โอบามาเตือนอังกฤษอย่าออกจากสหภาพยุโรป
เมื่อวันที่ 24 เม.ย. ประธานาธิบดีบารัก โอบามา เดินทางออกจากอังกฤษหลังจากเตือนว่าอังกฤษอาจต้องใช้เวลาเป็นสิบปีที่จะทำข้อตกลงทางการค้าใหม่กับสหรัฐอเมริกา ถ้าอังกฤษตัดสินใจออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป
ในการให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์บีบีซี ประธานาธิบดีโอบามากล่าวว่า “อาจต้องใช้เวลา 5 ปีนับจากนี้ หรืออาจจะถึง 10 ปีกว่าที่เราจะสามารถทำข้อตกลงทางการค้าใหม่ๆสำเร็จ”
ทั้งนี้ สหรัฐอเมริกาและ 28 ประเทศในสหภาพยุโรปที่อังกฤษเป็นสมาชิกอยู่กำลังอยู่ในขั้นตอนการเจรจาเพื่อให้บรรลุข้อตกลงทางการค้าที่มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า ข้อตกลงหุ้นส่วนการค้าและการลงทุนภาคพื้นแอตแลนติก หรือทีทีไอพี
โดยประธานาธิบดีโอบามากล่าวว่า “อังกฤษอาจจะไม่สามารถเจรจาเพื่อทำความตกลงในเรื่องต่างๆ กับสหรัฐอเมริกาได้เร็วกว่าสหภาพยุโรป” และเสริมว่า” สหรัฐอเมริกาให้ความสำคัญกับการเจรจากับกลุ่มประเทศที่รวมหลายประเทศเข้าด้วยกันมากกว่า”
ประธานาธิบดีโอบามาเดินทางไปเยอรมนีหลังจากเยือนอังกฤษ 3 วัน ในช่วงเวลาที่มีผู้สนับสนุนให้อังกฤษแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป โดยนายโอบามาแสดงท่าทีอย่างชัดเจนว่า สนับสนุนให้อังกฤษเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปต่อไป
โดยเมื่อวันที่ 22 เม.ย. นายโอบามากล่าวว่า อังกฤษจะต้องถอยกลับไปเข้าคิวรอ ถ้าต้องการจะทำข้อตกลงใดๆ กับสหรัฐอเมริกาหลังจากอังกฤษตัดสินใจที่จะโหวตออกจากสหภาพยุโรปในวันลงประชามติวันที่ 23 มิ.ย.นี้
ถ้อยแถลงของประธานาธิบดีโอบามาสร้างความไม่พอใจให้กับฝ่ายผู้สนับสนุนให้อังกฤษแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป หรือเบร็กซิท และกล่าวหาว่าประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกากำลังก้าวก่ายหรือแทรกแซงอังกฤษ
นายไนเจล ฟาราจ ผู้นำพรรคต่อต้านสหภาพยุโรปเพื่อสนับสนุนอิสรภาพอังกฤษ กล่าวเมื่อวันที่ 24 เม.ย.ว่า “นายบารัก โอบามาไม่ใช่ประธานาธิบดีที่สนับสนุนอังกฤษ”
แต่นายโอบามาให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์บีบีซีว่า เขาหวังว่าผู้มีสิทธิ์ออกเสียงชาวอังกฤษจะรับฟังความคิดเห็นที่เป็นมิตรของ “ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่รักและห่วงใยในความสัมพันธ์ที่มีต่อกันอย่างที่สุด “
และเขายังกล่าวต่อไปว่า ความสัมพันธ์ใกล้ชิดระหว่างอังกฤษกับสหรัฐฯ จะคงอยู่ตลอดไป ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต โดยเขากล่าวว่า “สายสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศจะไม่แตกสลายไปได้ “
นางฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครตได้แชร์ความเห็นของนายโอบามาเกี่ยวกับเบร็กซิท หรือการแยกตัวจากสหภาพยุโรปของอังกฤษโดยนายเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษานโยบายอาวุโสกล่าวกับสื่อว่า นางคลินตัน “เชื่อว่าข้อตกลงความร่วมมือของทีทีไอพีเป็นเรื่องสำคัญ และความร่วมมือจะแข็งแกร่งที่สุดเมื่อยุโรปรวมกันเป็นหนึ่งเดียว เธอให้คุณค่ากับความแข็งแกร่งของอังกฤษเมื่อรวมอยู่ในสหภาพยุโรปที่แข็งแกร่ง”