูรณ์ เพื่อนำเสนอสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) พิจารณาต่อไป
ด้าน นางศรีวรรณ บูรณโชคไพศาล ผู้ช่วยผู้ว่าการแผนงานโรงไฟฟ้า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวว่า ขอขอบคุณผู้เข้าร่วมประชุมทุกท่านที่สละเวลาอันมีค่ามาร่วมประชุมและร่วมให้ข้อเสนอแนะ รวมถึงข้อคิดเห็นต่างๆ ซึ่ง กฟผ. และบริษัทที่ปรึกษาจะรวบรวมความเห็นของทุกท่าน ไปพิจารณาปรับปรุงร่างรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม และมาตรการด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้องให้มีความสมบูรณ์และครอบคลุมเหมาะสมกับประชาชนในพื้นที่ให้มากที่สุด
สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าน้ำพองทดแทน มีขนาดกำลังผลิตติดตั้งสูงสุด 830 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ ในบริเวณพื้นที่โรงไฟฟ้าน้ำพองปัจจุบัน ต.กุดน้ำใส อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความพร้อมทั้งด้านระบบส่งไฟฟ้าและเชื้อเพลิง ก่อสร้างทดแทนโรงไฟฟ้าน้ำพอง ชุดที่ 1 – 2 ในปัจจุบัน ซึ่งจะถูกปลดออกจากระบบในปี 2568 เนื่องจากหมดอายุการใช้งาน เพื่อรักษาความมั่นคงของระบบไฟฟ้าภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ขาดหายไป และรักษาเสถียรภาพระบบไฟฟ้าในภาพรวมของประเทศ ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงหลัก ตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ พ.ศ. 2561-2580 (PDP2018) โดยโรงไฟฟ้าน้ำพองทดแทน มีกำหนดจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ในปี 2568