ปรับครม.ประยุทธ์ 2/2 แก้วิกฤติซ้อนวิกฤติ ลดแรงกระเพื่อมการเมือง-แก้เกมเศรษฐกิจทรุด
การปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ประยุทธ์ 2/2 ทำท่าจะโกลาหล ภายหลังกระแสข่าวการปรับ “ครม.ประยุทธ์2/2” แพร่สะพัด ทำให้เกิดการวิ่งขึ้น-วิ่งลงตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล
เมื่อมีฟืน-ไฟ ย่อมมีควันไฟการปรับครม.ประยุทธ์ 2/2 ถูกจุดขึ้นในพรรคพลังประชารัฐ จากเชื้อฟืน-ปัญหาเศรษฐกิจที่รุมเร้ารัฐบาล เป็น “วิกฤติซ้อนวิกฤติ”
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ซ้ำเติม “เศรษฐกิจโลกขาลง” จาก “สงครามการค้า” ส่งผลกระทบถึงเศรษฐกิจ ทั้งธุรกิจท่องเที่ยวให้ต้อง “ล้มหายตายจาก” จากพิษ “ไวรัสมรณะ” และการเลิกจ้างแรงงาน
ซ้ำเติมด้วยภัยแล้ง-ค่าเงินบาท กระทบชิ่งไปถึงการส่งออกและราคาสินค้าเกษตร-ล้มเป็นโดมิโน
สะเทือนไปถึงการปรับครม.2/2 – เปลี่ยนตัวรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ภายในพรรคพลังประชารัฐเอง ไม่ใช่โควตาพรรคร่วมรัฐบาล อย่างพรรคภูมิใจไทย-พรรคประชาธิปัตย์
โดยเฉพาะพรรคภูมิใจไทยของ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล อาจจะได้ “เก้าอี้เพิ่ม” หลังจากไปช้อนซื้อ “งูเห่าสีส้ม” ส.ส.อดีตพรรคอนาคตใหม่ ได้ถึง 10 ตัว ทำให้มีเสียงเพิ่มขึ้นเป็น “อันดับสอง” ในบรรดาพรรคร่วมรัฐบาล
โดยเฉพาะ “แรงกระเพื่อม” ภายในพรรคพลังประชารัฐ ที่มีแกนนำกลุ่ม-ก๊วน เป็น “แคนดิเคต” รอต่อคิวนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีกันแถวยาวเหยียด
แกนนำกลุ่ม-ก๊วน ที่ “อกหัก” จาก “ครม.ชุดปัจจุบัน” ถึงคิวในการปรับครม. 2/2 ทั้ง “เสี่ยเฮ้ง” สุชาติ ชมกลิ่น ส.ส.ชลบุรี-ประธาน ส.ส.พรรค ที่มีชื่อ “ติดโผ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน “ครม.ประยุทธ์2/1”
และ “เสี่ยแฮ๊ง” อนุชา นาคาศัย ส.ส.ชัยนาท-รองประธานยุทธศาสตร์พรรค ที่เคยเป็น (ว่าที่) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง” ที่เคยออกอิทธิฤทธิ์ถึง พล.อ.ประยุทธ์-พล.อ.ประวิตร จนปวดเศียรเวียนเกล้า
ชื่อ “2 ฮ.” จึงมีข่าวลือ-ข่าวปล่อยออกมาอย่างหนัก ว่า จะได้เลื่อนชั้นเป็นเสนาบดีในครม.ประยุทธ์ 2/2
รวมถึง “อาจารย์แหม่ม” นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่เป็น “วอเปเปอร์” ให้พล.อ.ประยุทธ์ และเข้าถึงพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและประธานยุทธศาสตร์พรรค-พี่ใหญ่ 3 ป.
โดยมี ชื่อ-ตำแหน่งรัฐมนตรีที่ “ถูกแซะ” อย่าง “สุวิทย์ เมษินทรีย์” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุดมศึกษา วิจัยและนวัตกรรม ให้อยู่ในข่ายถูก “ปรับออก”
รวมถึง 4 ชื่อ ที่ถูกเลื่อยขาเก้าอี้-ปล่อยออกมา ว่า “ยื่นใบลาออก” ทั้ง “วิษณุ เครืองาม” รองนายกรัฐมนตรี “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” รองนายกรัฐมนตรี “ดอน ปรมัตถ์วินัย” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
และการ “โยนหินถาม” พล.อ.ประยุทธ์ “สลับเก้าอี้” กระทรวงพลังงาน ของ “สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์” กับ “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม
นับรวมถึงเก้าอี้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ของ “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” ส.ส.พะเยา แกนนำภาคเหนือ พลังประชารัฐ ที่ “ขาเก้าอี้โยก” มาตั้งแต่ศึกซักฟอก-อภิปรายไม่ไว้วางใจ
รวมทั่งรัฐมนตรีโลกลืม – ความชั่วไม่มี ความดีไม่ปรากฏ อย่าง “สันติ พร้อมพัฒน์” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง- แกนนำกลุ่มเพชรบูรณ์ ที่อาจจะถูกสลับไปนั่งพักผ่อน
ขณะที่พรรคขนาดเล็ก-ขนาดจิ๋ว “ลุ้นตัวโก่ง” หากมีการปรับครม.ประยุทธ์ 2/2 ก็อาจจะ “ส้มหล่น” ได้ขึ้นเป็นเสนาบดีในรัฐบาลกับเขาบ้าง
โดยเฉพาะพรรคพลังท้องถิ่นไท ของ “ชัช เตาปูน” ที่มีจำนวนมือ ส.ส. “เติมเสียง” ให้รัฐบาลในสภา เพิ่มขึ้น รวมถึงพรรคเศรษฐกิจใหม่ “สลับขั้ว” จากพันธมิตรฝ่ายค้าน พลิกลิ้น มาเป็นรัฐบาล
ไม่นับรวม 11 พรรคจิ๋ว กลุ่ม “กิจสังคมใหม่” ที่อาจจะ “แพคกันแน่น” เพื่อสร้างอำนาจต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรี
สวนทางกับพรรคชาติไทย-พรรคชาติไทยพัฒนา และพรรครวมพลังประชาชาติไทย ที่มี “เกณฑ์ถูกลดเกรด” เพื่อ สลับเก้าอี้ “ตำแหน่งว่าการ” ให้แกนนำกลุ่ม-ก๊วนพลังประชารัฐ
แม้พล.อ.ประยุทธ์ จะแบ่งรับ-แบ่งสู้ การปรับครม.ประยุทธ์ 2/2 ทว่า เมื่อปัญหาเศรษฐกิจปากท้องรุมเร้า-ทีมเศรษฐกิจมือไม่ถึง บวกกับแรงกดดันจากการชุมนุมของนักศึกษา-แฟลชม็อบ
จึงขึ้นอยู่กับว่าจะ “ปรับช้า” หรือ “ปรับเร็ว”.