ปี 63 คลอดพิมพ์เขียว รถไฟฟ้าดัดแปลง
กฟผ. รับมอบรถยนต์ไฟฟ้า i-EVจาก สวทช. ต้นทุนดัดแปลง 2 แสนบาท ตั้งเป้าปี 2563 สร้างพิมพ์เขียวรถไฟฟ้าดัดแปลงต้นแบบ พร้อมขยายผลเชิงพาณิชย์ต่อไป
นายวิบูลย์ ฤกษ์ศิระทัย ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวภายหลัง เป็นประธาน พิธีรับมอบรถยนต์ไฟฟ้า กฟผ. – สวทช. (i-EV) จาก โครงการวิจัยพัฒนาชุดประกอบรถไฟฟ้าดัดแปลงและคู่มือการดัดแปลง (EV Kit & Blueprint Project) ว่า ในปี 2563 กฟผ. ตั้งเป้าการพัฒนาให้เกิดศูนย์บริการดัดแปลงรถไฟฟ้า และถ่ายทอดเทคโนโลยีพร้อมพิมพ์เขียวให้กับบริษัทรถยนต์และอู่ติดตั้ง เพื่อนำไปขยายผลในเชิงพาณิชย์ให้มีระดับราคาที่ประชาชนเป็นเจ้าของได้
สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า กฟผ. – สวทช. (i-EV) ที่รับมอบนี้เป็นรถยนต์ยี่ห้อ Nissan Almera ซึ่งถือเป็นรถยนต์ไฟฟ้าดัดแปลงต้นแบบคันที่ 1 ในโครงการวิจัยรถยนต์ไฟฟ้าดัดแปลง ระยะที่ 2 จากจำนวนรถยนต์ไฟฟ้าฯ ทั้งหมด 4 คัน หลังประสบผลสำเร็จในการพัฒนารถยนต์ Honda Jazz เป็นรถยนต์ไฟฟ้าดัดแปลงต้นแบบรุ่นแรก จากโครงการวิจัยยานยนต์ไฟฟ้า ระยะที่ 1 และสามารถนำมาใช้งานได้จริงเมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งโครงการวิจัยนี้มุ่งพัฒนาดัดแปลงรถยนต์เก่าที่มีอายุการใช้งานมานานแล้วให้เป็นรถยนต์ไฟฟ้าโดยใช้ชุดอุปกรณ์ดัดแปลง (EV Kit) ซึ่งถูกพัฒนาต้นแบบและกำหนดค่าอัตโนมัติต่างๆ ไว้เรียบร้อยแล้ว ทำให้สามารถดัดแปลงเป็นรถยนต์ไฟฟ้าได้ง่ายขึ้น ใช้เวลาน้อยลง และมีต้นทุนดัดแปลงถูกลงไม่เกินคันละ 2 แสนบาท ไม่รวมแบตเตอรี่ ซึ่งถูกกว่ารถยนต์ไฟฟ้านำเข้าที่ ปัจจุบันยังมีราคาสูงถึงคันละ 3 – 4 ล้านบาท
ด้านนายณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการ สวทช. กล่าวว่า ได้ส่งมอบรถยนต์นิสสัน อัลมีร่า ขนาดเครื่องยนต์ 1200 ซีซี ที่พัฒนาและดัดแปลงให้เป็นรถยนต์ไฟฟ้า มีกำลังส่งออกสูงสุดของมอเตอร์ไฟฟ้าที่ 61.86 กิโลวัตต์ ซึ่งใช้เวลาในการชาร์จแบตเตอรี่จนเต็มประมาณ 12 – 15 ชั่วโมง ณ เครื่องอัดประจุแบบ normal charge หรือที่เราเห็นทั่วไป
อย่างไรก็ตาม เมื่อสิ้นสุดโครงการ จะสามารถอัดประจุแบบเร็ว ด้วยไฟฟ้า 3 เฟส (fast charge) โดยใช้เวลาอัดประจุเพียง 2 – 3 ชั่วโมงเท่านั้น ความเร็วสูงสุดไม่เกิน 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง วิ่งได้ในระยะทางประมาณ 150 – 200 กิโลเมตรต่อการชาร์จแบตเตอรี่ 1 ครั้ง (ด้วยการวิ่งความเร็วเฉลี่ย 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง)