บสย. ทุบสถิติ “ค้ำสินเชื่อ” แสนล./5 ด.
บสย. ประกาศความสำเร็จครั้งใหญ่เข้าสู่ 29 ปี ช่วยผู้ประกอบการ SMEs เข้าถึงสินเชื่อ ทุบสถิติอนุมัติค้ำประกันสินเชื่อ เร็วสุด มากสุด 5 เดือน 100,000 ล้านบาท พร้อมจูงมือ “SMEs…เราไม่ทิ้งกัน” ร่วมฝ่าวิกฤต COVID-19 เติมทุน เสริมสภาพคล่อง เผยยังมีวงเงินอีก 40,000 ล้านบาท พร้อมเทหมดหน้าตักเพื่อ SMEs ทุกกลุ่ม
นายรักษ์ วรกิจโภคาทร กก.และผจก.ทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ประกาศความสำเร็จครั้งใหญ่ ช่วยผู้ประกอบการ SMEs เข้าถึงสินเชื่อ โดยสามารถอนุมัติค้ำประกันสินเชื่อ ทะลุ 100,000 ล้านบาทแล้ว โดย 5 เดือนแรกของปี 2563 ทำลายสถิติสูงสุดนับตั้งแต่ก่อตั้ง บสย. 29 ปี ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ที่ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจ และผู้ประกอบการ SMEs อย่างรุนแรง
ทั้งนี้ ปัจจัยความสำเร็จ มาจากการสนับสนุนการทำงานด้านนโยบายของรัฐบาล ได้แก่ 1.นโยบายรัฐบาลและมาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ที่ต่อเนื่อง โดยใช้กลไกค้ำประกันสินเชื่อ บสย. และ 2.มาตรการรัฐบาลในการสนับสนุนงบประมาณที่ช่วยลดต้นทุนธุรกิจ โดยการจ่ายค่าธรรมเนียมค้ำประกันสินเชื่อใน 2 ปีแรกแทนผู้ประกอบการ SMEs และการได้รับการสนับสนุนจากธนาคารพันธมิตร เพื่อเร่งปล่อยสินเชื่อให้กับภาคธุรกิจทุกกลุ่ม
นอกจากนี้ ในรอบ 5 เดือนที่ผ่านมา บสย. ได้ปรับกระบวนการทำงานภายใน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระบวนการในการอนุมัติหนังสือค้ำประกันสินเชื่อที่ปรับให้เร็วขึ้น จากเฉลี่ยวันละ 300 ฉบับ เป็นวันละ 1,400 ฉบับ ซึ่งได้รับความร่วมมือจากธนาคารพันธมิตรอย่างดีเยี่ยมเพื่อให้กระบวนการอนุมัติหนังสือค้ำประกันสินเชื่อ รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ ตอบโจทย์ความต้องการสินเชื่อของผู้ประกอบการ SMEs ที่รอวงเงินเป็นจำนวนมาก
“รัฐบาลและกระทรวงการคลัง ยังได้สนับสนุนให้ บสย. มีการดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อลดผลกระทบการเข้าถึงสินเชื่อของ SMEs โดยมติ ครม. เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2563 เห็นชอบอนุมัติวงเงินในโครงการค้ำประกันสินเชื่อ บสย. SMEs สร้างไทย จำนวน 10,000 ล้านบาท และ บสย. ยังได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการ บสย. เมื่อวันที่ 25พฤษภาคม 2563 ให้ปรับโครงการค้ำประกันสินเชื่อรายสถาบัน ทำให้ บสย. มีวงเงินค้ำประกันสินเชื่ออีกจำนวน 40,000 ล้านบาท ที่พร้อมเทหมดหน้าตัก เพื่อให้ผู้ประกอบการ SMEs ได้เข้าถึงสินเชื่อมากที่สุดทันเวลา ร่วมพยุงตัวฝ่าวิกฤตไปด้วยกัน” นายรักษ์ ระบุ.